ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปอมเปอี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
สิริยากร123 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{กล่องข้อมูล มรดกโลก
| Image = [[ไฟล์:Pompei Forum.jpg|248px]]
| imagecaption =
| Country = {{ITA}}
| Name = แหล่งโบราณคดี'''ปอมเปอี''' [[เฮอร์คิวเลเนียม|เฮอร์คิวลาเนียม]] และ[[ตอร์เรอันนุนซีอาตา|ตอร์เรอันนุนซิอาตา]]
| Type = มรดกทางวัฒนธรรม<br />
| Year = 2540
| Criteria = (iii) (iv) (v)
| Link = http://whc.unesco.org/en/list/829
}}
[[ไฟล์:Mt Vesuvius 79 AD eruption 3.svg|thumb|แผนที่ของภูเขาไฟวิสุเวียส นครปอมเปอี และเมืองใกล้เคียง ขณะวิสุเวียสระเบิด วันนั้น ทิศทางลมพัดเถ้าถ่านลอยมาที่ปอมเปอี]]
 
== ปอมเปอี ==
[[ไฟล์:Pompeii Garden of the Fugitives 02.jpg|thumb|ผู้เสียชีวิตในปอมเปอี ร่างกายถูกความร้อนหลอมจนในเวลาต่อมาเกิดเป็นโพรงขึ้นภายในซากชั้นธรณี ในการขุดค้นทางโบราณคดีจึงต้องหาโพรงดังกล่าว และเทปูนหล่อปลาสเตอร์เข้าไป เพื่อทำให้เห็นเป็นร่างผู้เสียชีวิตในอิริยาบทขณะเกิดวิบัติภัยจากธรรมชาติครั้งนั้น]]
เมืองปอมเปอีตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเนเปิลส์ (Naples) ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี ถือกำเนิดขึ้นโดยชาวออสกัน (Oscan) ในช่วง 700 ปีก่อนคริสตกาล และถูกผนวกรวมกับอาณาจักรโรมันในช่วง 80 ปีก่อนคริสตกาล เมืองท่าแห่งนี้คือทำเลทองที่เอื้อต่อการทำการค้าและการเกษตร ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุจากลาวาภูเขาไฟ ทำให้สามารถปลูกต้นองุ่นและมะกอกได้ดี
[[ไฟล์:Karl_Brullov_-_The_Last_Day_of_Pompeii_-_Google_Art_Project.jpg|thumb|ภาพวาดหายนะของปอมเปอีโดย Karl Brullov วาดขึ้นในช่วง ค.ศ. 1830-1833]]
'''ปอมเปอี''' ({{lang-en|Pompeii}}) เป็นนครโรมันโบราณที่ถูกฝังบางส่วนใกล้กับเมือง[[เนเปิลส์]]สมัยใหม่ ใน[[แคว้นกัมปาเนีย]] ประเทศอิตาลี ปอมเปอีถูกทำลายบางส่วนและถูกฝังใต้เถ้าและหินภูเขาไฟหนา 4 ถึง 6 เมตร จากเหตุภูเขาไฟวิสุเวียสปะทุใน ค.ศ. 79 ร่วมกับ[[เฮอร์คิวเลเนียม]]<ref>{{Cite web | title=Dossier Musei 2008 | archiveurl=http://web.archive.org/web/20090318010723/http://www.touringclub.it/Pdf/dossier/Musei2008.pdf | archivedate=March 18, 2009 | publisher=Touring Club Italiano | language=Italian | accessdate=September 30, 2012}}</ref>
 
มีการประมาณว่าเมืองปอมเปอีนั้นมีประชากรอาศัยอยู่ราว 10,000-20,000 คน และยังถือเป็นเมืองตากอากาศยอดนิยมของชาวโรมัน โดยผู้ที่มีฐานะร่ำรวยนิยมสร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่นี่ เพื่อเข้ามาพักผ่อนในช่วงฤดูร้อน
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
ส่วนประกอบต่าง ๆ ของปอมเปอีนั้นก็ไม่ต่างจากเมืองอื่นในอาณาจักรโรมันเท่าใดนัก ด้านหนึ่งของเมืองจะมีฟอรั่ม (Forum) ไว้ใช้ในการพบปะสังสรรค์ของชาวเมือง โดยในบริเวณใกล้กันจะมีวิหาร ของเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ เช่น เทพเจ้าวีนัส (Venus), จูปิเตอร์ (Jupiter) และอพอลโล (Apollo) ตั้งอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีท่อส่งน้ำเข้ามายังใจกลางเมือง ไว้ใช้สำหรับที่อาบน้ำสาธารณะและน้ำพุอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ชาวเมืองปอมเปอียังชื่นชอบความบันเทิงเริงใจ โดยพวกเขาได้สร้างอัฒจรรย์ขนาดใหญ่ความจุถึง 20,000 ที่นั่งไว้สำหรับชมกลาดิเอเตอร์ รวมถึงโรงละครอีกหลายแห่ง เอาไว้ใช้สำหรับพิธีฉลองทางศาสนาหรือการแสดงคอนเสิร์ตต่าง ๆ
{{มรดกโลกอิตาลี}}
 
== เหตุการณ์สำคัญ ==
[[หมวดหมู่:แคว้นกัมปาเนีย|ป]]
ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 79 ภูเขาไฟวีซูเสียส ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 5 ไมล์ได้เกิดระเบิดขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ในทุกวินาทีเถ้าถ่านและหินลาวามากกว่า 1.5 ล้านตันรวมถึงก๊าซพิษอีกจำนวนมาก ได้ปะทุออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟอย่างต่อเนื่อง โดยเศษเถ้าถ่านอาจลอยขึ้นสูงถึง 20 ไมล์เหนือปากปล่องภูเขาไฟ ปกคลุมท้องฟ้าจนมืดสนิท ชนิดที่ว่าแม้แต่แสงอาทิตย์ยังส่องลงมาไม่ถึง และเมื่อเศษเถ้าถ่านและหินลาวาเย็นขึ้นเกิดการแข็งตัว ทำให้พวกมันพุ่งตกลงสู่พื้นดินด้วยความเร็วสูง
[[หมวดหมู่:มรดกโลกในประเทศอิตาลี]]
 
