ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 31:
'''จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย''' ([[จื๋อโกว๊กหงือ]]: {{lang|vi|Bảo Đại}}, [[จื๋อโนม]]: {{lang|vi|保大}}, แปลว่า ''ผู้เก็บรักษาความยิ่งใหญ่''; [[22 ตุลาคม]] [[ค.ศ. 1913]] - [[30 กรกฎาคม]] [[ค.ศ. 1997]]) พระนามเดิมว่า '''เหงียน ฟุก หวิญ ถวิ ''' ทรงเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 13 และพระองค์สุดท้ายแห่ง[[ราชวงศ์เหงียน|ราชวงศ์เหงียน]] ตั้งแต่ [[ค.ศ. 1926]] - [[ค.ศ. 1945]] ทรงเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่ง[[อันนัมในอารักขาของฝรั่งเศส|อันนัม]] ในช่วงนี้พระองค์ทรงได้รับความคุ้มครองจาก[[ฝรั่งเศส]]โดย[[อินโดจีนของฝรั่งเศส]] ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2 ใน 3 ของ[[ประเทศเวียดนาม]]ในปัจจุบัน พระองค์ทรงขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี [[ค.ศ. 1932]]
[[ญี่ปุ่น]]ได้ขับไล่ฝรั่งเศสออกจากดินแดนนี้ในปี [[ค.ศ. 1945]] และใช้อำนาจการปกครองผ่านจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ในช่วงนี้พระองค์ทรงเปลี่ยนชื่อประเทศเป็น "เวียดนาม" อีกครั้ง พระองค์ทรงสละราชบัลลังก์ในเดือนสิงหาคมเมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้สงคราม พระองค์ยังทรงเป็นประมุขรัฐ[[รัฐเวียดนาม|เวียดนาม]]ตั้งแต่ [[ค.ศ. 1949]] จนกระทั่ง [[ค.ศ. 1955]] จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับฝรั่งเศสเกินไปและ
แม้จะเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวางว่า[[เวียดมินห์]]
==ช่วงต้นของพระชนม์ชีพ==
[[ไฟล์:Bao Dai nho.jpg|thumb|left|เจ้าชายเหงียน ฟุก หวิญ ถวิ ขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งเวียดนาม]]
สมเด็จพระจักรพรรดิบ๋าว ดั่ย ประสูติในพระยศเจ้าชายเหงียน ฟุก หวิญ ถวิ ({{lang|vi|Nguyễn Phúc Vĩnh Thụy}}) ณ พระราชวังดวาน-จาง-เวียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน[[พระราชวังหลวงแห่งเว้|เมืองต้องห้ามสีม่วง]] ซึ่งเป็นเมืองหลวงในขณะนั้น ภายหลังพระองค์ได้เปลี่ยนพระนามเป็น เหงียน หวิญ ถวิ ({{lang|vi|Nguyễn Vĩnh Thụy}}) พระราชบิดาของพระองค์คือ [[สมเด็จพระจักรพรรดิขาย ดิ่ญ|สมเด็จพระจักรพรรดิขาย ดิ่ญ แห่งอันนัม]] พระมารดาของพระองค์เป็นพระมเหสีพระองค์ที่ 2 ของพระจักรพรรดิคือ เจ้าหญิงตื่อ กุง ผู้ซึ่งได้เปลี่ยนพระนามเป็น ดวาน ฮวี เมื่อพระนางทรงอภิเษกสมรสในปี [[ค.ศ. 1913]] พระองค์ได้ไต่เต้าเลื่อนตำแหน่ง
เมื่อพระชนมายุ 9 พรรษา เจ้าชายเหงียน ฟุก หวิญ ถวิ ถูกส่งไปยัง[[ฝรั่งเศส]] เพื่อศึกษาที่[[ลีเซกงดอร์แซ|โรงเรียนมัธยมปลายกงดอร์แซ]] (Lycée Condorcet) และหลังจากนั้นเข้าศึกษาใน[[สถาบันรัฐศึกษาปารีส]] (Institut d'Études Politiques de Paris) ในปี [[ค.ศ. 1923]] ต่อมาในปี [[ค.ศ. 1926]] พระองค์ทรงครองราชสมบัติหลังจากการเสด็จสวรรคตของพระบิดา ในพระนาม ''บ๋าว ดั่ย'' ({{lang|vi|Bảo Đại}} "ร่องรอยแห่งความยิ่งใหญ่" หรือ "ผู้เก็บรักษาความยิ่งใหญ่") แต่พระองค์ทรงไม่ได้ขึ้นครองราชย์อย่างเต็มรูปแบบ ทรงต้องกับไปศึกษาที่ฝรั่งเศส
|