ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
AlittleboyHandsomeSociety (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 7:
| ภาษาพื้นเมือง = ภาษาไท
| ระบบพื้นเมือง = สิบสองปันนา
| ชื่อพื้นเมือง = ᩈᩥ᩠ᨸᩈ᩠ᩋᨦᨻᩢ᩠ᨶᨶᩣᦈᦹᧈᦈᦹᧈᦋᦵᦲᧁᧈᦘᦱᦉᦱᦑᦺ᧑᧒ᦗᧃᦓᦱ
| ชื่อจีน = มี
| จีน =
บรรทัด 47:
'''สิบสองปันนา''' ([[อักษรไทลื้อ|ไทลื้อเก่า]] :
 
[[อักษรไทลื้อ|ไทลื้อใหม่]] : ᩈᩥ᩠ᨸᩈ᩠ᩋᨦᨻᩢ᩠ᨶᨶᩣᦈᦹᧈᦈᦹᧈᦋᦵᦲᧁᧈᦘᦱᦉᦱᦑᦺ᧑᧒ᦗᧃᦓᦱ <ref>[https://en.wikipedia.org/wiki/File:Xishuangbanna.svg]</ref> ; {{zh|t=西雙版納|s=西双版纳傣|p=Xīshuāngbǎnnà}}) มีความหมายว่า "นาสิบสองพัน" หรือ "นา 12,000 ผืน" อีกนัยหนึ่งก็คือ 12 เมือง มีเมืองเอก คือ [[เชียงรุ่งรุ้ง|เมืองเชียงรุ่งรุ้ง]] ([[อักษรไทลื้อ|ไทลื้อเก่า]] :
[[อักษรไทลื้อ|ไทลื้อใหม่]]: ᨩ᩠ᨿᨦᩁᩩ᩵ᨦᦈᦹᧈᦈᦹᧈᦋᦵᦲᧁᧈᦘᦱᦉᦱᦑᦺ᧑᧒ᦗᧃᦓᦱ <ref>[https://en.wikipedia.org/wiki/File:Jinghong.svg]</ref> ; {{lang-zh|景洪市|p=Jǐnghóngshì}})
 
== ภูมิประเทศ ==
บรรทัด 87:
หลังจากพระเจ้ากาวิละได้ปลดปล่อย[[เชียงใหม่]] และ [[อาณาจักรล้านนา]] จาก พม่าแล้ว [[พระเจ้ากาวิละ]]ทรงพิจารณาเห็นว่าเมือง[[เชียงใหม่]]ขณะนั้นเป็นเมืองร้าง เพราะผู้คนหนีภัยสงคราม อีกทั้งในกำแพงตัวเมืองเชียงใหม่ยังมีต้นไม้เถาวัลย์ปกคลุม ชุกชุมด้วยเสือ สัตว์ป่านานาพันธ์ ผู้คนของพระองค์มีน้อยไม่อาจบูรณะซ่อมแซมเมืองใหญ่ได้ ดังนั้นจึงยกทัพไปกวาดต้อนผู้คนโดยไปตีเมืองไตในดินแดน ๑๒ ปันนา ทั้งไตลื้อ ไตโหลง(ไทใหญ่) ไตขึน (คนไตลื้อในเมืองเชียงตุง) ไตลื้อเมืองยอง ไตลื้อเมืองลวง ไตลื้อเมืองพน เมืองหย่วน เมืองล่า มาอยู่ที่[[เชียงใหม่]] [[เชียงราย]] [[ลำพูน]] [[พะเยา]] และ [[น่าน]]เป็นจำนวนมาก ซึ่งเรียกกันว่ายุค "เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง" อันเป็นวิธีฟื้นฟูอาณาจักรล้านนาวิธีหนึ่ง เพราะในช่วงก่อนนั้น พม่าได้กวาดต้อนชาวล้านนาไปอยู่ที่ [[พุกาม]] และ [[มัณฑะเลย์]] ไปจำนวนมาก
 
