ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป"

 

'''ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป''' ({{lang-en|European Football Championship}}) หรือที่นิยมเรียกทั่วไปว่า ''ฟุตบอลยูโร'' เป็นการแข่งขัน[[ฟุตบอล]]รายการสำคัญที่สุดของทีมชาติใน[[ทวีปยุโรป]] ซึ่งจัดขึ้นทุก 4 ปีโดย[[สมาคมฟุตบอลยุโรป]] (ยูฟ่า) และจะห่างจากการแข่งขัน[[ฟุตบอลโลก]]ของ[[ฟีฟ่า]] 2 ปี เริ่มแข่งขันมาตั้งแต่ปี [[พ.ศ. 2503]] (ค.ศ. 1960) ในชื่อรายการว่า ''ยูโรเปียนเนชันส์คัพ'' (European Nations Cup) จากแนวคิดของ ''อองรี เดอโลเนย์'' เลขาธิการ[[สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส]]ขณะนั้น ทั้งนี้การแข่งขัน 5 ครั้งแรก มีทีมชาติร่วมแข่งขัน รอบสุดท้ายเพียง 4 ประเทศ ต่อมาตั้งแต่[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1968|การแข่งขันครั้งที่ 3]] ประจำปี [[พ.ศ. 2511]] (ค.ศ. 1968) เปลี่ยนชื่อการแข่งขันเป็น ''ยูโรเปียนฟุตบอลแชมเปียนชิพ'' ดังที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และใน[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1980|ครั้งที่ 6]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2523]] (ค.ศ. 1980) มีทีมชาติเข้าแข่งรอบสุดท้าย เพิ่มเป็น 8 ประเทศ ส่วนการแข่งขันนัดชิงลำดับที่สาม ยกเลิกไปใน[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1984|ครั้งที่ 7]] เมื่อ [[พ.ศ. 2527]] (ค.ศ. 1984) จากนั้นใน[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1996|ครั้งที่ 10]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2539]] (ค.ศ. 1996) เพิ่มจำนวนเป็น 16 ประเทศ ในรอบสุดท้าย และใน[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016|ครั้งที่ 15]] ซึ่งจะจัดขึ้นปี [[พ.ศ. 2559]] (ค.ศ. 2016) ทีมชาติในรอบสุดท้ายจะเพิ่มขึ้นเป็น 24 ประเทศ สำหรับ[[ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012|การแข่งขันครั้งล่าสุด]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2555]] (ค.ศ. 2012) จัดการแข่งขันที่[[สาธารณรัฐโปแลนด์]]และ[[ประเทศยูเครน]]

 

== ผลการแข่งขัน ==

:<div id="1">¹ เยอรมนีตะวันตก

:<div id="2">² [[ฟุตบอลทีมชาติเชโกสโลวาเกีย|เชโกสโลวาเกีย]]

 

== อ้างอิง ==