ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาสนวิหารวินเชสเตอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 57:
 
ระหว่างปีค.ศ. 1905 - ปี ค.ศ. 1912 มีการปฏิสังขรณ์โดย ที จี แจ็คสัน (T.G. Jackson) ที่สำคัญคือการป้องกันไม่ให้มหาวิหารทรุดลงมาทั้งหลัง พื้นที่สร้างมหาวิหารเป็นพื้นที่ที่มีน้ำขังทางกำแพงด้านใต้และด้านตะวันออกซึ่งต้องให้นักประดาน้ำวิลเลียม วอลคเคอร์ (William Walker) เอาถุง[[คอนกรีต]]เข้าไปอัดไว้ใต้ฐาน 25,000 ถุงและ ก้อน คอนกรีตอีก 115,000 ก้อน และ [[อิฐ]]อีก 900,000 ก้อน วอลคเคอร์ใช้เวลาดำน้ำ 6 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา 6 ปี (ค.ศ. 1906 - ปี ค.ศ. 1912) ในสภาพที่มืดมิดและมีความลึกถึง 6 เมตร วิลเลียม วอลคเคอร์จึงเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญมากในการอนุรักษ์มหาวิหารที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีของวอลคเคอร์ [[สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรีย]]พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Royal Victorian Order ชั้น MVO ให้แก่วิลเลียม วอลคเคอร์
 
== สิ่งที่น่าสนใจ ==
* ปัจจุบันมหาวิหารมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมจากที่ต่าง ๆ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับ[[เจน ออสเตน]] ผู้มาเสียชีวิตที่เมืองวินเชสเตอร์และถูกฝังอยู่ทางด้านเหนือของทางเดินข้าง ป้ายที่สร้างเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19 แทบจะมิได้สรรเสริญความสามารถในงานประพันธ์ของออสเตนเลย แต่ต่อมาก็มีการทำป้ายใหม่เพื่อให้สมฐานะติดอยู่ข้าง ๆ
 
* สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือมหาวิหารใช้เป็นฉากของนวนิยายเรื่อง “Chronicles of Barsetshire” (จดหมายเหตุของบาร์เซ็ทเชอร์) โดย แอนโทนี ทรอลล็อพ (Anthony Trollope) ที่เขียนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 19
* เมื่อปีค.ศ. 2005 มหาวิหารใช้เป็นฉากถ่าย[[ภาพยนตร์]]เรื่อง[[รหัสลับดาวินชี]] โดยใช้ด้านเหนือแขนกางเขนเป็นฉาก[[นครรัฐวาติกัน|วาติกัน]] หลังจากนั้นมหาวิหารจึงเป็นเจ้าภาพในการจัดการอภิปรายหนังสือเล่มนี้เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าความคิดหรือความเชื่อจากหนังสือนั้นเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง
 
* มหาวิหารนี้คงเป็นมหาวิหารเดียวที่มีคนเขียน[[เพลง]]สมัยนิยมให้ เพลง “Winchester Cathedral” ของ The New Vaudeville Band ขึ้นอันดับหนึ่งในสิบที่อังกฤษ และอันดับหนึ่งที่[[สหรัฐอเมริกา]] เมื่อปีค.ศ. 1966 และอีกครั้งหนึ่งเมื่อปีค.ศ. 1977 ในเพลง “Cathedral” เขียนโดย Crosby, Stills & Nash เป็นเพลงในแผ่น[[อัลบั้ม]] CSN
 
* ทางด้านใต้ของกางเขนจะเป็น “ชาเปลคนหาปลา” (Fishermen's Chapel) ซึ่งเป็นที่ฝังไอแซ็ค วอลตัน (Izaak Walton)--เพื่อนของ [[จอห์น ดันน์]] (John Donne)--ผู้ที่เสียชีวิตเมื่อปีค.ศ. 1683 ผู้เป็นนักประพันธ์เรื่อง “The Compleat Angler”
 
* ภายในบริเวณร้องเพลงสวดมีระฆังจากเรือรบหลวง Iron Duke ซึ่งเป็นเรือนำทัพของแม่ทัพเรือจอห์น เจลลิโค (John Jellicoe) ที่ศึกจั๊ทแลนด์ (Izaak Walton) เมื่อปีค.ศ. 1916
 
* ภายในชาเปล “Epiphany” มีหน้าต่างประดับกระจกสีแบบ[[พรีราฟาเอลไลท์]] ออกแบบโดยเซอร์[[เอ็ดเวิร์ด เบิร์น-โจนส์]] (Sir Edward Coley Burne-Jones) ทำที่เวิร์คช็อบของ[[วิลเลียม มอร์ริส]] (William Morris) ซึ่งเป็นเวิร์คช็อบที่มีชื่อเสียงทางการตกแต่งกระจกสี กล่าวกันว่ามีรูปหนึ่งที่ละม้ายเจนภรรยาของวิลเลียม มอริส ผู้มักจะนั่งเป็นแบบให้[[ดานเต เกเบรียล รอสเซ็ตติ]] และสมาชิกกลุ่มศิลปิน[[กลุ่มพรีราฟาเอลไลท์]]คนอื่นๆ
 
* ที่ฝังศพภายใต้วัดซึ่งมักจะถูกใต้น้ำมีรูปปั้นโดยแอนโทนี กอร์มลี (Antony Gormley) ชื่อ “Sound II” ซึ่งติดตั้งเมื่อปีค.ศ. 1986 นอกจากนั้นก็มีอนุสรณ์สมัยใหม่ของที่ฝังศพของนักบุญสวิทเธิร์น
 
* ระหว่างปี ค. ศ. 1992 ถึงปี ค. ศ. 1996 ทางมหาวิหารได้ติดตั้งรูปปั้น 5 รูปหลังฉากหลังบริเวณสงฆ์ที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกัน[[เรลิก]]ของนักบุญสวิทเธิร์นที่ถูกทำลายโดย[[พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 8]]เมื่อค. ศ. 1538 รูปปั้นแบบ[[ศาสนจักรออร์โธด็อกซ์รัสเซีย|รัสเซียนออร์ทอดอกซ์]]สร้างโดยเซอร์เก เฟโดรอฟ (Sergei Fedorov) และทำพิธีอุทิศเมื่อปีค. ศ. 1997 เป็นรูปปั้นของผู้มีความสำคัญทางคริสต์ศาสนาในบริเวณเมืองวินเชสเตอร์เช่นนักบุญสวิทเธิร์น และนักบุญบิรินัส (St Birinus) ภายใต้รูปปั้นเป็นช่องศักดิ์สิทธิ์ (Holy Hole) ซึ่งเคยเป็นที่ที่นักบุญคลานเข้าไปข้างใต้เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดที่สุดกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญสวิธัน
 
* นอกจากนั้นทางมหาวิหารยังเป็นแห่งเดียวในโลกที่เป็นเจ้าของ[[ระฆัง]]แบบมีระดับเสียง 14 ระฆังซึ่งระฆัง tenor เป็นระฆังที่หนักที่สุดหนัก 1.83 เมตริกตัน
 
== ดูเพิ่ม ==