ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อรชุน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ELUNIUMMAN (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
SafiyahSerafina (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 7:
อรชุนเป็นลูกของ[[พระอินทร์]]ที่ประทานมาให้นางกุนตีเพราะท้าวปาณฑุต้องคำสาป จึงไม่สามารถมีลูกได้ มีพี่2คนคือ [[ยุธิษฐิระ]]กับ[[ภีมะ]] และมีน้องอีก 2 คน คือ [[นกุล]]กับ[[สหเทพ]] อรชุนเป็นคนรูปงามมีฝีมือในการรบและพรสวรค์ในการยิงธนูมากที่สุด
 
เมื่อย้ายเข้ามาอยู่ในกรุงหัสตินาปุระ กลุ่มพี่น้องปาณฑพถูกกลั้นแกล้งหลายต่อหลายอย่างจาก[[ทุรโยชน์]] และกลุ่มพี่น้อง[[เการพ]] เพราะไม่ต้องการให้ยุธิษฐิระพี่คนโตของฝ่ายปาณฑพขึ้นครองราชย์ต่อจากท้าวธฤษราษฎร์ธฤตราษฎร์ จนในที่สุดกลุ่มปาณฑพก็ถูกย้ายไปที่เมืองหนึ่งเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้ง แต่ทุรโยชน์รโยธน์กลับจ้างคนให้ทำวังจากขี้ผึ้งเพื่อให้ติดไฟง่าย โชคดีที่มติวิทูรวิทุรอาของเหล่าปาณฑพรู้เรื่องก่อนจึงส่งคนไปทำทางหนี
 
เมื่อปุโรจันลูกน้องของทุรโยชน์รโยธน์ถูกส่งไปเผาวังก็ถูกภีมะกับอรชุนจัดการจนหมด เพื่อเป็นการยุติปัญหาพี่น้องปาณฑพที่หนีมาได้ จึงตัดสินใจบวชเป็นฤๅษีอยู่ในป่า วันหนึ่งมีฤๅษีตนหนึ่งบอกว่า นางเทราปตีปที ลูกสาวของท้าวทรุปัททรุปทกำลังเลือกคู่ จึงอยากให้พี่น้องปาณฑพไปร่วมงานนั้นด้วย เมื่อถึงในงานได้พบพวกของทุรโยชน์รโยธน์ แต่เนื่องจากเหล่าปาณฑพบวชเป็นฤๅษี จึงไม่มีใครจำได้ วิธีการเลือกคู่ของนางเทราปตีทีนั้นก็คือให้เจ้าชายแต่ละเมืองยกธนูทองที่วางอยู่กลางสนามประลองขึ้น แล้วยิงให้ถูกตาของปลาปลอมที่ติดอยู่บนจานหมุนลักษณะคล้ายร่มยอดเสา แต่ให้เล็งโดยใช้เงาจากในน้ำเท่านั้น ซึ่งอรชุนเท่านั้นที่ทำได้ และก็เป็นจริงดั่งว่าเพราะไม่มีเจ้าชายจากแคว้นใดเลยที่ยกได้ จนเมื่อมาถึงกรรณะ กรรณะสามารถยกธนูนั้นขึ้นได้อย่างง่ายๆ แต่กลับถูกท้าวทุรปัทห้ามไว้เทราปทีไม่ต้องการสยุมพรกับกรรณะเพราะว่ากรรณะเป็นวรรณะศูทรไม่อาจที่จะอภิเษกสมรสกับนางเทราปตีที่สูตะซึ่งนับเป็นวรรณะกษัตริย์ได้ต่ำกว่า เมื่อเจ้าชายที่เหลือไม่สามารถยกได้ท้าวทุรปัทจึงยอมลดวรรณะให้พราหมณ์มายกธนูแทน อรชุนที่ปลอมตัวมาจึงเข้าไปยก ปรากฏว่า อรชุนสามารถยกและยิงได้ถูกเป้าอีกด้วย เป็นเหตุให้พวกทรุโยชน์ทุรโยธน์ไม่ยอมและกล่าวหาว่าท้าวทรุปัทได้มีการล็อกคนไว้แล้วจึงเกิดการต่อสู้เพื่อแย่งนางเทราปตีขึ้นปทีขึ้น กรรณะอยากรู้ถึงฝีมือพราหมณ์ผู้นั้นจึงได้ดวลธนูกับอรชุน ส่วนที่เหลือเข้าไปสู้กับภีมภีมะ แต่ก็ไม่มีใครต้านทานภีมะได้จนถึงราชาศัลยาเจ้าแห่งมวยปล้ำ เขาได้สู้กับภีมะอย่างสูสี จนทุรโยชน์รโยธน์เริ่มสงสัยว่าพราหมณ์เหล่านี้อาจจะเป็นปาณฑพที่รอดตายปลอมตัวมา สุดท้ายท้าวทรุปัททรุปทได้สั่งให้หยุดการต่อสู้กัน พวกปาณฑพจึงพานางเทราปตีกับทีกลับที่พัก
 
