ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ตำแหน่งผู้เล่นฟุตบอล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{เพิ่มอ้างอิง}}
ในกีฬาฟุตบอล หนึ่งทีมมีผู้เล่น 11 คน เป็นมีผู้รักษาประตู 1 คน และผู้เล่นตำแหน่งอื่นอีก 10 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ที่ทำหน้าที่ป้องกัน (กองหลัง) ผู้อยู่แดนกลาง (กองกลาง) และผู้บุก (กองหน้า) แล้วแต่ระบบแผนที่ใช้ โดยตำแหน่งเหล่านั้นจะบ่งบอกถึงหน้าที่และพื้นที่ในการเล่นของตำแหน่งนั้นๆนั้น ๆ ด้วย
 
โดยตอนแรกจะมีแค่ตำแหน่งกองหน้า (forwards), ฮาล์ฟ-แบ็คฮาล์ฟแบ็ก (half-backs) และทรี-ควอเทอ-แบ็คทรีควอเตอร์แบ็ก (three-quarter-backs) ช่วงแรกที่มีชื่ออย่างนี้เพราะว่า สมัยนั้นเป็นช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระบบ 2–3–5 เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง การป้องกันจะมีฟูลแบ็ค ฟุลแบ็กที่รู้จักกันในชื่อกองหลังฝั่งซ้ายและกองหลังฝั่งขวา แดนกลางจะมีเลฟท์-ฮาล์ฟเลฟต์ฮาล์ฟ (Leftleft-Halfhalf), เซ็นเตอร์-ฮาล์ฟ (Centrecentre-Halfhalf) และไรท์-ฮาล์ฟไรต์ฮาล์ฟ (Rightright-Halfhalf) และในแนวบุกจะเป็นเอาท์ไซด์-เลฟท์เอาต์ไซด์เลฟต์ (Outsideoutside-Leftleft), อินไซด์-เลฟท์ไซด์เลฟต์ (Insideinside-Left), กองหน้าตรงกลาง (Centrecentre-Forwardforward), อินไซด์-ไรท์ไซด์ไรต์ (Insideinside-Rightright) และเอาท์ไซด์-ไรท์เอาต์ไซด์ไรต์ (Outsideoutside-Rightright) หลังจากนั้นรูปแบบระบบก็พัฒนาไปจนมีชื่อตำแหน่งมากมาย อย่างเมื่อต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 คำว่า “ฮาล์ฟ-แบ็ค”"ฮาล์ฟแบ็ก" ได้เปลี่ยนมาใช้คำว่า “มิดฟิลด์ ("กองกลาง)”" กับตำแหน่งที่เล่นในแดนกลาง ทั้งกลางสนามหรือและริมเส้น กองกลางตัวกลางได้ถูกพัฒนาขึ้นอีกกลายเป็นกองกลางตัวบุก และกองกลางตัวรับ
 
ในเกมสมัยใหม่ ตำแหน่งในฟุตบอลได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเหมือน[[รักบี้]] หรือ[[อเมริกันฟุตบอล]] ถึงอย่างนั้นนักเตะส่วนใหญ่มักเล่นในตำแหน่งเดิมตลอดการค้าแข้งของพวกเขา เพราะในแต่ล่ะตำแหน่งนั้นใช้ทักษะและความสามารถทางร่างกายไม่เหมือนกัน แจ่ก็มีนักฟุตบอลบางพวกที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ซึ่งถึงเรียกว่า "นักเตะสารพัดประโยชน์" (utility players)<ref>{{cite web|url=http://www.tnamcot.com/2015/01/28/%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%AD%E0%B8%9B-%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B1/|title=นักเตะสารพัดประโยชน์|date=28 January 2015|accessdate=11 February 2015|publisher=[[สำนักข่าวไทย]]}}</ref>
 
