ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชอว์น ไมเคิลส์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 45:
 
===เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์/ดับเบิลยูดับเบิลยูอี (2002–ปัจจุบัน)===
ชอว์นกลับสู่สังเวียนมวยปล้ำอีกครั้งในปี 2002 หลังจากอาการบาดเจ็บที่หลังเป็นเวลา 5 ปี (ตั้งแต่ปี 1997 - 2002) ในนามกลุ่ม "[[nWo]]" ซึ่งในขณะนั้นมีสมาชิกได้แก่ เควิน แนช, สก็อตต์ ฮอลล์, เอกซ์-แพค, [[บูเกอร์ ที]], [[บิ๊กโชว์]]<ref>{{cite book|first=Michael|last=McAvennie|title=WWE The Yearbook: 2003 Edition|publisher=[[WWE Books]]|year=2003|month=April|isbn=0-7434-6373-0|pages=140–141|quote=The Black and White seemed complete after Kevin Nash announced the New World Order's latest recruitment at the June 3 ''Raw:'' the king of WWE "Attitude," Shawn Michaels!}}</ref> แต่กลับมาได้ไม่นาน กลุ่ม "nWo" ก็ได้สลายไป และชอว์นได้แยกมาปล้ำเดี่ยวอีกครั้ง ในศึก [[ซัมเมอร์สแลม]] 2002 เจอกับทริปเปิล เอชเปิลเอช ในรูปแบบการปล้ำแบบ "สตรีทไฟท์" และชอว์นสามารถเอาชนะไปได้<ref>{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/85.shtml|title=Full WWE Raw Results – 8/05/02|last=Nemer|first=Paul|date=2002-08-05|publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-09-15}}</ref> แต่ทว่า ทริปเปิล เอชเปิลเอช ลอบใช้ค้อนปอนด์มาตีที่หลังชอว์นหลังจบแมตช์และชอว์นต้องพักไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน<ref>{{cite book|first=Michael|last=McAvennie| title=WWE The Yearbook: 2003 Edition|publisher=[[WWE Books]]|year=2003|month=April|isbn=0-7434-6373-0|page=212}}</ref>
 
ชอว์นได้กลับมาอีกครั้ง ในศึก [[เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์]] 2002 และได้เข้าร่วมแมตช์การปล้ำแบบ [[อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์]] เป็นครั้งแรกซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดย [[อิริค บิสชอฟฟ์]] และในแมตช์นี้เองชอว์นสามารถเอาชนะนักมวยปล้ำอีก 5 คน ในกรงเหล็ก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ และสามารถคว้า [[แชมป์โลกเฮฟวี่เวท]] มาครอง ส่งผลให้ตัวชอว์นเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 4 ได้สำเร็จและได้ล้างแค้น ทริปเปิล เอชเปิลเอช เพื่อนสนิทด้วย<ref>{{cite book|first=Michael|last=McAvennie|title=WWE The Yearbook: 2003 Edition|publisher=[[WWE Books]]|year=2003|month=April|isbn=0-7434-6373-0|page=314}}</ref> แต่หลังจากนั้นชอว์นก็เสีย ชอว์นก็เสียแชมป์กลับไปให้กับ ทริปเปิล เอช อีกครั้ง ในศึก [[อาร์มาเกดอน]] 2002<ref>{{cite book|first=Michael|last=McAvennie|title=WWE The Yearbook: 2003 Edition|publisher=[[WWE Books]]|year=2003|month=April|isbn=0-7434-6373-0|page=330}}</ref> ในแมตช์การปล้ำแบบนรกสามขุม (การปล้ำแบบ 2 ใน 3 ยกโดยมีกติกาในแต่ละยกไม่เหมือนกัน) ซึ่งประกอบไปด้วย
