ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฝนเหลือง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: '''ฝนเหลือง''' ({{lang-en|Agent Orange หรือ Herbicide Orange}}, ย่อ: HO) เป็นสารฆ่าวัชพืชและส...
 
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4:
 
กลายปี 2504 ประธานาธิบดี[[โง ดิ่ญ เสี่ยม]]แห่งเวียดนามใต้ขอให้สหรัฐดำเนินการฉีดพ่นสารฆ่าวัชพืชทางอากาศในประเทศของเขา ในเดือนสิงหาคมปีนั้น กองทัพอากาศเวียดนามใต้เริ่มปฏิบัติการสารฆ่าวัชพืชด้วยความช่วยเหลือของอเมริกา แต่คำขอของเสี่ยมทำให้มีการอภิปรายนโยบายใน[[ทำเนียบขาว]]และกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหม ทว่า ข้าราชการสหรัฐพิจารณาใช้ฝนเหลือง โดยชี้ว่าบริเตนใช้สารฆ่าวัชพืชและสารทำให้ใบไม้ร่วงแล้วระหว่างภาวะฉุกเฉินมาลายาในคริสต์ทศวรรษ 1950 ในเดือนพฤศจิกายน 2504 ประธานาธิบดี[[จอห์น เอฟ. เคนเนดี]] อนุญาตให้เริ่มปฏิบัติการแรนช์แฮนด์ ซึ่งเป็นชื่อรหัสของโครงการสารฆ่าวัชพืชในเวียดนามของกองทัพอากาศสหรัฐ
 
[[บริษัทมอนซานโต้]]และดอว์เคมิคัล (Dow Chemical) เป็นผู้ผลิตหลักของฝนเหลืองให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ซึ่งได้ชื่อ "Agent Orange" เนื่องจากสีของถังลายส้มที่ใช้ขนส่ง และเป็นสารที่เรียก "สารฆ่าวัชพืชรุ้ง" ที่ใช้กันกว้างขวางที่สุด 2,4,5-ทีที่ใช้ผลิตฝนเหลืองถูกปนเปื้อนด้วย 2,3,7,8-เตตระคลอโรไดเบนโซไดออกซิน (TCDD) ซึ่งเป็นสารประกอบไดออกซินซึ่งเป็นพิษร้ายแรง ในบางพ้นที่ ความเข้มข้นของ TCDD ในดินและน้ำสูงเป็นหลายร้อยเท่าของระดับที่สำนักป้องกันสิ่งแวดล้อมสหรัฐถือว่าปลอดภัย
เนื่องจากขาดกฎหมายจารีตประเพณีเฉพาะหรือกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่ตราเป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับการสงครามสารฆ่าวัชะืช มีการเสนอร่างอนุสัญญาที่เตรียมโดยคณะทำงานที่ตั้งขึ้นในการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยการลดกำลังรบ (CCD) ต่อ[[สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ]]ในปี 2519 ในปีเดียวกัน คณะกรรมการชุดแรกของสมัชชาใหญ่ตัดสินใจส่งข้อความร่างอนุสัญญาให้สมัชชาใหญ่ซึ่งลงมติรับข้อมติที่ 31/72 เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 251 โดยข้อความของอนุสัญญาที่แนบเป็นภาคผนวก อนุสัญญาดังกล่าว ที่เรียก [[อนุสัญญาการดัดแปรสิ่งแวดล้อม]] เปิดให้ลงนามและให้สัตยาบันในวันที่ 18 พฤษภาคม 2520 แลมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2521 อนุสัญญาฯ ห้ามการใช้ทางทหารหรือเป็นปรปักษ์อื่นซึ่งเทคนิคการดัดแปรสิ่งแวดล้อมซึ่งมีผลลัพธ์กว้างขวาง ยาวนานหรือรุนแรง หลายรัฐไม่ถือว่าอนุสัญญาห้ามการใช้สารฆ่าวัชะืชและสารทำให้ใบไม้ร่วงโดยสิ้นเชิงแต่ต้องพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป
 
แม้อนุสัญญาการลดกำลังรบเจนีวา ค.ศ. 1978 ข้อ 2(4) พิธีสารที่ 3 ต่ออนุสัญญาอาวุธมี "ข้อยกเว้นป่า" (The Jungle Exception) ซึ่งห้ามมิให้รัฐโจมตีป่า "ยกเว้นหากสิ่งแวดล้อมธรรมชาตินั้นถูกพลรบหรือวัตถุประสงค์ทางทหารใช้กำบัง ปกปิดหรืออำพราง หรือป่านั้นเป็นวัตถุประสงค์ทางทหาร" ซึ่งทำให้การคุ้มครองทหารและพลเรือนใด ๆ จากการโจมตีด้วย[[นาปาล์ม]]หรือสารอย่างฝนเหลืองเป็นโมฆะ และชัดเจนว่าออกแบบมาให้จัดเตรียมสำหรับสถานการณ์ดังเช่นยุทธวิธีของสหรัฐในเวียดนาม วรรคนี้ยังไม่มีการทบทวน