ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การย้ายราชสำนักโปรตุเกสไปบราซิล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Novaskosia (คุย | ส่วนร่วม)
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่ "|เจ้าชายโจเอา" → "|เจ้าชายฌูเอา" +แทนที่ "ฌูเอาแห่งโปรตุเกส" → "ฌูเอาแห่งบรากังซา" +แทนท...
บรรทัด 1:
[[ไฟล์:Príncipe Regente de Portugal e toda a Família Real embarcando para Brasil no cais de Belém.jpg|thumb|300px|ภาพการเสด็จลงเรือพระที่นั่งของเจ้าชายโจเอาและพระราชวงศ์เพื่อเสด็จไปยังบราซิล วาดโดย[[ฟรันซิสโก บาร์โตลอซซี]] ในปี พ.ศ. 2358]]
'''การย้ายราชสำนักโปรตุเกสไปที่บราซิล''' หมายถึง การลี้ภัยของพระราชวงศ์บราแกนซาและข้าราชบริพารเกือบ 15,000 คน ออกจากกรุงลิสบอนในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2350 พระราชวงศ์บราแกนซาเสด็จไปยังบราซิลไม่กี่วันก่อนที่กองทัพนโปเลียนจะยึดกรุงลิสบอนในวันที่ 1 ธันวาคม พระมหากษัตริย์บราแกนซายังประทับอยู่ที่บราซิลตั้งแต่ พ.ศ. 2351 กระทั่งเกิด[[การปฏิวัติเสรีนิยม พ.ศ. 2363]] ทำให้[[พระเจ้าฌูเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส|พระเจ้าโจเอาที่เจ้าชายฌูเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส]]เสด็จนิวัติเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2364<ref>Gomes, p. 321</ref> เป็นเวลา 13 ปีที่กรุง[[รีโอเดจาเนโร]]ของบราซิลมีสถานะเป็นเมืองหลวงของ[[ราชอาณาจักรโปรตุเกส]] ซึ่งนักประวัติศาสตร์บางคนเรียกว่า "มหานครผกผัน" (metropolitan reversal) (คือ เป็นอาณานิคมที่ปกครองจักรวรรดิโปรตุเกสทั้งหมด)
 
==ประวัติศาสตร์==
[[ไฟล์:Maria I, queen of Portugal.jpg|thumb|left|สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 1 แห่งสหราชอาณาจักรโปรตุเกส บราซิล และแอลการ์ฟ]]
ในปี พ.ศ. 2350 [[สงครามคาบสมุทร]]ระยะแรก กองทัพนโปเลียนบุกครองโปรตุเกส เนื่องจากเป็นพันธมิตรกับสหราชอาณาจักร [[พระเจ้าฌูเอาที่ 6 แห่งโปรตุเกส|เจ้าชายโจฌูเอาแห่งโปรตุเกส]]บรากังซา เจ้าชาย[[ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์]] ในขณะนั้น ปกครองโปรตุเกสแทนพระราชมารดา [[สมเด็จพระราชินีนาถมารีอาที่ 1 แห่งโปรตุเกส|สมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 1 แห่งโปรตุเกส]] ตั้งแต่ พ.ศ. 2342 พระเจ้าโจเอาที่เจ้าชายฌูเอาที่ 6 ทรงคาดล่วงหน้าว่ากองทัพฝรั่งเศสจะบุกครอง จึงมีรับสั่งให้ย้ายราชสำนักโปรตุเกสไปยังบราซิลก่อนที่พระองค์จะถูกถอดจากราชบัลลังก์ กำหนดวันออกเดินทางไปบราซิล คือ วันที่ 29 พฤศจิกายน การเสด็จของเจ้าชายโจเอาอยู่ภายใต้การคุ้มครองของ[[ราชนาวี|ราชนาวีอังกฤษ]] ภายใต้การบัญชาการของพลเรือเอก เซอร์[[ซิดนีย์ สมิธ (นายทหารราชนาวี)|ซิดนีย์ สมิธ]] ในวันที่ 5 ธันวาคม เกือบครึ่งทางระหว่างลิสบอนและ[[มาเดรา]] ซิดนีย์ สมิธพร้อมกับเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำลิสบอน [[เพอร์ซี สมีธี ไวส์เคานท์สแตรงก์ฟอร์ดที่ 6|ลอร์ดสแตรงก์ฟอร์ด]]ได้กลับมายังยุโรปด้วยกองเรือรบเล็กส่วนหนึ่ง [[เกรแฮม มัวร์]] ลูกเรืออังกฤษและนายทหารราชนาวี พาเสด็จพระราชวงศ์โปรตุเกสไปยังบราซิลต่อด้วย[[เรือหลวงมาร์ลบะระห์ (1807)|เรือหลวงมาร์ลบะระห์]], [[เรือหลวงลอนดอน (1766)|เรือหลวงลอนดอน]], [[เรือหลวงเบ็ดฟอร์ด (1775)|เรือหลวงเบ็ดฟอร์ด]]และ[[เรือหลวงโมนาร์ก (1765)|เรือหลวงโมนาร์ก]]<ref>Gomes, p. 97</ref>
 
ในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2351 เจ้าชายโจฌูเอาและราชสำนักเสด็จถึง[[ซัลวาดอร์]] บราซิล เจ้าชายโจฌูเอาทรงลงพระนามกฎหมายซึ่งเปิดการค้าระหว่างบราซิลกับชาติที่เป็นมิตร (คือ สหราชอาณาจักรเป็นหลัก อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับใหม่นี้ฝ่าฝืนสนธิสัญญาอาณานิคม ซึ่งจนถึงขณะนั้น อนุญาตให้บราซิลรักษาความสัมพันธ์พาณิชย์โดยตรงกับโปรตุเกสเท่านั้น ในการเจรจาลับในกรุงลอนดอนเมื่อ พ.ศ. 2350 โดยเอกอัครราชทูตราชทูตโปรตุเกส โดมิงโกส อันโตนิโอ เดอ เซาซา โคทินโฮ ประกันการคุ้มครองทางทหารของอังกฤษ แลกกับการให้อังกฤษเข้าถึงท่าของบราซิลและตั้งฐานทัพเรือที่[[มาเดรา]] การเจรจาลับของโคทินโฮปูทางให้กฎหมายของเจ้าชายโจฌูเอาบรรลุผลในปี พ.ศ. 2351<ref>Gomes, p. 117</ref>
 
ในวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2351 ราชสำนักเสด็จถึง[[รีโอเดจาเนโร]] วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2358 เจ้าชายโจฌูเอาทรงสถาปนา[[สหราชอาณาจักรโปรตุเกส บราซิล และแอลการ์ฟ]] (Reino Unido de Portugal, Brasil e Algarves) เป็นการยกระดับบราซิลขึ้นมามีสถานะเท่าเทียมกับโปรตุเกสและเพิ่มอิสระในการปกครองตนเองแก่บราซิล ผู้แทนชาวบราซิลได้รับเลือกเข้าสู่สภารัฐธรรมนูญโปรตุเกส (Cortes Constitucionais Portuguesas) ใน พ.ศ. 2359 หลังสมเด็จพระราชินีนาถมาเรียที่ 1 เสด็จสวรรคต เจ้าชายโจฌูเอาเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าโจเอาที่ฌูเอาที่ 6 แห่งสหราชอาณาจักรโปรตุเกส บราซิล และแอลการ์ฟ หลังความล่าช้าหลายครั้ง พิธีการเปล่งเสียงสนับสนุนจัดขึ้นในรีโอเดจาเนโรเมื่อ พ.ศ. 2361
 
เนื่องจากโปรตุเกสว่างเว้นพระมหากษัตริย์และอิสระทางเศรษฐกิจของบราซิล โปรตุเกสจึงเข้าสู่วิกฤตการณ์การเมืองรุนแรงซึ่งบีบให้พระเจ้าโจเอาที่ฌูเอาที่ 6 และพระราชวงศ์เสด็จนิวัติโปรตุเกสใน พ.ศ. 2364 รัชทายาท พระเจ้าเจ้าชายเปโดร ยังประทับอยู่ในบราซิล สภาโปรตุเกสเรียกร้องให้บราซิลกลับคืนสู่สถานะอาณานิคมดังเดิมและให้รัชทายาทเสด็จนิวัติโปรตุเกส เจ้าชายเปโดร ซึ่งได้รับอิทธิพลจากวุฒิสภาเทศบาลริโอเดจาเนโร ทรงปฏิเสธจะเสด็จนิวัติโปรตุเกสระหว่างเหตุการณ์ดีอาโดฟิโกอันขึ้นชื่อ (9 มกราคม พ.ศ. 2365) บราซิลมีอิสรภาพทางการเมืองเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2365 และเจ้าชายปราบดาภิเษกเป็นจักรพรรดิในริโอเดจาเนโร เฉลิมพระนามว่า [[จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล|จักรพรรดิดอม เปดรูที่ 1]] ยุติการครอบงำบราซิลเป็นอาณานิคมของโปรตุเกสนาน 322 ปี
 
==เชิงอรรถ==