ถึงอย่างนั้นก็แทคติกแทกติกโททัล ฟุตบอล ที่วางตำแหน่งนักเตะอย่างหลวม ๆ ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้อย่างหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น [[โยฮัน ไกรฟฟ์]] ที่สามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง ยกเว้นผู้รักษาประตู
 
== ผู้รักษาประตู (Goalkeeper)==
[[ไฟล์:1655232_full-lnd.jpg|right|thumb|280px|[[จันลุยจี บุฟฟอน|บุฟฟอน]] ผู้รักษาประตูของทีมชาติอิตาลี เซฟลูกจุดโทษ]]
{{Main|ผู้รักษาประตู}}
'''ผู้รักษาประตู''' (goalkeeper) เป็นตำแหน่งที่ป้องกันมากที่สุดในบรรดาหลายตำแหน่ง หน้าที่หลักก็คือการไม่ให้อีกทีมได้แต้มโดยการรับ ,การปัด หรือการชกบอลจากการยิง ,การโหม่ง หรือจากลูกที่ไขว้เข้ามา ตำแหน่งนี้ไม่เหมือนตำแหน่งอื่นในทีม ตรงที่ส่วนใหญ่ตำแหน่งนี้มักใช้เวลาอยู่บริเวณกรอบเขตโทษ ผลคือทำให้ผู้รักษาประตูเห็นตำแหน่งที่ดีของสนาม หรือจากลูกตั้งเตะ ผู้รักษาประตูเป็นผู้เล่นคนเดียวที่สามารถใช้มือกับลูกฟุตบอลได้ แต่ใช้ได้ในกรอบเขตโทษตัวเองเท่านั้น ตำแหน่งผู้รักษาประตูนี้ถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญ และยากในการป้องกันอีกด้วย
 
== กองหลัง (Defender)==
[[ไฟล์:Fulham on the attack.jpg|thumb|right|250px|กองหลังของ[[สโมสรฟุตบอลโบลตันวันวอนเดอเรอร์สอเรอส์|โบลตันลตันวอนเดอเรอส์]] (ชุดขาว) กำลังป้องกันการรุกของผู้เล่นจาก[[สโมสรฟุตบอลฟูลัม|ฟูฟุลัม]] (ชุดฟ้า)]]
{{Main|กองหลัง}}
'''กองหลังจาก''' (defender) จะอยู่ข้างด้านหลังของกองกลาง และหน้าที่หลักของพวกเขาก็คือสนับสนุนทีมและป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายทำประตูได้ ปกติพวกเขาจะอยู่เพียงครึ่งสนามในฝั่งพวกเขาเพื่อป้องกัน กองหลังตัวสูงจะไปอยู่แดนหน้า บริเวณจุดโทษของอีกฝ่ายเมื่อมีลูกเตะมุม หรือลูกฟรีคิก เพื่อเขาจะโหม่งเข้าประตูอีกฝ่ายได้
 
=== กองหลังตัวกลาง ===
===เซ็นเตอร์แบ็ค (Centre-back)===
เซ็นเตอร์แบ็ค หรือ'''กองหลังตัวกลาง''' (centre-back) หรือที่ถูกเรียกในอดีตเรียกว่าเซ็นเตอร์-ฮาล์ฟ) หน้าที่ของพวกเขาคือการหยุดผู้เล่นอีกฝ่าย (โดยเฉพาะศูนย์หน้า ศูนย์)จากการทำประตู และนำลูกบอลออกจากเขตโทษ ตำแหน่งนี้เล่นอยู่ตรงกลางของแผงหลังตามชื่อ ทีมส่วนใหญ่มักจะใช้ 2 คน การยืนตำแหน่งจะยืนหน้าผู้รักษาประตู ทั้งสองเป็นหัวใจหลักในแนวรับ ทั้งการคลุมโซนคุมพื้นที่และการประกบตัวต่อตัว
 