ชอว์นกลับสู่สังเวียนมวยปล้ำอีกครั้งในปี 2002 หลังจากอาการบาดเจ็บที่หลังเป็นเวลา 5 ปี (ตั้งแต่ปี 1997 - 2002) ในนามกลุ่ม "[[nWo]]" ซึ่งในขณะนั้นมีสมาชิกได้แก่ เควิน แนช, สก็อตต์ ฮอลล์, เอกซ์-แพค, [[บูเกอร์ ที]], [[บิ๊กโชว์]]<ref>{{cite book|first=Michael|last=McAvennie|title=WWE The Yearbook: 2003 Edition|publisher=[[WWE Books]]|year=2003|month=April|isbn=0-7434-6373-0|pages=140–141|quote=The Black and White seemed complete after Kevin Nash announced the New World Order's latest recruitment at the June 3 ''Raw:'' the king of WWE "Attitude," Shawn Michaels!}}</ref> แต่กลับมาได้ไม่นาน กลุ่ม "nWo" ก็ได้สลายไป และชอว์นได้แยกมาปล้ำเดี่ยวอีกครั้ง ในศึก [[ซัมเมอร์สแลม]] 2002 เจอกับทริปเปิล เอช ในรูปแบบการปล้ำแบบ "สตรีทไฟท์" และชอว์นสามารถเอาชนะไปได้<ref>{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/85.shtml|title=Full WWE Raw Results – 8/05/02|last=Nemer|first=Paul|date=2002-08-05|publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-09-15}}</ref> แต่ทว่า ทริปเปิล เอช ลอบใช้ค้อนปอนด์มาตีที่หลังชอว์นหลังจบแมตช์และชอว์นต้องพักไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน<ref>{{cite book|first=Michael|last=McAvennie| title=WWE The Yearbook: 2003 Edition|publisher=[[WWE Books]]|year=2003|month=April|isbn=0-7434-6373-0|page=212}}</ref>
 
ยกที่ 1 สู้กันแบบ สตรีทไฟท์ ซึ่งผลที่ออกมา ยกแรก ทริปเปิลเอช เป็นฝ่ายกดชอว์นนับ 3 ทำให้ ทริปเปิลเอช มีคะแนนนำชอว์นอยู่ 1 คะแนน
ชอว์นได้กลับมาอีกครั้ง ในศึก [[เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์]] 2002 และได้เข้าร่วมแมตช์การปล้ำแบบ [[อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์]] เป็นครั้งแรกซึ่งถูกคิดค้นขึ้นโดย [[อิริค บิสชอฟฟ์]] และในแมตช์นี้เองชอว์นสามารถเอาชนะนักมวยปล้ำอีก 5 คน ในกรงเหล็ก อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ และสามารถคว้า [[แชมป์โลกเฮฟวี่เวท]] มาครอง ส่งผลให้ตัวชอว์นเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 4 ได้สำเร็จและได้ล้างแค้น ทริปเปิล เอช เพื่อนสนิทด้วย<ref>{{cite book|first=Michael|last=McAvennie|title=WWE The Yearbook: 2003 Edition|publisher=[[WWE Books]]|year=2003|month=April|isbn=0-7434-6373-0|page=314}}</ref> แต่หลังจากนั้นชอว์นก็เสีย แชมป์กลับไปให้กับ ทริปเปิล เอช อีกครั้ง ในศึก [[อาร์มาเกดอน]] 2002<ref>{{cite book|first=Michael|last=McAvennie|title=WWE The Yearbook: 2003 Edition|publisher=[[WWE Books]]|year=2003|month=April|isbn=0-7434-6373-0|page=330}}</ref> ในแมตช์การปล้ำแบบนรกสามขุม (การปล้ำแบบ 2 ใน 3 ยกโดยมีกติกาในแต่ละยกไม่เหมือนกัน) ซึ่งประกอบไปด้วย
 
