ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระยาคำฟั่น"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 23:
 
== พระราชประวัติ ==
'''พระยาคำฟั่น''' เป็นพระราชโอรสลำดับที่ 8 ใน[[เจ้าฟ้าสิงหราชธานี เจ้าฟ้าหลวงชายแก้ว]] ผู้ครองนครลำปางองค์ที่ 2 กับ แม่เจ้าจันทา และเป็นพระราชนัดดา (หลานปู่) ใน[[พระยาไชยสงคราม (ทิพย์ช้าง)]] กับแม่เจ้าพิมพา ซึ่งเป็นองค์ปฐมวงศ์ "ราชวงศ์ทิพย์จักร" (เชื้อเจ้าเจ็ดตน)
 
พระยาคำฟั่น เป็นพระอนุชาของ[[พระเจ้ากาวิละ]] มีพระเชษฏา พระอนุชาและพระขนิษฐา รวม 10 พระองค์ (หญิง 3 ชาย 7) (เจ้าชายทั้ง 7 พระองค์ได้ทรงช่วยกันต่อสู้อริราชศัตรูขยายขอบขัณฑสีมาล้านนาออกไปอย่างเกรียงไกร เป็นเหตุให้มีพระสมัญญาว่า "เจ้าเจ็ดตน") มีพระนามตามลำดับ ดังนี้
บรรทัด 38:
* [[พระเจ้าลำพูนไชย|พระเจ้าบุญมา]] พระเจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 2
 
เจ้าคำฝั้นเษกสมรสกับ แม่เจ้าตาเวย ราชธิดาในเจ้าฟ้าเมืองยางแดง (หรือ เมืองกันตะระวดี) อันเป็นดินแดนกะเหรี่ยงที่รุ่งเรืองและร่ำรวยมากไปด้วย[[สัก (ต้นไม้)|ไม้ขอนสัก]]อันล้ำค่า ต่อมา[[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]]ได้รับพระราชทานพระนามอันเป็นมงคลยิ่งแก่แม่เจ้าตาเวยราชเทวี ว่า "แม่เจ้าเนตรนารีไวยมหาเทวี" แม่เจ้าตาเวยราชเทวี ได้รับมรดกส่วนพระองค์ ในฐานะราชธิดาเจ้าฟ้าเมืองยางแดง เป็นที่ดินป่าไม้ขุนยวม [[อำเภอแม่สะเรียง]] [[จังหวัดแม่ฮ่องสอน]] จำนวน 400,000 กว่าไร่ ซึ่งปัจจุบันที่ดินดังกล่าวราชสำนักสยามได้ตัดสินให้เป็นป่าไม้ชั้น 2
 
เจ้าคำฟั่น ได้รับแต่งตั้งเป็น'''พระยาราชวงศ์'''เมืองเชียงใหม่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ต่อมา จ.ศ. 1176 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยทรงพระดำริให้รื้อฟื้นเมืองลำพูนไชยซึ่งร้างอยู่ให้กลับเป็นเมือง จึงโปรดเกล้าเลื่อนพระยาราชวงศ์คำฟั่นเป็น'''พระยาลำพูนไชย''' ครองเมืองลำพูนตั้งแต่วันพฤหัสบดี ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 11 ศกนั้น<ref>''พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย'', หน้า 95</ref> ปีต่อมาทรงเลื่อนพระยาลำพูนคำฟั่นเป็น'''พระยาอุปราช'''เมืองเชียงใหม่<ref>''พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย'', หน้า 96</ref> ถึง จ.ศ. 1185 จึงโปรดให้เลื่อนเป็น'''พระยาเชียงใหม่'''<ref>''พงศาวดารเมืองนครเชียงใหม่ เมืองนครลำปาง เมืองลำพูนไชย'', หน้า 97</ref>
บรรทัด 48:
 
{{บน}}
===; แม่เจ้าคำแปง ===
* เจ้าหนานไชยเสนา
* เจ้าหนานมหายศ
บรรทัด 58:
* เจ้าคำค่าย
 