เซ็นเตอร์แบ็คกองหลังตัวกลางมักจะสูง แข็งแกร่ง และต้องมีความสามารถการกระโดดสูง การโหม่งดี และการแย่งลูกได้ดี เซ็นเตอร์แบ็คกองหลังตัวกลางที่ประสบความสำเร็จต้องมีสมาธิ ,อ่านเกมได้อย่างยอดเยี่ยม และมีความกล้าหาญและเด็ดขาดในการแย่งลูกจากอีกฝ่ายที่จะผ่านไปทำประตู บางครั้งโดยเฉพาะลีกล่างๆล่าง เซ็นเตอร์แบ็คๆ กองหลังตัวกลางยังขาดมีสมาธิในการควบคุมบอล และส่งบอลไม่ดี ทำได้เพียงแค่ปลอดภัยไว้ก่อน ถึงอย่างนั้น สำหรับเซ็นเตอร์แบ็คกองหลังตัวกลางขอเพียงแค่มีทักษะฟุตบอลขั้นพื้นฐาน เพื่อสไตล์รูปแบบการเล่นที่เน้นการครองบอลเท่านั้นก็พอ
 
ตำแหน่งนี้บางครั้งจะถูกเรียกว่าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ”ฮาล์ฟ เดิมในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ระบบแผน 2–3–5 เป็นที่นิยม แถมสามคนจะถูกเรียกว่าฮาล์ฟแบ็คฮาล์ฟแบ็ก เมื่อระบบแผนพัฒนาต่อมา ผู้เล่นตรงกลางทั้งสามนี้ (เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ) ได้ย้ายมาตำแหน่งป้องกันมากขึ้น ปัจจุบันยังมีคนเรียกชื่อเหล่านี้อยู่
 
=== สวีปเปอร์ (Sweeper) ===
'''สวีปเปอร์''' (Sweeper) หรือลิแบโร '''ลีเบโร''' ({{lang-it|libero}})) เป็นตำแหน่งที่แตกมาจากเซ็นเตอร์แบ็คอีกทีกองหลังตัวกลางอีกที หรือเป็นตำแหน่งที่มีเซ็นเตอร์แบ็คสามคนกองหลังตัวกลางสามคน ซึ่งเป็นตำแหน่งระหว่างเซ็นเตอร์แบ็คทั้งสองกองหลังตัวกลางทั้งสอง ชื่อนี้มาจากคำว่าวลี "sweeps up”up" ในการขจัดบอลที่อีกฝ่ายเลี้ยงฝ่าแนวรับมาได้ ตำแหน่งพวกเขานั้นมีความเป็นอิสระมากกว่าแผงหลังซึ่งคอยประกบอีกฝ่ายที่ถูกกำหนดขึ้น ตำแหน่งสวีปเปอร์จำเป็นต้องมีทักษะอ่านเกมได้ยิ่งกว่าเซ็นเตอร์แบ็คกองหลังตัวกลาง ในปัจจุบันที่มีกฎลำหน้า ล้ำหน้าซึ่งแนวนับมักใช้แนวนับในการจับอีกฝ่ายลำหน้าล้ำหน้า ทำให้ตำแหน่งนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมในปัจจุบัน
 
=== ฟุลแบ็ก ===
===ฟูลแบ็ค (Full-back)===
แบ็คซ้ายและแบ็คขวา'''แบ็กซ้าย''' (left-back) และ '''แบ็กขวา''' (right-back) หรือที่ปกติจะเรียกฟูลแบ็ค '''ฟุลแบ็ก''' (full-back) ตำแหน่งของพวกเขาจะอยู่ประจำตำแหน่งที่ด้านข้างของเซ็นเตอร์แบ็คกองหลังตัวกลาง เพื่อป้องกันการบุกจากริมเส้น และบ่อยครั้งที่ต้องไปหยุดการบุกของตำแหน่งปีกฝ่ายตรงข้ามที่พยายามพ่าน หรือโยนบอลเข้าเขตโทษ ตามปกติลูกเตะมุมหรือลูฟรีคิกลูกฟรีคิก ฟูลแบ็คฟุลแบ็กจะไม่ขึ้นไปช่วยแนวหน้า แต่อาจอยู่ประมาณเส้นครึ่งสนาม ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับแผนของแนวรับนั้นๆนั้น ๆ ด้วย ในเกมสมัยใหม่มีแนวโน้มที่จะให้ฟูลแบ็คฟุลแบ็ก (วิงแบ็คแบ็ก) มีบทบาทในการบุกด้วย แต่พวกนั้นจะไม่ถูกเรียกว่าแบ็คขวา หรือแบ็คซ้ายแบ็กขวาหรือแบ็กซ้าย
 