ยกที่ 12 สู้กันแบบ สตรีทไฟท์การปล้ำในกรงเหล็ก ซึ่งผลที่ออกมา ยกแรกที่ 2 ชอว์นใส่ท่า Splash ลงมากด ทริปเปิล เอช เป็นฝ่ายกดชอว์นนับกับโต๊ะนับ 3 ทำให้ชอว์นมีคะแนนมาเสมอกับ ทริปเปิลเปิลเอช เอช มีคะแนนนำชอว์นอยู่เป็น 1-1 คะแนน
 
ยกที่ 23 สู้กันแบบ การปล้ำในกรงเหล็กไต่บันได ซึ่งผลที่ออกมา ยกที่ 2 ชอว์นใส่ท่า Splash ลงมากดสุดท้าย ทริปเปิลเปิลเอช เอชเป็นฝ่ายเอาชนะ กับโต๊ะนับ 3และได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวทไปครองอีกครั้ง ด้วยการทำให้ชอว์นมีคะแนนตกลงมาเสมอกับ ทริปเปิล เอช เป็น 1-1 คะแนนจากบันไดและลงบนโต๊ะ
 
ยกที่ 3 สู้กันแบบ ไต่บันได ซึ่งผลที่ออกมา ยกสุดท้าย ทริปเปิล เอช เป็นฝ่ายเอาชนะ และได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวทไปครองอีกครั้ง ด้วยการทำให้ชอว์นตกลงมาจากบันไดและลงบนโต๊ะ
[[ไฟล์:Jerichomichaels.jpg|thumb|left|150px|ชอว์นในช่วงที่เปิดศกกับ [[คริส เจอริโค]]]]
ในปี 2003 ชอว์นได้เปิดศึกกับ [[คริส เจอริโค]]<ref>{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/news/1048567703.shtml|title=Full WWE Raw Results – 3/24/03|last=Moore|first=Wesley|date=2003-03-24| publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-09-15}}</ref> ในช่วงต้นปี และทั้งคู่ได้เจอกัน ในศึก [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 19]] ซึ่งผลที่ออกมาชอว์นสามารถเอาชนะไปได้ในแมตช์สุดมันส์<ref name="WM19">{{cite web|url=http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2003/03/31/55003.html|title=WWE shines at WrestleMania XIX|first=John|last=Powell|accessdate=2008-06-13|date=2003-03-31|publisher=[[Canadian Online Explorer]]|work=Slam! Sports}}</ref> หลังจากนั้นก็ปล้ำไปเรื่อยๆตามสไตล์และมีโอกาสได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอีกครั้ง ในศึก ซัมเมอร์สแลม 2003 ในแมตช์การปล้ำแบบ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ซึ่งชอว์นเคยเอาชนะได้ในครั้งแรก แต่ครั้งนี้ชอว์นพลาดถูก [[บิลล์ โกลด์เบิร์ก|โกลด์เบิร์ก]] ใช้ท่า สเปียร์ + แจ็คแฮมเมอร์ ต่อเนื่อง กดนับ 3 ชวดการเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 5 อย่างน่าเสียดาย และในครั้งนั้น ทริปเปิล เอชเปิลเอช ก็เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ แต่หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน ชอว์นถูกสั่งให้มาปล้ำกับเด็กเมื่อวานซืนอย่าง [[แรนดี ออร์ตัน]] ที่ช่วงนั้นยังอยู่ในกลุ่ม [[เอฟโวลูชั่น (มวยปล้ำอาชีพ)|เอฟโวลูชั่น]] ซึ่ง ทริปเปิล เอช ก่อตั้งขึ้นมา ถูกสั่งโดยสตีฟ ออสติน ซึ่งในช่วงนั้นเป็นผู้จัดการทั่วไปของศึกรอว์ ร่วมกับ เอริคอิริค บิสชอฟฟ์ โดยให้ชอว์นเจอกับ แรนดี ออร์ตันชอว์นเจอกับออร์ตัน ในศึก [[ดับเบิลยูดับเบิลยูอี อันฟอร์กิฟเว่น|อันฟอร์กิฟเว่น]] 2003 ซึ่งผลที่ออกมา คือ ออร์ตันสามารถเอาชนะชอว์นไปได้จากการช่วยเหลือของริก แฟลร์ โดยการลอบส่งสนับมือให้กับออร์ตัน และออร์ตันใช้สนับมือชกใส่ชอว์นกดนับ 3 ไป
 