===; แม่เจ้าตาเวย ===
* [[พระยาราชวงศ์ (มหาพรหมคำคง)]], พระยาราชวงศ์นครเชียงใหม่ - เจ้าบิดาใน[[พระเจ้าอินทวิชยานนท์]]
* เจ้าบุญนำ - ชายาเจ้าหนานมหาวงศ์ (โอรสพระเจ้าบรมราชาธิบดีกาวิละ)
* เจ้าคำเกี้ยว - ชายา พระยาอุปราชนครลำพูน"
* แม่เจ้าเขียวก้อมเทวี - ชายาในพระยาวิชิตชลธี "(เจ้าหลวงหนานขัติยะ, พระยาวิชิตชลธี) เจ้าเมืองตาก" เป็นเจ้ามารดาในเจ้าราชวงศ์หนานไชยเทพ ธนัญชยานนท์, เจ้าราชวงศ์นครลำพูน ต้นราชตระกูลสาขา "ธนัญชยานนท์"
* เจ้าฟองสมุทร - ชายา "เจ้าหนานไชยวงศ์ ณ เชียงตุง", ราชนัดดา (หลานปู่) ใน "เจ้าฟ้าชายสามจุฬามณีสิริเมฆภูมินทร์, เจ้าฟ้านครเชียงตุง องค์ที่ 1"
* เจ้าเปาพิมาลย์
 
===; หม่อมตาคำ ===
* เจ้าคำเมา - รับราชการฝ่ายในเป็นเจ้าจอมใน ร.3 (ไม่มีพระราชโอรส พระราชธิดา) <ref>พิเชษ ตันตินามชัย. "เจ้าหญิงเชียงใหม่" ศิลปวัฒนธรรม 26 : 2 ธันวาคม 2547.</ref>
* เจ้าลังกา
* เจ้าคำปวน
* เจ้าหนานมหาวงศ์
 
===; หม่อมคำชัง ===
* เจ้าบัวถา
* เจ้ากัณหา
 
===; หม่อมแก้วพา ===
* เจ้ามณีวรรณ
 
===; หม่อมคำหล้า ===
* เจ้าธรรมเสนา
* [[เจ้าบุรีรัตน์ (ภูเกียง )]], พระยาบุรีรัตน์เมืองเชียงราย - เจ้าบิดาใน[[พระยารัตนอาณาเขต "(เจ้าหลวงหนานสุยะ (ณ เชียงใหม่) , พระยารัตนอาณาเขต]] เจ้าเมืองเชียงราย" และเป็นเจ้าปู่ทวดใน "แม่เจ้าขานแก้ว จักรคำขจรศักดิ์ราชเทวี" และ "แม่เจ้าแขกแก้ว จักรคำขจรศักดิ์" ใน "พลตรี เจ้าจักรคำขจรศักดิ์, เจ้าผู้ครองนครลำพูน องค์ที่ 10"
{{กลาง}}
 
===; หม่อมคำเอ้ย ===
* เจ้าอุปราช (ธรรมปัญโญ), เจ้าอุปราชนครเชียงใหม่ - สมรสกับ "เจ้าหญิงอุส่าห์ ณ เชียงตุง" ธิดา "เจ้าเมืองเหล็ก" ราชโอรสใน "เจ้าฟ้าชายสามจุฬามณีสิริเมฆภูมินทร์, เจ้าฟ้านครเชียงตุง องค์ที่ 1"
* เจ้าน้อยธรรมกิติ
 
===; หม่อมขาว ===
* เจ้าหนานธรรมปัญญา
 
===; หม่อมคำแสน ===
* เจ้าหนานพรหมจักร
* เจ้าหนานคำวัง
* เจ้าน้อยจักรคำ - สมรสกับ "เจ้าหญิงคำทิพย์ ณ เชียงใหม่" ราชธิดาใน "[[พระยาธรรมลังกา]]"
* เจ้าน้อยมโนรส
 
===; หม่อมอุ่นเรือน ===
* เจ้าหนานสุยะ
 
===; หม่อมเรือน ===
* เจ้าคำตื้อ
 
===; หม่อมคำแลบ ===
* แม่เจ้ากันธิมาเทวี - ชายาใน "เจ้าหลวง[[พระยาเทพวงศ์]]ลิ้นทอง, เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 1"
* เจ้าหญิงกัลยา
 