ในช่วงสงครามโลกสิบสองปันนานั้น ตกอยู่ในแผ่นดินจีน ถูกยุบเมือง[[เชียงรุ่ง]]จากเมืองหลวงเป็นแค่เมือง พร้อมๆ กับเจ้าทั้งหลายด้วย โดยเคยมีเจ้าปกครองอยู่ถึง 45 พระองค์ ในปัจจุบันโดยเจ้าหม่อมคำลือ[[刀世勋]]เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของอาณาจักรไทลื้อ คนที่เป็นราชบุตรของเจ้าหม่อมแสนเมือง ซึ่งเป็นอนุชาของพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อน ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อนนั้นมีแซ่เต๋าศักดิ์เป็นอาของเจ้าหม่อมคำลือ (刀) ก็คือแต่พระองค์ท่านเองไม่มีบุตร จึงได้ขอเจ้าในสิบสองปันนาที่เคยครองเมืองทั้งหลายเหล่านี้หม่อมคำลือเป็นราชบุตรบุญธรรม
เจ้าหม่อมคำลือเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1928 และไปเรียนหนังสือที่เมืองจุงกิงเมื่ออายุ 16 ปี จนถึงปี ค.ศ. 1944 ได้เข้า “พิธีฮับเมือง” แต่ในช่วงนั้นเกิด สงครามมหาเอเชียบูรพา (ค.ศ. 1939-1945) พิธีฮับเมืองจึงไม่สมบูรณ์ ท่านได้กลับไปเรียนหนังสือ
และกลับมาทำพิธีฮับเมืองครั้งที่สอง เมื่อ ค.ศ. 1948 ขณะอายุ 20 ปี อย่างไรก็ตาม ช่วงนั้นได้เกิดการ เปลี่ยนแปลงการปกครองภายในประเทศจีน ราวปี ค.ศ. 1949-1950 ท่านจึงกลายเป็น “กษัตริย์องค์สุดท้าย” โดยเปลี่ยนฐานันดรศักดิ์จากกษัตริย์เป็นสามัญชน โดยที่ยังมิได้บริหารราชการแผ่นดินเลย เนื่องจากหลังจากทำพิธีฮับเมืองครั้งแรกแล้วท่านได้แต่งตั้งให้เจ้าหม่อมแสนเมือง
พระราชบิดาเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จากนั้นท่านก็ไปเรียนหนังสือต่อ หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วท่านได้เรียนหนังสือ ในระดับมหาวิทยาลัยที่มหาวิทยาลัยยูนนาน และได้แต่งงานกับ สิว์ จิ๊ว เฟิน ชาวจีนคุนหมิง ในปี ค.ศ.1953 ก่อนที่ จะทำงานเป็นนักวิจัยด้านภาษาศาสตร์ อีก 8 ปี ที่สถาบันวิจัยชนชาติส่วนน้อยแห่งชาติ สังกัดสภาวิทยาศาสตร์ประเทศจีน ในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
ต่อมาเจ้าหม่อมแสนเมืองได้ขอให้รัฐบาลจีนย้ายทั้งสองกลับมาที่คุนหมิง โดยมาทำงานเป็นนักวิจัยด้านภาษาซึ่งรวมถึงอักษรไทลื้อ จนกระทั่ง ในปี ค.ศ. 1971 รัฐบาลจีนมีคำสั่งให้เจ้าหม่อมคำลือและภรรยาไปทำงานในชนบททำงานในสวนอ้อย ใน อ.เชียงกุ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของสิบสองปันนา เป็นเวลานาน ถึง 9 ปี การใช้เวลาในสวนอ้อยนี้ สิว์ จิ๊ว เฟิน เล่าว่า สามารถพกหนังสือหรือตำราเข้าไปอ่านได้ด้วยและหลังจาก เติ้ง เสี่ยว ผิง ได้เป็นนายกรัฐมนตรีของจีนแล้ว เห็นว่านโยบายเอียงซ้าย นโยบายที่ให้เจ้านายไปใช้แรงงานในชนบท เป็นนโยบายที่ผิดพลาดในปัจจุบัน ดังนั้นเจ้าหม่อมคำลือและภรรยาจึงมีโอกาสกลับคุนหมิง โดยทำงานเป็นนักวิจัยที่สถาบันวิจัยชนชาติในมหาวิทยาลัยชนชาติยูนนานจนกระทั่งเกษียณอายุ โดยมีคุณวุฒิทางวิชาการคือ “ศาสตราจารย์” อย่าง ไรก็ดี หลังจากเกษียณอายุแล้ว
ทางการจีนได้ให้ฐานะทางสังคมแก่ เจ้าหม่อมคำลือในฐานะเจ้านายเก่าคือเป็น รองประธานสภาที่ปรึกษาการเมืองระดับมณฑล และ กรรมการสภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งชาติ ซึ่งมี ที่พัก และ รถประจำตำแหน่งให้ แต่ปัจจุบันท่านก็ ได้เกษียณจากทุกตำแหน่งแล้ว โดยคนที่มีแซ่เต๋า (刀) ในสิบสองปันนาก็คือ เจ้าในสิบสองปันนาที่เคยครองเมืองทั้งหลายเหล่านี้
 
== เขตการปกครอง ==