ในช่วงปลายปี 2003 สตีฟ ออสติน ประกอบไปด้วย 1. บูเกอร์ ที 2. [[ดี-วอน ดัดลีย์]] 3. [[มาร์ค โลโมนาโก้|บับบา เรย์ ดัดลีย์]] 4. [[ร็อบ แวน แดม]] 5. ชอว์น ไมเคิลส์ ได้ตั้งทีมของตนเองขึ้นมาเพื่อสู้กับทีมของ เอริคอิริค บิสชอฟฟ์ ประกอบไปด้วย 1. คริส เจอริโค 2. [[คริสเตียน (นักมวยปล้ำ)|คริสเตียน]] 3. [[มาร์ก เฮนรี]] 4. [[สก็อตต์ สไตเนอร์]] 5. แรนดี ออร์ตัน ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ 2003 โดยมีข้อแม้ว่า หากทีมของออสติน แพ้ต้องลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปร่วมของศึกรอว์ และต้องออกจากวงการมวยปล้ำด้วย ซึ่งในทีมของออสติน มีชอว์นร่วมอยู่ด้วย แต่ชอว์นไม่สามารถช่วยให้ทีมของออสติน นะไปได้ ซึ่งผลที่ออกมา คือ ทีมของบิสชอฟฟ์ สามารถเอาชนะไปได้จากการที่ชอว์นถูก [[เดฟ บาทิสตา|บาทิสตา]] มาเล่นงานด้วยท่า Sitdown Powerbomb ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Batista Bomb และออร์ตันฉวยโอกาสเข้ามากดชอว์นนับ 3 ไป ส่งผลให้ออสตินต้องลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปร่วมของศึกรอว์ และต้องออกจากวงการมวยปล้ำ และอีกเพียง 3 สัปดาห์ ต่อมาชอว์นได้ท้า บาทิสตา เจอกันในศึก [[อาร์มาเกดดอน]] 2003 ซึ่ง ในศึกใหญ่ครั้งนี้ชอว์นสามารถล้างแค้น บาทิสตา ได้สำเร็จจากการใส่ท่า Sweet Chin Music ใส่ บาทิสตา กดนับ 3 ไปได้ในแมตช์สุดมันส์อีกเช่นกัน
 
ในช่วงต้นปี 2004 ชอว์นมีโอกาสได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท อีกครั้งกับ ทริปเปิล เอชเปิลเอช ในศึก รอยัลรัมเบิล 2004 ในแมตช์การปล้ำแบบ Last Man Standing Match กติกาคือ เล่นงานคู่ต่อสู้จนถูกกรรมการนับ 10 ใครทำได้คนนั้นคือผู้ชนะ ชอว์นกับ ทริปเปิล ชอว์นกับทริปเปิลเอช ผลัดกันเล่นงานจนทั้งคู่หน้าแตกยับเยินทั้ง 2 ฝ่าย แต่ผลที่ออกมาคือ ชอว์นและ ทริปเปิล เอชชอว์นและทริปเปิลเอช ถูกกรรมการนับ 10 พร้อมกัน ลุกไม่ขึ้นทั้งคู่ส่งผลให้ ทริปเปิล เอชเปิลเอช สามารถป้องกันแชมป์ไปได้แบบส้มหล่น และชอว์นพลาดโอกาสเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 5 อย่างน่าเสียดายเช่นกัน แต่โอกาสอีกครั้งก็มาถึง เมื่อชอว์นได้ออกมาทำร้าย [[คริส เบนวา]] ผู้ชนะเลิศ ในศึก รอยัลรัมเบิล 2004 และมีสิทธิ์ท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ ทริปเปิล เอช ได้ ในระหว่างการเซ็นสัญญาการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ซึ่งชอว์นเซ็นสัญญาการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท แทนเบนวา ทำให้ทางด้านของ สตีฟ ออสติน ต้องออกมาจัดแมตช์การปล้ำ 3 เส้าขึ้นระหว่าง ทริปเปิล เอชเปิลเอช (แชมป์) ปะทะ เบนวา ปะทะ ชอว์น ในศึก [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20]] แทน และผลที่ออกมาคือ เบนวาสามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทมาครองได้สำเร็จ ส่งผลให้ตัวของเบนวาเป็นแชมป์โลกได้เป็นสมัยแรกจากการที่เบนวาใส่ท่า Crippler Crossface เล่นงาน ทริปเปิล เอช จนต้องตบพื้นยอมแพ้และเสียแชมป์ไป<ref name=pwi115>{{cite news|title=2007 Wrestling Almanac & Book of Dacts|work=Wrestling’s Historical Cards|publisher=Kappa Publishing|year=2007|page=115}}</ref>
 
