ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คลื่นความโน้มถ่วง"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
ในวิชา[[ฟิสิกส์]] '''คลื่นความโน้มถ่วง''' ({{lang-en|gravitational wave}}) คือความผันผวนของ[[ความโค้ง]]ใน[[ปริภูมิ-เวลา]]ที่แผ่ออกเป็น[[คลื่น]] ที่เดินทางออกจากแหล่งกำเนิด<ref name="NYT-20160212">{{cite news |last=Overbye |first=Dennis |authorlink=Dennis Overbye |title=Physicists Detect Gravitational Waves, Proving Einstein Right |url=http://www.nytimes.com/2016/02/12/science/ligo-gravitational-waves-black-holes-einstein.html |date=12 February 2016 |work=[[New York Times]] |accessdate=12 February 2016 }}</ref> [[อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์]]ทำนายไว้ใน ค.ศ. 1916<ref>{{cite journal|author=Einstein, A |title=Näherungsweise Integration der Feldgleichungen der Gravitation |date= June 1916 |url=http://einstein-annalen.mpiwg-berlin.mpg.de/related_texts/sitzungsberichte |journal=[[Prussian Academy of Sciences|Sitzungsberichte der Königlich Preussischen Akademie der Wissenschaften Berlin]] |volume=part 1|pages=688–696}}</ref><ref>{{cite journal|author=Einstein, A |title=Über Gravitationswellen |date=1918 |url=http://einstein-annalen.mpiwg-berlin.mpg.de/related_texts/sitzungsberichte |journal=Sitzungsberichte der Königlich Preussischen Akademie der Wissenschaften Berlin|volume=part 1|pages=154–167}}</ref> บนพื้นฐาน[[ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป]]ของเขา<ref>{{cite web |last=Finley |first=Dave |title=Einstein's gravity theory passes toughest test yet: Bizarre binary star system pushes study of relativity to new limits. |url=http://phys.org/news/2013-04-einstein-gravity-theory-toughest-bizarre.html |publisher=Phys.Org}}</ref><ref>[http://www.dpf99.library.ucla.edu/session14/barish1412.pdf The Detection of Gravitational Waves using LIGO, B. Barish]</ref> คลื่นความโน้มถ่วงส่งพลังงานเป็น'''รังสีความโน้มถ่วง''' ({{lang-en|gravitational radiation}}) การมีคลื่นความโน้มถ่วงนี้เป็นผลลัพธ์ที่เกิดได้จากความไม่แปรเปลี่ยนลอเรนซ์ (Lorentz invariance) ของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป เพราะนำมโนทัศน์ความเร็วจำกัดของการแผ่ของอันตรกิริยากายภาพมากับมัน ในทางตรงข้าม คลื่นความโน้มถ่วง
ก่อนการตรวจหาคลื่นความโน้มถ่วงโดยตรง มีหลักฐานโดยอ้อม
== บทนำ ==
บรรทัด 7:
ใน[[ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป]]ของไอน์สไตน์ ความโน้มถ่วงจัดเป็นปรากฏการณ์อันเกิดจากความโค้งของ[[ปริภูมิ-เวลา]] ความโค้งนี้เกิดจากการมี[[มวล]] โดยทั่วไป ยิ่งมีมวลบรรจุอยู่ในปริภูมิปริมาตรหนึ่งมากเท่าใด ความโค้งของปริภูมิ-เวลาจะยิ่งมากเท่านั้นที่ขอบของปริมาตรนี้<ref name=HTUW/> เมื่อวัตถุที่มีมวลเคลื่อนไปรอบในปริภูมิ-เวลา ความโค้งดังกล่าวจะเปลี่ยนเพื่อสะท้อนตำแหน่งที่เปลี่ยนของวัตถุเหล่านี้ ในบางกรณีแวดล้อม วัตถุที่มีความเร่งทำให้เกิดการเปลี่ยนความโค้งนี้ ซึ่งแผ่ออกนอกด้วย[[ความเร็วแสง]]ในรูปคล้ายคลื่น ปรากฏการณ์แผ่เหล่านี้เรียก "คลื่นความโน้มถ่วง"
