ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชาร์ลี ออสติน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 37:
ต่อมาก่อนเริ่มฤดูกาล 2009–10 ชาร์ลี ออสติน ได้ถูกจับตาจากแมวมองของ[[Swindon Town|สวินดอนทาวน์]] และได้ย้ายมาสังกัดเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 ด้วยการลงเล่นในฟุตบอลโทรฟีในฐานะตัวสำรองในนาทีที่ 88 และจากนั้นจึงได้รับดอกาสในลีกในนาทีที่ 70 กับนัดที่ไปเยือน[[สโมสรฟุตบอลนอริชซิตี|นอริชซิตี]] และในวันที่ 21 พฤศจิกายน ปีเดียวกัน ออสตินก็สามารถยิงประตูแรกในระดับการเล่นอาชีพได้สำเร็จในนาทีที่ 3 กับการเล่นกับ[[สโมสรฟุตบอลคาร์ไลล์ยูไนเต็ด|คาร์ไลล์ยูไนเต็ด]] อีก 3 วันต่อมา ออสตินก็ได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวจริง และยิงประตูได้อีกในนาทีที่ 59 ซึ่งเป็นประตูที่ทำให้ต้นสังกัดชนะ[[สโมสรฟุตบอลฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์ |ฮัดเดอส์ฟีลด์ทาวน์]]ไป 2-1 รวมทั้งหมดยิงไป 10 ประตู จากการลงสนามเล่นเป็นตัวจริง 11 นัด
 
===ฤดูกาล 2010–11, 2011–12, 2012–13===
ในฤดูกาล 2010–11 แม้ออสตินจะได้รับบาดเจ็บจากอาการไหล่หลุดเมื่อเดือนกันยายน แต่ทว่าก็ยังยิงประตูได้ถึง 17 ลูก จากการลงเล่นทั้งหมด 27 นัด ต่อมาออสตินได้ย้ายไปสังกัด[[สโมสรฟุตบอลเบิร์นลีย์|เบิร์นลีย์]] จากการที่ได้รับการจับตามองจากหลายสโมสรในระดับ[[ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป|แชมเปียนชิป]] ที่เบิร์นลีย์ ชาร์ลี ออสตินยิงในการลงเล่นถึง 8 นัดติดต่อกัน เป็นสถิติสูงสุดของสโมสรเท่ากับเรย์ พอยน์เตอร์ ที่ทำไว้ตั้งแต่ฤดูกาล 1958–59 และทำลายสถิติอีกด้วยการเป็นผู้เล่นที่ยิงประตูถึง 20 ประตูต่อฤดูกาลได้เร็วที่สุดในการลงเล่นเพียงนัดที่ 17 ของฤดูกาลเท่านั้น โดยสถิติเก่าเป็นของ เบรด ฟรีแมน ที่ทำไว้ตั้งแต่ฤดูกาล 1911–12 จนจบฤดูกาล ออสตินยิงไปทั้งสิ้น 20 ประตู จากการเล่นที่โดดเด่นเช่นนี้จึงได้รับการจับตามองจากหลายสโมสรในระดับพรีเมียร์ลีก และในเดือนกันยายน ค.ศ. 2013 เบิร์นลีย์ก็ได้ตัดสินใจขายตัวออสตินให้กับ[[สโมสรฟุตบอลฮัลล์ซิตี|ฮัลล์ซิตี]] แต่ทว่าการซื้อขายนี้ก็ไม่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าตัวไม่ผ่านการตรวจร่างกาย หลังจากนั้นควีนส์พาร์กเรนเจอส์ ก็ได้ติดต่อมา จึงได้ย้ายไปสังกัดด้วยสัญญา 3 ปี กับค่าตัวที่ไม่เปิดเผย แต่คาดการณ์ว่าอยู่ที่ 4 ล้านปอนด์ และทำให้ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก ด้วยการยิงไปทั้งสิ้น 20 ประตู