ในช่วงนั้นทั้ง 3 คนยังคงมาเจอกันอีกครั้ง ในศึก [[แบคแลช]] 2004 โดยเจอกันในรูปแบบเดิมเหมือน ในศึก เรสเซิลเมเนีย และผลที่ออกมาคือ เบนวาสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จจากการที่เบนวา เล่นงาน ชอว์นด้วยท่า SharpShooter จนชอว์นต้องตบพื้นยอมแพ้ไป ถึงจะได้แชมป์โลกคนใหม่ แต่ความแค้นระหว่าง ชอว์นกับ ทริปเปิล เอช ยังไม่จบ ทั้งคู่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ในแมตช์ที่ได้ชื่อว่าโหดร้ายที่สุดใน WWE นั่นก็ คือ แมตช์การปล้ำแบบ [[ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เฮลล์อินเอเซลล์|เฮลล์อินเอเซลล์]] ในศึก [[แบดบลัด]] 2004 และทั้งคู่สามารถสู้กันได้อย่างสูสี แต่ผลที่ออกมาคือ ทริปเปิล เอชเปิลเอช ใช้ท่า Pedigree เล่นงานชอว์นกดนับ 3 ทริปเปิล เอช เป็นผู้ชนะในแมตช์สุดโหดนั้น และส่งผลให้ชอว์นต้องพักการปล้ำอีกประมาณ 3 เดือน และเมื่อชอว์นกลับมาอีกครั้งก็ถูก [[เคน (นักมวยปล้ำ)|เคน]] เล่นงานตลอดช่วง 1 เดือน ชอว์นขอท้าเจอกับเคนในศึก อันฟอร์กิฟเว่น 2004 ในรูปแบบแมตช์การปล้ำแบบไม่มีการจับแพ้ฟาล์ว (No Disqualification Match) กล่าว คือ ในระหว่างแมตช์นั้น สามารถเล่นงานคู่ต่อสู้ด้วยอาวุธได้ทุกรูปแบบ และชอว์นสามารถล้างแค้นและเอาชนะเคนไปได้ สร้างความปลาบปลื้มให้กับแฟนๆ มวยปล้ำอีกครั้ง ต่อมาในแมตช์ที่ชอว์นจับคู่กับ ฮัลค์ โฮแกน เจอกับ [[คาร์ลี โคลอน|คาร์ลีโต]] และ [[เคิร์ต แองเกิล]] หลังจากที่ชอว์นและโฮแกนสามารถเอาชนะคาร์ลิโต้และแองเกิลมาได้ หลังแมตช์ชอว์นได้ใส่ Sweet Chin Music เล่นงานใส่โฮแกน เนื่องจากไม่พอใจที่โฮแกนเป็นคนจับ คาร์ลีโต กดนับ 3<ref name="july4">{{cite web|first=Hunter| last=Golden|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1120520901.shtml|title=WWE Raw Results – July 4, 2005|accessdate=2008-07-17|date=2005-07-04|publisher=WrestleView.com}}</ref> จากนั้นชอว์นได้ท้าโฮแกน เจอกัน ในซัมเมอร์สแลม 2005 สุดท้ายโฮแกนก็เป็นฝ่ายชนะไป<ref>{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1121140355.shtml|title=Raw Results – July 11, 2005|last=Golden|first=Hunter|date=2005-07-11|publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-08-04}}</ref><ref>{{cite web|first=Hunter|last=Golden|url= http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1121745844.shtml|title=WWE Raw Results – July 18, 2005|accessdate=2008-07-17|date= 2005-07-18|publisher=WrestleView.com}}</ref>
[[ไฟล์:D-Generation X.jpg|thumb|200px|[[ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์]] (ชอว์นและ [[ทริปเปิล เอช]])]]
