ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สงครามเย็น"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mr.Big Bean (คุย | ส่วนร่วม)
Mr.Big Bean (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 35:
การผ่อนคลายความตึงเครียดทลายลงเมื่อสิ้นทศวรรษโดย[[สงครามโซเวียตในอัฟกานิสถาน]]เริ่มใน ค.ศ. 1979 เป็นการพยายามให้อัฟกานิสถานยังเป็นฝ่ายคอมมิวนิสต์
 
ต้นคริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นอีกช่วงหนึ่งที่มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น โดยการที่โซเวียตยิง[[โคเรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 007]] ตก (ค.ศ. 1983) และการซ้อมรบ "เอเบิลอาร์เชอร์" ของนาโต้ (ค.ศ. 1983) สหรัฐเพิ่มการกดดันทางการทูต ทหารและเศรษฐกิจต่อสหภาพโซเวียต
 
==การผ่อนคลายครั้งสองและสิ้นสุดสงครามเย็น (ค.ศ. 1985-1991)==
เป็นช่วงปลายสงครามเย็น สหภาพโซเวียตกำลังประสบภาวะเศรษฐกิจซบเซาอยู่แล้ว ในกลางคริสต์ทศวรรษ 1980 ผู้นำโซเวียตคนใหม่ มีฮาอิล กอร์บาชอฟ ริเริ่มการปฏิรูปเปิดเสรี[[เปเรสตรอยคา]] (ค.ศ. 1987) และ[[กลัสนอสต์]] (ประมาณ ค.ศ. 1985) และยุติการเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในอัฟกานิสถานของโซเวียต การสนธิสัญญาควบคุมขีปนาวุธ INF การกดดันเรียกร้องเอกราชของชาติยิ่งเติบโตขึ้นในยุโรปตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศโปแลนด์ ฝ่ายกอร์บาชอฟไม่ยอมใช้ทหารโซเวียตเพื่อค้ำจุดระบอบสนธิสัญญาวอร์ซอที่ไม่มั่นคงดังที่เคยเป็นในอดีต ผลลงเอยด้วยใน ค.ศ. 1989 เกิดคลื่นปฏิวัติซึ่งโค่นระบอบคอมมิวนิสต์ทั้งหมดในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก พรรคคอมมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตเองเสียการควบคุมและถูกห้ามหลังความพยายามรัฐประหารอันไร้ผลในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1991 แล้วนำไปสู่[[การล่มสลายของสหภาพโซเวียต|การยุบสหภาพโซเวียต]]อย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1991 และการล่มสลายของระบอบคอมมิวนิสต์ในประเทศอื่นอย่างประเทศมองโกเลีย กัมพูชาและเยเมนใต้ สหรัฐเหลือเป็นประเทศอภิมหาอำนาจของโลกแต่ผู้เดียว