เมื่อคลื่นความโน้มถ่วงผ่านผู้สังเกตที่อยู่ไกล ผู้สังเกตนั้นจะพบว่าปริภูมิ-เวลาถูกบิดจากผลของ[[ความเครียด (ฟิสิกส์)|ความเครียด]] ระยะทางระหว่างวัตถุอิสระเพิ่มและลดเป็นจังหวะเมื่อคลื่นผ่าน ด้วยความถี่สมนัยกับคลื่นนั้น เหตุการณ์นี้เกิดแม้วัตถุอิสระเหล่านั้นไม่มี[[แรง]]ไม่สมดุลกระทำ ขนาดของผลนี้ลดผกผันกับระยะทางจากแหล่งกำเนิด มีการทำนายว่าระบบดาวนิวตรอนคู่ที่เวียนก้นหอยเข้าหากัน (Inspiral) เป็นแหล่งกำเนิดทรง
[[ไฟล์:Quadrupol Wave.gif|thumb|right|คลื่นความโน้มถ่วงมีขั้วเส้นตรง]]
คลื่นความโน้มถ่วงควรทะลุทะลวงบริเวณของปริภูมิที่คลื่นไฟฟ้าแม่เหล็กผ่านไม่ได้ มีการตั้งสมมุติฐานว่าคลื่นความโน้มถ่วงจะสามารถให้สารสนเทศเกี่ยวกับหลุมดำและวัตถุประหลาดอื่นในเอกภพห่างไกลแก่ผู้สังเกตบนโลกได้ ระบบเช่นนี้ไม่สามารถสังเกตได้ด้วยวิธีดั้งเดิมอย่าง[[กล้องโทรทรรศน์แสง]]หรือ[[กล้องโทรทรรศน์วิทยุ]] ฉะนั้น ดาราศาสตร์คลื่นความโน้มถ่วงจึงให้การรับรู้ใหม่ต่อการทำงานของเอกภพ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คลื่นความโน้มถ่วงอาจเป็นที่สนใจของนักจักรวาลวิทยาเพราะให้หนทางที่เป็นไปได้ในการสังเกตเอกภพช่วงต้นมากได้ สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ในดาราศาสตร์ดั้งเดิม เพราะก่อนการรวมประจุ (recombination) เอกภพทึบต่อรังสีไฟฟ้าแม่เหล็ก<ref>{{cite journal |last1 = Krauss |last2 = Dodelson |last3 = Meyer |first3 = S |date = 2010 |title = Primordial Gravitational Waves and Cosmology |url = |journal = Science |volume = 328 |issue = 5981 |pages = 989–992 |doi = 10.1126/science.1179541 |pmid = 20489015 |first1 = LM |first2 = S |bibcode = 2010Sci...328..989K |arxiv = 1004.2504 }}</ref> การวัดคลื่นความโน้มถ่วงที่แม่นจะยังให้นักวิทยาศาสตร์ทดสอบทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปได้ทะลุปรุโปร่งมากขึ้นด้วย
ในหลักการ คลื่นความโน้มถ่วงอาจมีอยู่ได้ในทุกความถี่ ทว่า คลื่นความถี่ต่ำมากจะไม่สามารถตรวจหาได้และไม่มีแหล่งที่น่าเชื่อถือของคลื่นความถี่สูงที่ตรวจหาได้ [[สตีเฟน ฮอว์คิง]]และเวอร์เนอร์ อิสราเอลแสดงรายการแถบความถี่ต่าง ๆ สำหรับคลื่นความโน้มถ่วงที่สามารถตรวจหาได้ มีพิสัยตั้งแต่ 10<sup>−7</sup> [[เฮิรตซ์]]จนถึง 10<sup>11</sup> เฮิรตซ<ref name = "HI">{{cite book |last=Hawking |first=S. W. |last2=Israel |first2=W. |title=General Relativity: An Einstein Centenary Survey |publisher=Cambridge University Press |location=Cambridge |year=1979 |isbn=0-521-22285-0 |page=98 |url=https://books.google.com/books?id=pxA4AAAAIAAJ&pg=PA98 }}</ref>
|