===; หม่อมคำไฝ ===
* เจ้าหญิงมุกดา
 
===; หม่อมคำตุ้ย ===
* เจ้าสนธยา - ชายาใน "เจ้าหนานไชยเสนา ณ เชียงใหม่" ราชโอรสใน[[พระเจ้ากาวิละ]]
* เจ้าบัวบุศย์
 
===; หม่อมใจคำ ===
* เจ้าหนานกาวิละ
* เจ้าบัวศรี
* เจ้าพิมพา
 
===; หม่อมคำเอ้ย ===
* เจ้าคำนาง
* เจ้าเบ็ญจ๋าย
บรรทัด 128:
== การครองนครเชียงใหม่ ==
{{เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร}}
เมื่อพระยาเศรษฐีคำฝั้น ครองเมืองเชียงใหม่ ได้เกิดการทะเลาะวิวาทกับเจ้าราชวงศ์สุวัณคำมูน ทำให้บรรดาขุนนางได้ไปเชิญ[[พระเจ้าดวงทิพย์|เจ้าดวงทิพย์]] และ[[พระเจ้าลำพูนไชย|เจ้าบุญมา]] มาประนีประนอมการวิวาทครั้งนี้ โดยแนะนำให้พระยาคำฝั้น เสด็จออกผนวช[[วัดเชียงมั่น]] แล้วไปจำพรรษาที่[[วัดสวนดอก (พระอารามหลวง)|วัดสวนดอก]] จากนั้นได้มีการปล่อยรถม้าเสี่ยงทายหาเจ้าหลวงองค์ใหม่ แต่รถม้าดังกล่าวกลับมาหยุดอยู่ที่บริเวณหน้าวัดสวนดอก ซึ่งเป็นที่ประทับของพระยาคำฝั้น เหลาบรรดาเจ้านาย และขุนนางจึงได้อัญเชิญพระยาคำฝั้น ให้ลาสิขาบทสิกขาบทกลับมาเป็นเจ้าหลวงครองนครเชียงใหม่อีกครั้ง<ref name=chiangmainews/>
 
ในช่วงรัชกาลของพระยาคำฝั้น เป็นช่วงเวลาที่[[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]] เสด็จสวรรคต และกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ได้ขึ้นครองราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 3 แห่งราชวศ์จักรี ใน พ.ศ. 2367 และพระยาหลวงฯ ประชวรในขณะที่ส่ง[[พระยาพุทธวงศ์|พระยาอุปราชพุทธวงศ์]]และเจ้านายบางส่วนไปเฝ้ารัชกาลที่ 3 เมื่อล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 ทรงทราบถึงอาการเจ็บป่วย จึงได้จัดส่งแพทย์หลวงมารักษาแต่อาการก็ไม่ดีขึ้น จนถึงวันอาทิตย์ เดือนห้า แรม 11 ค่ำ ในเวลาบ่าย พระยาคำฝั้นก็ถึงแก่พิราลัย ในจุลศักราช 1186 (ตรงกับวันที่ [[13 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2368]]) สิริอายุรวม 69 ปี และเจ้าพระยาอุปราชพุทธวงศ์ ขึ้นเป็นเจ้าหลวงผู้ครองนครองค์ที่ 4 โดยมีเจ้าหนานมหาวงศ์ บุตร[[พระยาธรรมลังกา]]เป็นเจ้าพระยาอุปราช และเจ้าน้อยมหาพรหม บุตรพระยาคำฝั้น เป็นพระยาราชวงศ์เชียงใหม่สืบไป<ref name=chiangmainews/>
 
==ลำดับสาแหรก==
บรรทัด 195:
 
{{เรียงลำดับ|คำฝั้น}}
{{ประสูติปีอายุขัย|2299|2368}}
{{สิ้นพระชนม์ปี|2368}}
[[หมวดหมู่:เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่| 3]]
[[หมวดหมู่:เจ้าผู้ครองนครลำพูน| 1]]