ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เซลตาเดบิโก"

| nickname = ''โอสเซลตีโกส'' (เดอะเซลติกเหล่าชาวเคลต์)<br />''โอสเซเลสเตส'' (เดอะสกายบลูเหล่าชุดฟ้า)<br />''โอเซลตีญา'' (เดอะลิตเติลเซลตาเจ้าเซลตาน้อย)

| ground = [[Balaídos|บาไลย์โดสลาอีโดส]]<br /> [[บีโก]] [[ประเทศสเปน]]

| capacity = 29,000 คน<ref>http://www.celtavigo.net/en/club</ref>

| manager = [[Eduardo Berizzo|เอดูอาร์โดดัวร์โด เบริซโซ]]

'''เรอัลกลุบเซลตาเดบีโก''' ({{lang-es|Real Club Celta de Vigo}}) หรือเรียกว่า '''เซลตาบีโก''' หรือ '''เซลตา''' เป็นสโมสรฟุตบอลสเปน ตั้งอยู่ในเมือง[[บีโก]] [[แคว้นกาลิเซีย]] [[ประเทศสเปน]] ปัจจุบันลงแข่งขันใน[[ลาลีกา]] โดยก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2466 จากการรวมตัวกันของเรอัลบีโกสปอร์ติง กับ เรอัลฟอร์ตูนาโฟตบัลกลุบอัลฟอร์ตูนาฟุตบอลกลุบ โดยมีฉายาว่า "โอสเซเลเตส" (สีเหล่าชุดฟ้า) ซึ่งมีชุดเหย้าเป็นเสื้อสีฟ้าและกางเกงสีขาว มีสนามเหย้าชื่อ [[บาไลย์โดสลาอีโดส]] สามารถจุผู้ชมได้ 29,000 คน ชื่อสโมสรมีที่มาจาก[[ชาวเคลต์]] ซึ่งเคยอาศัยอยู่ในแถบพื้นที่นี้ โดยเซลตาเดบีโกมี[[เดปอร์ตีโบเดลาโกรูญา]] เป็นทีมคู่แข่งในการแข่งขัน[[กาลิเซียนแดร์บีดาร์บี]]

อย่างไรก็ตามในการลงเล่นในลาลีกาหลายฤดูกาล เซลตาไม่เคยได้แชมป์[[โกปาเดลเรย์]] แต่สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ถึง 3 ครั้ง หนึ่งในฤดูกาลที่ดีที่สุดคือ 1970–711971 พวกเขาจบฤดูกาลด้วยการไม่แพ้ใครในบ้านและเป็นที่รู้จักในชื่อ "ผู้ฆ่ายักษ์" (giant-killers) เซลตาจบด้วยอันดับที่ 6 ในฤดูกาลนั้นและได้สิทธิ์เข้าไปแข่งขันใน[[ยูฟ่ายูโรปาลีก|ยูฟ่าคัพ]]เป็นครั้งแรก เมื่อไม่นานมานี้ พวกเขาได้จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ในฤดูกาล 2002–032003 ได้สิทธิ์เข้าแข่งขัน[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] และตกรอบด้วยการแพ้[[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] ในรอบ 16 ทีม

เรอัลกลุบเซลตาเดบีโกได้ก่อตั้งขึ้นจากความมุ่งมั่นของบีโกที่ต้องการจะประสบความสำเร็จในการแข่งขันระดับประเทศ ซึ่งในขณะนั้นมี[[ชาวบาสก์]] เป็นคู่แข่งในการแข่งขันฟุตบอลสเปนมาโดยตลอด ทำให้มีการเกิดแนวคิดที่จะรวมทั้งสองทีมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสโมสรที่มีขุมพลังมากพอที่จะแข่งขันในระดับประเทศ โดยผู้นำในการจัดตั้งเคลื่อนไหวคือ มานูเอล เด กัสโตร นักเขียนหนังสือพิมพ์กีฬา ''ฟาโรเดบีโก'' ในปี พ.ศ. 2458 เขาได้เริ่มเขียนบทความในการเปลี่ยนแปลงว่าด้วยความจำเป็นนี้ โดยมีคำขวัญคือว่า ''"โตโด ปอร์ อี ปารา บีโก"'' (ทุกอย่างเพื่อบีโกและสำหรับทุกคนบีโก) ซึ่งในที่สุดแล้วก็ได้รับความเริ่มมือการสนับสนุนจากผู้จัดการทีมของเรอัลบีโกสปอร์ติง และ เรอัลกลุบฟอร์ตูนาเดบีโก ซึ่งเป็นเบื้องหลังและได้รับการเคลื่อนไหวของกัสโตรที่สนับสนุนโดยเอกฉันท์เมื่อเด กัสโตร นำเสนอแนวคิดดังกล่าวด้วยตนเองในที่ประชุม[[ราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน]] ในณ [[มาดริด|กรุงมาดริด]] เมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2466

ในวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 ในการประชุมสามัญประจำปีของบีโก และ ฟอร์ตูนา ได้ฟอร์ตูนาซึ่งจัดขึ้นที่โรงละครโอดีโอน เดออนและในโรงแรมโมแดร์โน เดร์โนตามลำดับ และได้มีการประกาศที่ว่าจะยุบรวมสโมสรทั้งสองเข้าด้วยกัน ทำให้ "สโมสรแห่งแคว้นกาลิเซีย" ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยในการประชุมนั้นมีการยืนยันที่จะจัดตั้งสโมสรใหม่ในวันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2466 สมาชิกได้เสนอชื่อทีมเข้ามามากมายเช่น "เรอัลอูนีโอนอัลอูนีออนเดบีโก", "กลุบกาลิเซีย", "เรอัลอัตลันติก", "บรีโอกันเบรโอกัน" และ "เรอัลกลุบโอลิมปีโก" โดยชื่อสุดท้ายเป็นชื่อที่ได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุด แต่ในที่สุดแล้วก็ได้ตัดสินใจใช้ชื่อ "เรอัลกลุบเซลตา" ซึ่งเป็นชื่อกลุ่มชาติพันธุ์มีความเชื่อมโยงกับ[[แคว้นกาลิเซีย]] (ดูเพิ่มที่ ''[[ชาวเคลต์]]'') โดยมีประธานสโมสรคนแรกคือ มานูเอล บาร์เซนา เด อันเดรส และในการประชุมได้ตัดสินใจส่งรายชื่อผู้เล่น ซึ่งมีจำนวน 64 คน รวมไปถึงผู้เล่นของฟอร์ตูนาและบีโกด้วย

ในช่วงปี พ.ศ. 2540 จนถึง พ.ศ. 2546 เป็นช่วงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ด้วยการทำผลงานที่ยอดเยี่ยมในลาลีกา ฤดูกาล 2002–032003 ด้วยการจบด้วยอันดับที่ 4 และได้สิทธิ์เข้าไปเล่นใน [[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] โดยได้รับการขนานนามจากสื่อสเปนว่า "ยูโรเอวโรเซลตา" ต่อมาในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 [[สหพันธ์ประวัติศาสตร์และสถิติฟุตบอลระหว่างประเทศ]] ได้ประกาศว่าเซลตาเป็นสโมสรที่ดีที่สุดในโลกประจำเดือน ในยุคที่ผู้เล่นสเปนสามารถทำผลงานได้ดี รวมไปถึงผู้เล่นต่างประเทศก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน