ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดิเหลียงอู่"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Parpar2j (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Parpar2j (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 10:
อย่างไรก็ตาม ในปลายรัชกาลทรงสนพระทัยในกิจการอื่นๆมากเกินไป ละเลยราชกิจ ทำให้บ้านเมืองเกิดความปั่นป่วน จนขุนพลโหวจิ่ง(侯景) ก่อกบฏ ยพทักเข้ายึดนครหลวง แล้วจับพระองค์คุมขังไว้จนสวรรคต นักประวัติศาสตร์บางคนระบุว่า โหวจิ่งคุมขังพระองค์จนอดพระกระยาหาร สวรรคตในที่สุด เมื่อปี 549 พระชนมายุ 85 พรรษา
 
ขุนพลโหวจิ่ง ผู้นี้เดิมที่ขอลี้ภัยทางการเมืองจากวุ่ยตะวันออกมาพึ่งอาณาจักรเหลียง ต่อมาเว่ยตะวันออกก็เสอข้อต่อรองราชสำนักเหลียง ราชสำนักจึงมีแผนจะส่งโหวจิ่งกลับวุ่ยตะวันออก โหวจิ่งจึงก่อกบฎร่วมกับ เซียวเจิ้งเต๋อ(蕭正德) บุตรชายของน้องชายฮ่องเต้เหลียงอู่ อ๋องหกเซียวหวัง (萧宏) โหวจิ่งยกทัพล้อมเมืองหลวงเจี้ยนคัง(建康)นาน 300 กว่าวัน ฮ่องเต้เหลียงอู่ถูกจับตัวกักบริเวณและลดอาหารเหลือเพียงไข่ดิบ โดยให้ต้มไข่กินเอง จนสิ้นพระชนม์ โหวจิ่งเข้าควบคุมราชสำนัก กำจัดเซียวเจิ้งเต๋อ แต่งตั้งฮ่องเต้องค์ใหม่เป็นหุ่นเชิด ได้บีบบังคับเอาองค์หญิงลี่หยาง(溧陽公主)ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์มาเป็นเมียจนมีลูกด้วยกันอย่างไม่เต็มใจ ระหว่างที่โหวจิ่งมีอำนาจก็ยกทัพปล้นสะดมเมืองรอบข้าง ไล่ฆ่าประชาชนเป็นว่าเล่น ประชาชนมากมายต้องอดอยากจนตาย
ในที่สุดเซียวยี่ (蕭繹) โอรสองค์ที่เจ็ดของเหลียงอู่ตี้ก็ส่งหวังเซิงเปี้ยน(王僧辩)และเฉินป้าเซียน (陈霸先)และกองทัพตระกูลเฉิน(陳)เข้าสู้รบกับโหวจิ่ง จนโหวจิ่งพ่ายแพ้แตกยับพากองทัพหนี ระหว่างหนีก็ถูกลูกน้องลบสังหารตาย ในปีค.ศ. 552-554 เซียวยี่ขึ้นเป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่นามว่าเหลียงหยวนตี้(梁元帝)สั่งให้ตัดหัวโหวจิ่งและแขวนประจานที่เมืองเจียงหลิง(江陵)จากนั่นจึงสั่งให้ต้มทำความสะอาด แล้วให้เอาไป ลงรัก ให้สวยงามและเก็บไว้ ส่วนศพโหวจิ่งที่เมืองหลวงเจี้ยนคัง ถูกชาวบ้านเอาไปหมักเกลือทำอาหารกินระบายความแค้นจนร่างเหลือแต่กระดูก เนื้อบางส่วนถูกนำไปถวายเป็นเครื่องเสวยองค์หญิงลี่หยาง องค์หญิงจึงเสวยด้วยความแค้น ส่วนซากกระดูกก็ถูกนักเลงสุราเผาเป็นขี้เถ้าผสมเหล้าดื่ม