ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กบฏโพกผ้าเหลือง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24:
 
ในขณะนั้น [[ราชวงศ์ฮั่น]]เริ่มเสื่อมอำนาจลงจากภายใน แม้อิทธิพลของการครอบครองที่ดินยังคงเป็นปัญหาอยู่อย่างยาวนาน (ตั้งแต่สมัย[[จักรพรรดิซินเกาจู่]]) แต่สิ่งที่นำไปสู่การก่อกบฏโพกผ้าเหลืองคือ [[ขันที]]ในพระราชวังที่มักฉ้อราษฎร์บังหลวงเพื่อให้ตนเองร่ำรวยขึ้น โดยเฉพาะขันทีที่ใกล้ชิดกับองค์จักรพรรดิในขณะนั้นคือ[[พระเจ้าเลนเต้]] กลุ่มของขันทีที่มีอิทธิพลมากที่สุดได้รวมตัวกันเป็นกลุ่ม 10 คนในชื่อ [[สิบขันที]] ซึ่งองค์จักรพรรดิทรงนับถือหนึ่งในนั้น ([[เตียวเหยียง]]) ว่าเป็น "พระชนกบุญธรรม" ด้วยเหตุดังนั้น การปกครองโดยจักรพรรดิจึงถูกมองว่าเป็นการปกครองที่เสื่อมทรามและไร้ความสามารถ การเกิดภาวะข้าวยากหมากแพงและสถานการณ์น้ำท่วม กลายเป็นตัวชี้วัดว่า จักรพรรดิได้หมดสิ้นความเป็นสมมติเทพจากสวรรค์แล้ว
 
{{โครงส่วน}}
นอกจากนั้นแล้วยังมีถูกซ้ำเติมด้วยภัยธรรมชาติติดต่อกันหลายปี อาณาประชาราษฎ์เดือนร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เป็นเหตุให้ต้องบีบคั้นต้องลุกขึ้นต่อสู้ต่อราชสำนัก
 
== การก่อกบฏ ==
การก่อกบฏเกิดจากที่เตียวก๊กไปเก็บสมุนไพรในป่าแล้วพบกับเซียนหนานหัว เซียนหนานหัวให้คัมภีร์ไทแผงเยาสุดแก่เตียวก๊กไปเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน เตียวก๊กได้ศึกษาคัมภีร์จนแตกฉานถึงขนาดเรียกลมเรียกฝนได้ หลังจากนั้นก็ได้ออกเดินทางไปใช้วิชาที่ได้ร่ำเรียนมาไปช่วยราษฏร์ที่กำลังประสบทุกข์ภัยทั่วทุกที่ ชาวบ้านต่างยกย่องสรรเสริญจึงได้ขอเป็นศิษย์กันมากมาย เตียวก๊กได้แต่งตั้งตัวเองเป็นจอมพลสวรรค์ และได้แต่งตั้งเตียวโป้น้องคนกลางเป็นจอมพิภพและเตียวเหลียงน้องสุดท้ายท้องเป็นจอมพลบาดาล เตียวก๊กได้ร้องเพลงปลุกระดมแก่ชาวบ้าน มีเนื้อร้องว่า"ฟ้าสีฟ้าสูญสิ้นสลด ฟ้าสีเหลือง ปรากฏเลื่องลือปีนี้ปฐพีจะเจริญรุ่งเรือง ชาวบ้านที่ได้เข้าร่วมกับเตียวก๊กได้พากันโพกหัวผ้าเหลืองกันหมดทุกคนจนถูกเรียกกันว่า "โจรโพกผ้าเหลือง" มีกำลังมากถึงห้าแสนคน เป็นกลุ่มโจรขนาดใหญ่และเข้มแข็งมากจนกองทัพหลวงไม่สามารถเข้าปราบและถูกตีแตกในที่สุด เป้าหมายคือ โค่นล้มราชวงศ์ฮั่น แต่หลังจากนั้นกลุ่มโจรโพกผ้าเหลืองได้เปลี่ยนไปทำการออกปล้นสะดมเหล่าขุนนางและปล้นสะดมภ์พวกชาวบ้านที่ไม่ได้เข้าร่วมจนสร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า
 
== ปฏิกิริยาของการทหาร ==