[[หมวดหมู่:มรดกโลกทางวัฒนธรรม]]
โชคร้ายที่กระแสลมในวันนั้น ได้พัดพาเอาก๊าซพิษมายังเมืองปอมเปอีพอดี ทำให้ชาวเมืองต้องทนสูดดมก๊าซพิษ ในขณะเดียวกันหินลาวาก็เริ่มตกลงสู่พื้นดินมากขึ้นเรื่อย ๆ ชาวเมืองต่างพยายามเอาชีวิตรอด บางคนเริ่มเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ทางเลือกแห่งแสงสว่างเห็นจะเป็นการหนีออกจากที่นั่นให้ไวที่สุด แต่ก็หนีไม่พ้นอันตรายจากหินภูเขาไฟที่ตกลงมาจากฟากฟ้า ทำให้คนเหล่านั้นเสียชีวิตจากการถูกหินตกใส่หัว ในขณะที่บางคนเลือกที่จะอยู่ภายในบ้านของตัวเองเพราะคิดว่าปลอดภัยที่สุด
[[หมวดหมู่:เมืองในประเทศอิตาลี]]
 
[[หมวดหมู่:เนเปิลส์]]
การระเบิดดำเนินต่อไปอีกหลายวัน ชาวเมืองที่เลือกอยู่ในบ้านเริ่มขาดอากาศหายใจ เนื่องจากหินและเถ้าถ่านภูเขาไฟตกลงมาทับถมบริเวณบ้านจนมิด มากเสียจนทำให้หลังคาบ้านพังถล่มลงมา ทำให้คนที่ติดอยู่ภายในถูกฝังและเสียชีวิตลงด้วยความทรมาน แต่ความพิโรธของธรรมชาติยังไม่จบเพียงเท่านั้น แรงสั่นสะเทือนจากการระเบิดทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าชายฝั่ง และกวาดเอาความรุ่งเรืองของปอมเปอีไปจนหมดสิ้น หลังจากนั้นอีกหนึ่งวันได้เกิดฝนที่นำเอาเถ้าถ่านที่ร้อนจัดตกสู่พื้นดิน กลายสภาพเป็นโคลนเดือดที่ไหลกลบเมืองเฮอร์คิวเลเนียม (Herculaneum) ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ให้ได้รับความเสียหายอย่างราบคาบเช่นกัน
{{Coord|40.751000|N|14.487000|E|display=title}}
 
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีคนเสียชีวิตไปกว่า 16,000 คน โชคร้ายที่คนเหล่านั้นต่างต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า ตำนานของพวกเขาสาบสูญไปพร้อมกับความยิ่งใหญ่ของปอมเปอี ที่ถูกฝังกลบภายใต้เถ้าถ่านภูเขาไฟเป็นเวลาหลายร้อยปีนับจากนั้น และมีการประมาณอย่างคร่าว ๆ ว่าพลังงานทั้งหมดที่ถูกปล่อยออกมาจากการระเบิดของภูเขาไฟในครั้งนี้ มีความรุนแรงกว่าระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิม่าถึง 100,000 เท่าเลยทีเดียว
== การค้นพบ ==
เมืองอันสาบสูญแห่งนี้ถูกค้นพบขึ้นอีกครั้งในอีกปี 1599 ในระหว่างการขุดอุโมงค์ใต้ดิน คณะผู้ค้นพบได้ขุดเจอกำแพงที่เต็มได้ด้วยภาพวาดและจารึกมากมาย แต่แล้วการสำรวจก็ได้หยุดชะงักไป และเริ่มขึ้นอีกครั้งในปี 1748 ต่อเนื่องเรื่อยมา เผยให้เห็นโฉมหน้าความรุ่งเรืองและอารยธรรมอันศิวิไลซ์ของปอมเปอี
 
โดยการค้นพบครั้งที่สำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง เกิดขึ้นในปี 1863 เมื่อ กูวเซปเป้ ฟิโอเรลลี่ (Giuseppe Fiorelli) ได้ค้นพบชิ้นส่วนของชาวปอมเปอีที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งชิ้นส่วนดังกล่าวได้เสื่อมสลายไปตามกาลเวลาจนเหลือแต่โพรงภายใต้ขี้เถ้าภูเขาไฟ ทางคณะผู้สำรวจจึงเจาะรูเล็ก ๆ แล้วหยอดปูนปาสเตอร์ลงไป เมื่อปูนแห้งก็ได้ออกมาเป็นรูปร่างของมนุษย์ที่เสียชีวิตในอิริยาบถต่าง ๆ ทำให้รู้ว่าพวกเขากำลังทำกิจกรรมอะไรอยู่ในช่วงวินาทีสุดท้ายของชึวิต โดยบางคนอยู่ในท่าทางคล้ายกับกำลังสวดมนต์ เพื่อขอให้พระเจ้าคุ้มครองในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต
และด้วยความมหัศจรรย์ของปอมเปอี ทำให้เมืองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก เมื่อปี 1997 นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของประเทศอิตาลี ที่มีผู้มาเยือนมากกว่า 2 ล้านคนต่อปี และเชื่อว่าหลังจากการออกฉายของหนังเรื่องนี้ น่าจะทำให้ใครหลายคนอยากไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของตำนานอันสาบสูญสักครั้งในชีวิต