ในรอว์ ปีรอว์ปี 2006 ชอว์นได้ออกชอว์นออกมาบนเวที แล้วบอกกับ วินซ์ แม็กแมน ว่า ถึงเขาจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีฐานะร่ำรวย แต่สิ่งหนึ่งที่วินซ์ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ คือ การปล้นชัยชนะของ เบรต ฮาร์ต จนทำให้เบรตต้องลาออก<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/shows/raw/archive/01022006/|title=The Chamber awaits|accessdate=2008-07-16|date=2006-01-02|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]}}</ref> หลังจากนั้นเป็นต้นมา วินซ์ก็มีเรื่องกับชอว์นอยู่เรื่อยมา ตั้งแต่ในศึก [[รอยัลรัมเบิล (2006)]] ที่วินซ์และ [[เชน แม็กแมน]] มาก่อกวนชอว์นจนทำให้ตกเวที หมดสิทธิ์การเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ในศึก [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22]]<ref>{{cite web|url=http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/2006/01/30/1418142.html|title=Mysterio claims Rumble; Cena reigns again|last=Plummer|first=Dale|coauthors=Nick Tylwalk|date=2006-01-30|work=Slam! Sports|publisher=[[Canadian Online Explorer]]|accessdate=2008-08-06}}</ref> ชอว์นแค้นใจเป็นอย่างมาก และก่อนจะถึงศึกเรสเซิลเมเนีย นั้นสเซิลเมเนียนั้น วินซ์ได้ออกมาท้าชอว์นให้เจอกับตนในแมตช์ No Hold Barred Match (การปล้ำแบบไม่มีกฎ กติกา) และในศึก เรสเซิลเมเนีย ชอว์นก็สามารถเอาชนะวินซ์ ถึงแม้ว่าจะมีลูกน้องของวินซ์ออกมาช่วย แต่ชอว์นก็สามารถจัดการแล้วเอาชนะมาได้ท่ามกลางความสะใจของแฟนๆ มวยปล้ำ<ref name="WM22">{{cite video|date=2006|title=WrestleMania 22|medium=DVD|publisher=[[WWE Home Video]]}}</ref>
 
วินซ์ได้มีเรื่องกับ ทริปเปิล เอช จนต้องจัดแมตช์ให้ ทริปเปิล เอช เจอกับกลุ่ม [[สปีริต สค๊วอด]] ในแมตช์การปล้ำแฮนดิแคป แบบ 5 รุม 1 ชอว์นก็ออกมาช่วย ทริปเปิล เอช แล้ววันนั้นก็เป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของกลุ่ม ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์<ref name="June12">{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2006/1150169113.shtml|title=Raw Results – 6/12/06 – Penn State University (DX returns & more)|last=Golden|first=Hunter|date=2006-06-12|publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-08-06}}</ref> ในศึก อันฟอร์กิฟเว่น (2006) ดี-เอกซ์ได้เจอกับ วินซ์, เชน แม็กแมน และ บิ๊กโชว์ ในแมตช์การปล้ำ 3 รุม 2 ในกรงเหล็กเฮลอินเอเซล (3 On 2 Hell In A Cell Handicap Match) สุดท้าย ดี-เอกซ์ ก็เอาชนะไปได้<ref>{{cite web|url=http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/2006/09/18/1857195.html|title=Unforgiven just averages out|last=Elliott|first=Brian|date=2006-09-18|work=Slam! Sports|publisher=[[Canadian Online Explorer]]|accessdate=2008-08-06}}</ref> ต่อมา ดี-เอกซ์ไปเปิดศึกกับกลุ่ม [[เรด-อาร์เคโอ]] ([[อดัม โคปแลนด์|เอดจ์]] และ แรนดี ออร์ตัน) ซึ่งผลัดแพ้ผลัดชนะกันหลายรอบ จนจบด้วยการที่ ทริปเปิล เอช เจ็บเข่าต้องพักไป 7 เดือน<ref>{{cite web|first=Noah|last=Starr|url=http://www.wwe.com/shows/raw/archive/01082007/|title=Umaga spikes back|accessdate=2008-07-16|date=2007-01-08|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]}}</ref>
