ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษามณีปุระพิษณุปุระ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{รอการตรวจสอบ}}
{{ระวังสับสน|ภาษามณีปุระ}}
{{Infobox Language
| name = ภาษามณีปุระพิษณุปุระ
เส้น 14 ⟶ 15:
 
'''ภาษามณีปุระพิษณุปุระ''' (ইমার ঠার/বিষ্ণুপ্রিয়া মণিপুরী) เป็นภาษาในกลุ่ม[[ภาษากลุ่มอินโด-อารยัน|อินโด-อารยัน]] พูดในบางส่วนของแคว้นอัสสัม, ตรีปุระ, มณีปุระใน[[ประเทศอินเดีย]] และบางส่วนของ[[ประเทศบังกลาเทศ|บังกลาเทศ]] และ[[ประเทศพม่า|พม่า]]ต่างจาก[[ภาษามณีปุระ]]หรือ[[ภาษาไมไต]]ที่เป็น[[ตระกูลภาษาย่อยทิเบต-พม่า]]
 
== ประวัติและพัฒนาการ ==
ภาษามณีปุระพิษณุปุระ ณุปุระมีผู้พูดในบางส่วนของรัฐอัสสัม ตรีปุระและมณีปุระในอินเดีย เช่นเดียวกับในบังกลาเทศ พม่า และ ประเทศอื่นๆอื่น ๆ ภาษานี้ต่างจากภาษากลุ่มอินโด-อารยันอื่นๆอื่น ๆ เช่น [[ภาษาเบงกาลี]] [[ภาษาโอริยา]] [[ภาษาอัสสัม]] โดยภาษานี้มีถิ่นกำเนิดและพัฒนาขึ้นในรัฐมณีปุระ โดยเกิดขึ้นครั้งแรกรอบๆ[[ทะเลสาบโลกตัก]] หลักฐานรุ่นแรกๆแรก ๆ ที่กล่าวถึงภาษานี้เป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ในพุทธศตวรรษที่ 23 ชื่อ ขุมัล ปุรณะ เขียนโดย บัณฑิต นวเขนทรา ศรมะ หลักฐานอื่นๆอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าภาษานี้เกิดในรัฐมณีปุระก่อนพุทธศตวรรษที่ 24 G.A. Grierson เรียกภาษานี้ว่า ภาษามณีปุระพิษณุปุระ แต่บางคนเรียกเพียงภาษาพิศนุปริยะ พิษณุปุรุ
 
ผู้พูดภาษานี้ส่วนใหญ่ย้ายออกจากรัฐมณีปุระเข้าสู่รัฐอัสสัม ตรีปุระ สิลเหติลเหติ และจาชัร ในช่วงระหว่างพุทธศตวรรษที่ 23 เนื่องจากความขัดแย้งภายในระหว่างเจ้าชายในมณีปุระและการรุกรานของ[[พม่า]] เป็นการยากที่ผู้พูดภาษามณีปุระพิษณุปุระจะรักษาภาษาของตนไว้ ภายใต้อิทธิพลของภาษาไมไต
แม้ว่าใน พ.ศ. 2434 Grierson พบผู้พูดภาษานี้ 2-3 หมู่บ้านใกล้พิษณุปุระ แต่ภาษานี้เริ่มสูญสลายอย่างช้าๆช้า ๆ ภายในมณีปุระซึ่งคนส่วนใหญ่พูดภาษาไมไต และเริ่มสูญหายในบังกลาเทศและจาชัรซึ่งคนส่วนใหญ่พูดภาษาเบงกาลี ภาษานี้ยังเหลือผู้พูดอยู่ในชิริบัม (ส่วนย่อยในมณีปุระ) ตำบลจาชัรในอัสสัม และกลุ่มเล็กๆเล็ก ๆ ในบังกลาเทศและมณีปุระ
 