เมื่อถึงที่พักนางกุนตีที่เป็นมารดานึกว่าพวกเขาไปหาอาหารกันมา จึงบอกว่าวันนี้ได้อะไรมาให้แบ่งกันให้ครบๆ จะได้ไม่ต้องมาแย่งกัน แต่พอมารู้อีกทีก็ต้องตกใจเพราะพวกเขาได้ตัวเจ้าหญิงเทราปตีมาปีมา แต่พวกยุธิษฐิระก็ตกลงว่าจะให้นางเทราปตีทีอยู่กับพวกปาณฑพทั้ง 5 คนละปี โดยปีแรกจะอยู่กับยุธิษฐิระก่อนปีถัดมาถึงอยู่กับภีมะและก็ไล่ไปเรี่อยๆ จนถึงสหเทพแล้วก็วนกลับมาที่ยุธิษฐิระใหม่ หากระหว่างที่นางเทราปตีทีอยู่กับสามีคนใดแล้วมีอีกคนเข้าไปยุ่งก็จะต้องเนรเทศตัวเองออกแล้วไปอยู่ป่าเป็นเวลา 14 ปี เมื่อทุกคนรู้ว่าพวกปาณฑพยังมีชีวิตอยู่จึงได้ไปเชิญให้กลับมาอยู่ที่กรุงหัสตินาปุระอย่างเดิม และเพื่อยุติปัญหาก็ได้ให้พวกปาณฑพไปสร้างเมืองอีกเมืองนึงอยู่ที่นอกอาณาเขตของกรุงหัสตินาปุระ แต่พื้นที่นั้นแห้งแล้งการที่จะสร้างเมืองก็เป็นไปด้วยความยากลำบากแต่ด้วยความดีของพวกปาณฑพจึงมีเทวดามาเนรมิตรเมืองให้โดยที่มีความสวยงามและอุดมสมบูรณ์ไม่แพ้นครหัสตินาปุระโดยตั้งชื่อว่า อินทรปรัศน์ทรปรัสถ์ เป็นเหตุให้พวกเการพยิ่งแค้นใจเข้าไปใหญ่
 
อยู่มาวันหนึ่งมีชาวเมืองคนหนึ่งวิ่งมาขอความช่วยเหลือจากอรชุนว่าวัวของตนถูกโจรมาขโมยไป อรชุนจึงไปหยิบอาวุธในตำหนักของยุธิษฐิระแต่ระหว่างนั้นนางเทราปตีกำลังอยู่กับยุธิษฐิระ เมื่ออรชุนไปแย่งวัวของชาวบ้านคนนั้นคืนมาได้อรชุนก็ต้องเนรเทศตัวเองตามที่สัญญาไว้ ทั้งๆ ที่อรชุนไม่จำเป็นต้องเนรเทศตัวเองก็ตาม
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/อรชุน"