เส้น 92 ⟶ 91:
ในรอว์ 7 ตุลาคม 2013 ได้มีการให้แฟนๆ มวยปล้ำโหวตเลือกกรรมการพิเศษในแมตช์การปล้ำเฮลอินเอเซล เพื่อชิงแชมป์ WWE ที่ว่างอยู่ ระหว่าง แรนดี ออร์ตัน กับ [[แดเนียล ไบรอัน]] ในศึก [[เฮลอินเอเซล (2013)]] โดยมีตัวเลือกคือเหล่าตำนานนักมวยปล้ำ 3 คน ได้แก่ ชอว์น, บูเกอร์ ที และ [[บ็อบ แบ็กลันด์]] โดยผลโหวตออกมาคือ ชอว์นได้คะแนนโหวตมากที่สุด ทำให้ชอว์นได้เป็นกรรมการพิเศษในแมตช์ชิงแชมป์ WWE สุดท้ายชอว์นจัดการ Sweet Chin Music ใส่ไบรอัน เพราะไปเล่นงานทริปเปิล เอช เพื่อนรักของชอว์น และกดนับ 3 ให้ออร์ตันเอาชนะ และได้แชมป์ WWE สมัยที่ 8 ไป ในรอว์ (28 ตุลาคม 2013) ชอว์นออกมาเพื่ออธิบายสิ่งที่เขาทำลงไป และก็เรียกไบรอันออกมา ชอว์นบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้มันจบลงแบบนั้น ทริปเปิล เอชคือเพื่อนที่เขารักที่สุดและมันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เขาจะไม่ขอให้ไบรอันหรือใคร ๆ มาเข้าใจเขาแต่อยากจะขอให้ไบรอันยอมรับคำขอโทษและจับมือกับเขา ไบรอันไม่ยอมจับมือด้วย ชอว์นเลยสั่งสอนบทเรียนสุดท้ายในฐานะอาจารย์ว่าในวงการนี้ห้ามเชื่อใจใครเด็ดขาดรวมทั้งตัวเขาเองด้วย เขาคือ ชอว์น ไมเคิลส์ สตาร์ระดับ A+ และจะให้เกียรตินายได้จับมือกัน ดังนั้นจงจับมือซะดีๆ ไบรอันยอมจับมือ จากนั้นก็ลากชอว์นไปใส่ Yes Lock ก่อนที่กรรมการจะวิ่งออกมาช่วยห้าม ใน[[สแลมมีอะวอร์ด]] 2013 หรือศึกรอว์ (9 ธันวาคม 2013) ชอว์นได้มาประกาศมอบรางวัล ซูเปอร์สตาร์แห่งปี ซึ่งผู้ได้รางวัลก็คือ แดเนียล ไบรอัน ไบรอันออกมารับรางวัล โดยชอว์นทำท่าเหมือนไม่อยากจะให้ แต่สุดท้ายก็ต้องให้ ไบรอันบอกว่าเขาขอบคุณชอว์น ถ้าไม่มีชอว์นเขาก็คงจะไม่ได้มาอยู่ใน WWE อย่างในปัจจุบัน แต่ก็เป็นเพราะชอว์นอีกเหมือนกันที่ทำให้เขาไม่ได้เป็นแชมป์ WWE ในตอนนี้
 
ใน[[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31]] ชอว์นได้มาช่วย ทริปเปิล เอช โดย Sweet Chin Music ใส่[[สติง (นักมวยปล้ำ)|สติง]] ระหว่างแมตช์ของทริปเปิล เอช กับสติง ในรอว์ (19 ตุลาคม 2015) ที่แซนแอนโทนีโอ ชอว์นได้มาปรากฏตัวและพูดถึงแมตช์ อันเดอร์เทเกอร์ กับ บร็อก เลสเนอร์ แต่ [[เซท โรลลินส์]] ออกมายโวยวายว่าชอว์นมีคิวจะต้องออกมาพูดชื่นชมเขาต่างหาก แต่ชอว์นบอกว่าเขาลืมหมดแล้ว โรลลินส์บอกว่าเขาคือ ชอว์น ไมเคิลส์ คนใหม่ แต่โดนชอว์นตอกหน้าเลยขอตัวกลับก่อน พร้อมกับสั่งให้ทีมงานเปิดเพลงให้ด้วย แต่ทีมงานไม่ยอมเปิด ชอว์นบอก การเป็นชอว์นเวอร์ชัน 2 มันก็มีข้อเสียตรงนี้แหละ บอกให้คนเปิดเพลงให้เขาก็ไม่เปิด ชอว์นสั่งเปิดเพลงของตัวเองและก็เดินกลับไป ใน[[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32]] ชอว์นได้ปรากฏตัวพร้อมกับ[[มิค โฟลีย์]] และ[[สตีฟ ออสติน]] โดยมากระทืบพวก[[ลีกออฟเนชัน (มวยปล้ำอาชีพ)|เดอะลีกออฟเนชันส์]]
 
==ชีวิตส่วนตัว==