== จุดเริ่มต้น ==
ผู้พูดภาษานี้เรียกภาษาของตนว่า อิมัร ทาร์อิมัรทาร์ หมายถึงภาษาของแม่ เขาเรียกตนเองว่าชาวมณีปุระ และใช้คำว่า "ชาวพิษณุปุระ" หรือ "พิษณุปริยา" เพื่อแยกตนเองออกจากกลุ่มอื่น ๆ ในมณีปุระ คำว่า "พิษณุปริยา" อาจมาจากคำว่าพิษณุปุระ โดยเติมปัจจัย –อิยา เพื่อให้หมายความว่าประชาชนของพิษณุปุระ ชาวพิษณุปุระดั้งเดิมเชื่อว่าพวกเขาเข้าสู่มณีปุระโดยอพยพมาจาก[[ทวารกะ]]และ[[หัสตินาปุระ]] หลังจากเกิดสงคราม[[มหาภารตะ]] มีการกล่าวกันว่าการอพยพครั้งนี้นำโดยพภรุวาหนะ บุตรของอรชุนกับจิตรางคทา นักวิชาการและนักประวัติศาสตร์บางคนสนับสนุนทฤษฎีนี้ จากการสังเกตลักษณะของภาษา ภาษานี้ได้รับอิทธิพลจาก[[ภาษาสันสกฤต]]และ[[ภาษามหาราษฏรี]] เช่นเดียวกับ[[ภาษาปรากฤต]] เช่น [[ภาษาเสาราเสนี]] ภาษาเสาราเสนีนี้เป็นภาษาของทหารและประชาชนในทุ่งกุรุเกษตร มัธยเทศ อินทรปรัศถ์และหัสตินาปุระ อย่างไรก็ตาม K.P. Sinha ไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้และเห็นว่าภาษามณีปุระพิษณุปุระมาจาก[[ภาษามคธี]]
ภาษามณีปุระพิษณุปุระไม่ใช่ตระกูลภาษาย่อยทิเบต-พม่า แต่ใกล้เคียงกับภาษากลุ่มอินโด-อารยัน โดยได้รับอิทธิพลจากภาษาไมไตทั้งทางด้านไวยากรณ์และการออกเสียง ในแต่ละช่วงของพัฒนาการ ภาษาเสาราเสนี ภาษามคธี ภาษามหาราษฏรีและตระกูลภาษาย่อยทิเบต-พม่าเข้ามามีอิทธิพลมาก ภาษานี้อาจจะพัฒนามาจากภาษาสันสกฤต ภาษาเสาราเสนี และภาษามหาราษฏรีเช่นเดียวกับ[[ภาษาฮินดี]] ภาษาอัสสัม ภาษาเบงกาลี และภาษาโอริยา อิทธิพลจากภาษาเสาราเสนีและภาษามหาราษฏรีเห็นได้จากคำสรรพนาม การเชื่อมต่อ และการลงท้ายการก และมีลักษณะบางอย่างจากภาษามคธีปนอยู่ด้วย ภาษานี้คำศัพท์จากภาษาไมไตที่ออกเสียงแบบเก่าในช่วงพ.ศ. 2000 – 2200 ซึ่งอาจเป็นเพราะผู้พูดส่วนใหญ่อพยพออกจากมณีปุระในพุทธศตวรรษที่ 24
 
== สำเนียง ==
ภาษานี้มสองสำเนียงคือ ราชัร คัง (หมู่บ้านพระราชา) และมาไท คัง (หมู่บ้านราชินี) ในทาสัทศาสตร์ สำเนียงราชัร คัง เกี่ยวข้องกับภาษาอัสสัมและไมไต ส่วนสำเนียงมาไท คัง เกี่ยวข้องกับภาษาเบงกาลี แต่ในทางคำศัพท์ สำเนียงมาไท คัง ได้รับอิทธิพลจากภาษาไมไตมาก ส่วนราชัร คัง ใกล้เคียงกับภาษาอัสสัมและภาษาเบงกาลีมากกว่า นอกจากนี้แล้ว ทั้งสองสำเนียงไม่ต่างกัน
 
== ระบบการเขียน ==
ชาวพิษณุปุระดั้งเดิมกล่าวว่าพวกเขามีระบบการเขียนเป็นของตนเองคือ[[อักษรเทวนาครี]]ที่เคยใช้เขียนภาษาพิศนุปริยะมาก่อนหน้านี้ ในยุคการศึกษาสมัยใหม่ภายใต้การปกครองของ[[อังกฤษ]]โดยผ่านทางภาษาเบงกาลี ผู้พูดภาษานี้เริ่มเปลี่ยนมาใช้[[อักษรเบงกาลี]]
 
== แหล่งที่มีการใช้และจำนวน ==
ในมณีปุระยังมีผู้พูดในเขตชิริบัมราว 5,000 คน ในรัฐอัสสัมมีในตำบลจาชัร การิมคัณฑ์ และ ไฮลากันทีราว 300,000 คน โดยเป็นชนกลุ่มใหญ่ในพื้นที่นั้น ในรัฐตรีปุระมี 60,000 คน ในบังกลาเทศมีผู้พูดในเขตสิลเหติและอื่นๆอื่น ๆ ราว 60,000 คน ใน[[รัฐเมฆาลัย]]มี 2,000 คน ใน[[รัฐอรุณาจัลประเทศ]]มี 1,000 คน ในพม่ามี 1,000 คน ใน[[รัฐนาคาแลนด์]]มี 250 คน ใน[[รัฐไมโซรัม]]มี 100 คน ในนิวเดลลีมี 100 คน ใน[[ออสเตรเลีย]]มี 7 คน และมีในสหรัฐ อังกฤษ [[แคนาดา]] และ[[ตะวันออกกลาง]]อีกราว 2,000 คน
 
== อ้างอิง ==
* Vasatatvar Ruprekha/ Dr. K.P. Sinha, Silchar, 1977