ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เวเลนซ์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 66:
ธาตุในตารางธาตุหลายชนิดโดยเฉพาะธาตุหมู่หลักเราสามารถทำนายเวเลนซีของอะตอมได้จากตำแหน่งในตารางธาตุ เช่น [[ธาตุหมู่ 1]] และ [[ธาตุหมู่ 17]] มีเวเลนซ์โดยทั่วไปเท่ากับ 1 [[ธาตุหมู่ 2]] และ[[ธาตุหมู่ 16]] มีเวเลนซ์โดยทั่วไปเท่ากับ 2 [[ธาตุหมู่ 13]] และ[[ธาตุหมู่ 15]] มีเวเลนซ์โดยทั่วไปเท่ากับ 3 เป็นต้น ซึ่งการทำนายนี้เป็นไปตาม[[กฎออกเตต]] (octet rule) การบอกจำนวนเวเลนซ์โดยทั่วไปมักจะใช้เลขละตินหรือกรีกเป็นคำนำหน้า เช่น ยูนิ-/มอนอ- (uni-/mono-) ไบ-/ได- (bi-/di-) เทอร์-/ไตร- (ter-/tri-) ควอดริ-/เตตระ- (quadri-/tetra-) ควินควิ-/เพนตะ- (quinque-/penta-) แทนเวเลนซ์เท่ากับ 1 2 3 4 และ 5 ตามลำดับ ตัวอย่างเช่น [[ซัลเฟต]]ไอออน (SO<sub>4</sub><sup>2-</sup>) จัดเป็น ไอออนลบไดเวเลนต์ หรือ ไอออนลบไบเวเลนต์ เป็นต้น
==เวเลนซ์และสถานะออกซิเดชัน==
เนื่องจากความกำกวมของคำว่าเวเลนซ์ การใช้เลขออกซิเดชันในการอ่านชื่อสารแบบสตอก (Stock nomenclature) ของ[[สารประกอบโคออร์ดิเนชัน]] (coordination compounds) <ref>Clugston, M.; Flemming, R. (2000). Advanced Chemistry. Oxford University Press. pp. 214–215. ISBN 978-0199146338.</ref>รวมถึงการใช้สัญกรณ์แลมบ์ดา (lambda notation) ในการอ่านชื่อสารอนินทรีย์<ref>[http://old.iupac.org/publications/books/rbook/Red_Book_2005.pdf '''Nomenclature of Inorganic Chemistry''' (IUPAC Recommendations 2005)]</ref> จึงจำเป็นต้องแยกความแตกต่างของคำว่า เวเลนซ์ และ [[สถานะออกซิเดชัน]]
[[สถานะออกซิเดชัน]]นั้นพิจารณาการสูญเสียหรือได้รับอิเล็กตรอนเมื่ออะตอมเกิดพันธะเคมี โดยพิจารณาประจุได้จากการประมาณแบบไอออนิก (ionic apprximation) ซึ่งพิจารณาการมีส่วนร่วมของแต่ละอะตอมในออร์บิทัลเชิงโมเลกุล (MO) หรือพิจารณาได้จากค่าอิเล็กโตรเนกาทิวิตีแบบอัลเลน (Allen's electronegativity) ซึ่งสถานะออกซิเดชันของอะตอมอาจจะมีค่าเป็นบวกหรือลบ และอาจเป็นจำนวนเต็มหรือไม่ก็ได้<ref>Karen, Pavel; McArdle, Patrick; Takats, Josef (2014). '''Toward a comprehensive definition of oxidation state (IUPAC Technical Report)'''. Pure and Applied Chemistry 86 (6).</ref> ในขณะที่เวเลนซ์เป็นค่าจำนวนเต็มบวกเท่านั้น
===ตัวอย่าง===
ตัวอย่างสารประกอบที่เวเลนซ์มีค่าตรงกับค่าสัมบูรณ์ของสถานะออกซิเดชัน
{| class="wikitable"
|-
! สารประกอบ !! สูตร !! เวเลนซ์ !! สถานะออกซิเดชัน
|-
| ไฮโดรเจนคลอไรด์ || HCl || H = 1 Cl = 1 || H = +1 Cl = −1
|-
| กรดเพอร์คลอริก || HClO<sub>4</sub> || H = 1 Cl = 7 O = 2 || H = +1 Cl = +7 O = −2
|-
|โซเดียมไฮไดรด์|| NaH || Na = 1 H = 1 || Na = +1 H = −1
|-
|เฟอร์รัสออกไซด์ || FeO || Fe = 2 O = 2 || Fe = +2 O = −2
|-
|เฟอร์ริกออกไซด์ || Fe<sub>2</sub>O<sub>3</sub> || Fe = 3 O = 2 || Fe = + 3 O = −2
|}
สารประกอบที่เวเลนซ์มีค่าไม่ตรงกับค่าสัมบูรณ์ของสถานะออกซิเดชัน
{| class="wikitable"
|-
! สารประกอบ !! สูตร !! เวเลนซ์ !! สถานะออกซิเดชัน
|-
| คลอรีน || Cl<sub>2</sub>|| Cl = 1 || Cl = 0
|-
| ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์|| H<sub>2</sub>O<sub>2</sub> || H = 1 O = 2 || H = +1 O = −1
|-
| อะเซทิลีน || C<sub>2</sub>H<sub>2</sub> || C = 4 H = 1 || C = −1 H = +1
|-
| เมอร์คิวรี(I)คลอไรด์|| Hg<sub>2</sub>Cl<sub>2</sub> || Hg = 2 Cl = 1 || Hg = +1 Cl = −1
|}
เวเลนซ์อาจจะแตกต่างจากค่าสัมบูรณ์ของสถานะออกซิเดชันเนื่องจากความแตกต่างของสภาพขั้วของโมเลกุล เช่น ไดคลอโรมีเทน (CH<sub>2</sub>Cl<sub>2</sub>) คาร์บอนมีเวเลนซ์เท่ากับ 4 แต่มีสถานะออกซิเดชันเท่ากับ 0 เป็นต้น
==อ้างอิง==
|