ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สปากส์ฟลาย (เพลง)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Dolkungbighead (คุย | ส่วนร่วม)
Dolkungbighead (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 46:
 
สวิฟต์กล่าวว่า เพลงมีเนื้อหาเกี่ยวกับ "การตกหลุมรักคนที่คุณอาจจะไม่คู่ควร แต่คุณไม่สามารถหยุดตัวเองได้ เพราะมันมีความเชื่อมโยงและเคมี"<ref name="taste" />
 
== การตอบรับ ==
"สปากส์ฟลาย" ได้รับคำวิจารณ์ทั่วไปในด้านดี ร็อบ เชฟฟิลด์จากนิตยสาร''[[โรลลิงสโตน]]''ยกย่องเสียงร้องของสวิฟต์ในเพลง "สปากส์ฟลาย" ให้ความเห็นว่า เสียงของเธอในเพลงที่มีจังหวะเพิ่มขึ้นไม่มีผลเพียงพอที่จะปกปิดความเชี่ยวชาญในฐานะนักร้องของเธอ<ref>{{cite web|url=http://www.rollingstone.com/music/albumreviews/speak-now-20101026|title=Taylor Swift Speak Now Big Machine|work=[[Rolling Stone]]|date=October 26, 2010|publisher=[[Wenner Media]]|accessdate=October 26, 2010}}</ref> Rahul Prabhakar จากนิตยสารดิออกโซเนียนรีวิวมองว่าเป็น "สิ่งที่สูบฉีดโดปามีน และชวนให้โยกสะบัดผม"<ref>{{cite web|url=http://www.oxonianreview.org/wp/taylor-swift-needs-a-gap-year/ |title=Taylor Swift Needs a Gap Year |work=Rahul Prabhakar |date=November 1, 2010|publisher=[[The Oxonian Review]]|accessdate=August 8, 2011}}</ref> โจนาธาน คีฟ จากนิตยสาร''[[สแลนต์แมกกาซีน]]''เรียกเพลงนี้ว่า "การวนซ้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดตามแบบฉบับและองค์ประกอบศิลป์ของสวิฟต์" และกล่าวต่อไปว่ามัน "สามารถเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ รอบตัวสวิฟต์ บางทีอาจจะเป็นซิงเกิลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบที่สุดในอาชีพนักร้องที่เกิดขึ้นบนงานเพลงมหัศจรรย์ด้านการผลิตและแต่งเพลงป็อป" เขาสรุปโดยกล่าวว่าเพลง "พิสูจน์การนำเสนอที่รำลึกอดีตเหล่านั้นจะทำได้ในบริบทของเพลง ด้วยเหตุนั้น "สปากส์ฟลาย" จะเป็นแม่แบบได้พอ ๆ กับซิงเกิลเดี่ยวซิงเกิลหนึ่ง และเป็นการพิสูจน์ทุกสิ่งที่เทย์เลอร์ สวิฟต์ทำไว้ถูกแล้ว"<ref name="Keefe" /> บ็อบบี พีค็อก จาก''รัฟสต็อก'' กล่าวว่าเขา "สัมผัสได้ว่าเทย์เลอร์เริ่มพบกับความเหนื่อยล้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ทางวิทยุ เพลงของเธอร่วงหล่นจากยอดดั่งก้อนหิน และเธอยังทำเพลงขึ้นสูงสุดบนชาร์ต''บิลบอร์ด''ได้ 0 จาก 3 เพลง ขณะที่ผมไม่คิดว่าเพลงนี้จะให้''ความรู้สึกเหนือคำบรรยาย'' (''je ne sais quoi'') เพื่อให้ได้รับความนิยมเทียบเท่ากับเพลง '[[ยูบีลองวิดมี]]' ผมยังคิดว่าแม้ความพยายามเพียงเล็กน้อยของเธอก็เป็นเพลงที่คุ้มค่าต่อการฟัง"<ref name="Peakcock" /> เบลก โบลต์ จาก''เอนจิน 145'' ยกย่องสวิฟต์โดยกล่าวว่า "การใส่ความเร่งรีบ ('Drop everything now,' เธอยืนกราน) และความกระตือรือร้น ('Take away the pain,' เธออ้อนวอน) ลงไปในท่อนเพลงแต่ละท่อน มาจากพรสวรรค์ของเธอ ไม่ได้มากเท่านักร้องแนวอื่น ๆ แต่เป็นผู้สื่อสารที่ยอดเยี่ยม โน้ตเพลงที่ตึงเครียดแต่ละโน้ตเต็มไปด้วยความหมาย ฉันควรจะอยู่หรือควรจะไป เธอสงสัย ปล่อยเวลาให้ผ่านไปหลายชั่วโมงก่อนเขาจะโทรหาเธออีกครั้ง"<ref name="boldt" /> อะแมนดา เฮนเซล จากนิตยสาร''เทสต์ออฟคันทรี''อ้างว่าเพลงเป็น "อีกหนึ่งในหลาย ๆ เพลงของสวิฟต์ที่ค่อย ๆ เชื่อมต่อแนวเพลงคันทรีและป็อปเพื่อสร้างเป็นแนวเพลงใหม่ที่เป็นเทย์เลอร์ สวิฟต์ 100%"<ref name="taste" /> เอริน ทอมสัน จากนิตยสาร''ซีแอตเทิลวีกลี'' กล่าวว่า เขาไม่ "ตื่นเต้น" กับเพลงนี้และเปรียบเทียบเพลงนี้กับงานเพลงก่อนหน้า "[[เฟียร์เลส (เพลงเทย์เลอร์ สวิฟต์)|เฟียร์เลส]]" "เฮย์สตีเฟน" และ "ฟอร์เอเวอร์แอนด์ออลเวส์" และกล่าวว่าสวิฟต์ "ใส่ท่อนเพลงเกี่ยวกับการยืนตากฝนในหลายเพลงจนผมเริ่มคิดว่าเธอดูภาพยนตร์ ''[[รักเธอหมดใจ ขีดไว้ให้โลกจารึก]]'' ทุกครั้งที่เธอนั่งแต่งเพลง"<ref>{{cite web|url=http://blogs.seattleweekly.com/reverb/2011/11/taylor_swifts_speak_now_track.php|title=Taylor Swift's Speak Now Track "If This Was A Movie" Is Better Than Her Upcoming New Single|work=Erin Thompson|date=November 25, 2011|publisher=Seattle Weekly|accessdate=December 12, 2011}}</ref> มิคาเอล สูด จากนิตยสาร''[[สปิน (นิตยสาร)|สปิน]]''มองว่าเป็นเพลงที่สดชื่นเช่นเดียวกับเพลง "ลองลิฟ"<ref>{{cite web|url=http://books.google.co.kr/books?id=J7EuavrzL9kC&pg=PA80&dq=Taylor+Swift+Sparks+Fly&hl=ko&sa=X&ei=K1zJT5DbJpLh0wHdosyIAQ&ved=0CDsQ6AEwAg#v=onepage&q=Taylor%20Swift%20Sparks%20Fly&f=false |title=Swift Justice: No time for teardrops, country star spits venom |work=[[Spin (magazine)|Spin]]|date=December 2010|author=Mikael Wood|publisher=Spin Media LLC|accessdate=June 2, 2012}}</ref>
 
== อ้างอิง ==