ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดินโปเลียนที่ 1"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 136:
เนื่องด้วยแนวคิดของอังกฤษที่จะกีดกันเรือสินค้าฝรั่งเศส จักพรรดินโปเลียนที่ 1 เลยพยายามจะบังคับให้เกิด[[การกีดกันภาคพื้นทวีป]] โดยมีวัตถุประสงค์จะหยุดยั้งกิจกรรมทางการพาณิชย์ของอุตสาหกรรมอังกฤษ โปรตุเกส อันเป็นประเทศพันธมิตรของอังกฤษมาเป็นเวลาช้านาน ปฏิเสธที่จะลงนามในสนธิสัญญานี้ จักพรรดินโปเลียนที่ 1 จึงทรงขอความช่วยเหลือจากสเปนในการบุกโปรตุเกส ในที่สุดพระองค์ก็ได้รุกรานประเทศสเปน และตั้ง[[โจเซฟ โบนาปาร์ต]] น้องชายขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองที่นั่น และ[[โปรตุเกส]]ก็ถูกจักพรรดินโปเลียนที่ 1 รุกรานเช่นกันในปี [[พ.ศ. 2350]] (ค.ศ. 1807) ประชากรส่วนหนึ่งของ[[สเปน]]ที่คลั่งใคล้ในกลุ่มนักบวชได้ลุกฮือขึ้นต่อต้านชาวฝรั่งเศส ในไม่ช้า กองพลทหารราบฝีมือเยี่ยมของอังกฤษ บัญชาการโดยว่าที่[[ดยุกแห่งเวลลิงตัน]] (อาร์เธอร์ เวลสลีย์) ก็ได้เคลื่อนทัพสู่สเปน โดยผ่านโปรตุเกสในปี [[พ.ศ. 2351]] (ค.ศ. 1808) และด้วยความช่วยเหลือของกลุ่มผู้รักชาติชาวสเปน ก็ได้ผลักดันกองทัพฝรั่งเศสออกจาก[[คาบสมุทรไอบีเรีย]] ในขณะที่กองทหารที่ฝีมือดีที่สุดของฝรั่งเศสกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ใน[[สเปน]] ออสเตรียก็ได้บุกฝรั่งเศสอีกครั้งจากแถบเยอรมนี และถูกปราบลงอย่างราบคาบใน[[ยุทธการวากร็อง]] จอมพล[[ลานส์]] เพื่อนและผู้ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่ของจักรพรรดิจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ได้ถึงแก่กรรมที่เมือง[[เอสลิง]]
 
หลังจากที่พระเจ้าซาร์[[อเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย]] ได้รับการหนุนหลังจากชนชั้นสูงในรัสเซียที่เข้าข้างฝ่ายอังกฤษ ก็ได้ปฏิเสธที่จะร่วมมือกับจักพรรดินโปเลียนที่ 1 ในการโจมตี[[สหราชอาณาจักร]] จักพรรดินโปเลียนที่ 1 ซึ่งเชื่อว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงสงครามกับอังกฤษได้ ได้กรีฑาทัพ[[การรุกรานรัสเซียของฝรั่งเศส|บุกรัสเซียในปี [[พ.ศ. 2355]] (ค.ศ. 1812) ทัพใหญ่ของจักพรรดินโปเลียนที่ 1 ประกอบด้วยกองทัพพันธมิตร[[อิตาลี]] เยอรมนี และออสเตรียมีขนาดมหึมา มีทหารกว่า 600,000 นายที่ร่วมเดินทัพข้าม [[แม่น้ำนีเมน]]
 
พวกรัสเซียที่บัญชาการโดย[[มิคามีฮาอิล คูตูซอฟ|จอมพล มีฮาอิลลาริโอโนวิทช์ โกเลนิทเชฟ-คูตูโซซอฟ]] ได้ใช้ยุทธวิธี ''[[scorched earth]]'' โดยถอยร่นให้ทัพฝรั่งเศส]ามรุกเข้ามาให้รัสเซีย การรบที่[[ยุทธการมอสโก|มอสโก]]เมื่อวันที่ [[12 กันยายน]] ไม่มีผู้ใดแพ้ชนะ แม้ว่าพวกรัสเซียจะเป็นฝ่ายทิ้งชัยภูมิ แต่ทั้งสองฝ่ายก็เสียทหารไปในจำนวนเท่า ๆ กัน
 
วันรุ่งขึ้นหลังจากกองทัพฝรั่งเศสเคลื่อนทัพเข้ากรุงมอสโก ก็พบว่ามอสโกกลายเป็นเมืองร้าง เมื่อฝรั่งเศสตายใจ พวกรัสเซียได้จุดไฟเผากรุงมอสโกในทันที ทำให้จักพรรดินโปเลียนที่ 1 ต้องถอยทัพ ฤดูหนาวอันโหดร้าย กำลังจะมาเยือนดินแดนแถบรัสเซียในอีกเพียงไม่กี่วัน จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ที่คาดว่าจะมีความเคลื่อนไหวจากพระเจ้าซาร์ซาร์ได้ชะลอการถอยทัพไปจนถึงนาทีสุดท้าย
 
กองทัพฝรั่งเศสได้ถอยทัพอย่างทุลักทุเลไปทางเยอรมนี ในช่วงฤดูหนาวของรัสเซีย ผ่านดินแดนที่เคยเป็นทางผ่านตอนขามาและถูกโจมตีเสียย่อยยับ ในจำนวนทหารเกือบ 500,000 นายที่เข้าร่วมรบ มีเพียงหมื่นกว่านายที่สามารถข้าม[[แม่น้ำเบเรซินา]]กลับมาได้ แถมยังถูกกองทัพรัสเซียดักโจมตี กองทัพใหญ่ของจักพรรดินโปเลียนที่ 1 ต้องถึงกาลล่มสลายเนื่องด้วยไม่รู้จักพื้นที่ดีพอ