ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วอลโกกราด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3:
'''วอลโกกราด''' ({{lang-ru|Волгоград}}; {{lang-en|Volgograd}}) เป็นเมืองอุตสาหกรรมสำคัญและเมืองหลวงของ[[มณฑลวอลโกกราด]] ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ[[ประเทศรัสเซีย]] ส่วนที่อยู่ใน[[ทวีปยุโรป]] ตั้งอยู่บนฝั่ง[[แม่น้ำวอลกา]] เป็นเมืองท่าที่สำคัญบนฝั่งแม่น้ำ ผลิตเคมีภัณฑ์ วัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์อาหาร และเป็นสถานีไฟฟ้าพลังน้ำที่สำคัญ เมืองมีประชากร 1,021,244 คน (ค.ศ. 2010)
 
เดิมเป็นป้อมของชาวรัสเซียที่สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1589 เพื่อป้องกันการโจมตีของ[[ชาวคัลมัก]] [[ชาวคอสแซก]] และผู้เข้าโจมตีกลุ่มอื่น ๆ ต่อมาถูกยึดครองใน ค.ศ. 1670 โดยชาวคอสแซก ซึ่งมี[[สเตนคา ราซิน]] เป็นผู้นำ เมืองเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการสร้างทางรถไฟ พวก[[บอลเชวิค]]ได้เข้ายึดครองใน ค.ศ. 1917 เป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งระหว่างสงครามกลางเมืองใน ค.ศ. 1919-1920 เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น'''สตาลินกราด'''ใน ค.ศ. 1925 เพื่อเป็นเกียรติแก่[[โจเซฟ สตาลิน]]
ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]เมืองสตาลินกราดได้ตกเป็นเป้าหมายของนาซีเยอรมัน เมื่อครั้งที่กองทัพเยอรมันได้บุกสหภาพโซเวียตในปฏิบัติการบาร์บารอสซา เนื่องจากต้องการให้ขวัญกำลังใจแก่กองทัพและต้องการโจเซฟ สตาลินเสียหน้าโดยการยึดเมืองสตาลินกราดที่มีชื่อของสตาลิน แต่สตาลินไม่ต้องการเสียเมืองสตาลินกราดอย่างเด็ดขาดจึงส่งทหารไปป้องกันในเมืองสตาลินกราดจนเกิด[[ยุทธการสตาลินกราด|การรบ]]กันอย่างหนักหลายเดือน ทำให้เมืองถูกทำลายอย่างหนักและมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมายมหาศาล หลังจากนั้นในที่สุดสหภาพโซเวียตสามารถป้องกันและเอาชนะเหนือกองทัพเยอรมันได้สำเร็จ หลังจากนั้นเมืองสตาลินกราดได้รับการยกย่องเป็นวีรนครที่สองเคียงคู่กับเลนินกราดและได้สร้างอนุสาวรีย์พระแม่รัสเซียขึ้นเพื่อเป็นการรำลึกเหตุการณ์สงครามในเมืองที่คร่าไปหลายชีวิต และใน ค.ศ. 1964 หลังจากการอสัญกรรมของสตาลิน นิกิตา ครุสชอฟได้ขึ้นเป็นผู้นำของสหภาพโซเวียตได้ดำเนินนโยบายลดบทบาทของสตาลินด้วยการประณามความโหดร้ายและทำลายรูปปั้น, ลบชื่อสตาลินเในบทเพลง เมืองสตาลินกราดที่มีชื่อสตาลินก็ได้ปลี่ยนกลับมาใช้ชื่อเดิมอีกครั้งจนถึงปัจจุบัน
 
[[หมวดหมู่:เมืองในประเทศรัสเซีย]]