เดิมฟูลแบ็คฟุลแบ็กเป็นแนวนับสุดท้ายของทีม แต่เมื่อเข้าศตวรรษคริสต์ศตวรรษที่ 20 ตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟได้ถอยร่นลงมากลายเป็นตำแหน่ง ‘เซ็นเตอร์แบ็ค’"กองหลังตัวกลาง" ฟูลแบ็คฟุลแบ็กได้ถูกย้ายมาริมเส้นกลายเป็นแบ็คขวา (Right-back) และแบ็คซ้าย (Left-back)แบ็กขวาและแบ็กซ้าย
 
=== วิงแบ็คแบ็ก (Wing-back)===
'''วิงแบ็คแบ็ก''' (หรือฟูลแบ็คตัวบุกwing-back) หรือฟุลแบ็กตัวบุก คือกองหลังที่เน้นในการบุก ชื่อตำแหน่งนี้มาจากปีก (Wingerwinger) และ “ฟูลแบ็ค (full-back)”ฟุลแบ็กผสมกัน ปกติตำแหน่งนี้จะใช้ในแผน 3–5–2 จึงถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแดนกลางในจังหวะการบุก หรือบางทีก็ใช้ในแผน 5–3–2 แต่คำว่าวิงแบ็ค” แบ็กไม่ค่อยได้ใช้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อเล่นแผน 4–3–3 หรือ 4–2–3–1
 
ผู้เล่นวิงแบ็คแบ็กจำเป็นต้องใช้พละพลกำลังอย่างมากในฟุตบอลสมัยใหม่ วิงแบ็คมัคแบ็กมักจะเล่นบนสนามมากกว่าฟูลแบ็คทั่วไป ฟุลแบ็กทั่วไปโดยเฉพาะกับทีมที่ไม่มีผู้เล่นปีก วิงแบ็คแบ็กต้องการความอึดเป็นพิเศษในการวิ่งขึ้นไปแนวรุก และลงมาตั้งรับ
 
==กองกลาง (Midfielder)==
{{Main|กองกลาง}}
'''กองกลาง''' (midfielder) เดิมที่ทีเรียกว่าฮาล์ฟแบ็ค)ฮาล์ฟแบ็ก ตำแหน่งนี้จะเล่นอยู่ระหว่างศูนย์หน้าและกองหลัง หน้าที่หลักของตำแหน่งนี้คือครองบอล และรับบอลจากกองหลัง แล้วขึ้นไปส่งให้สไตรเกอร์ ( กองหน้า ) พร้อมกับไล่บอลจากผู้เล่นอีกฝ่าย ส่วนใหญ่ในทีมต้องมีกองกลางตัวกลาง (central midfielder) อย่างน้อยหนึ่งคน เพื่อหยุดเกมบุกของอีกฝ่าย นอกจากนั้นก็มีการทำประตู ไม่ก็ขึ้นไปบุกและลงมาตั้งรับตามหน้าที่ที่ได้รับ กองกลางนั้นต้องเล่นเกือบทั่วสนาม เมื่อถึงคราวรับ พวกเขาจะลงมาช่วยตั้งรับ เมื่อจะบุกก็ไปช่วยสไตรเกอร์กองหน้าในการบุก พวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เริ่มเล่นในจังหวะการบุกของทีม
 
=== กองกลางตัวกลาง ===
===เซ็นเตอร์มิดฟิลด์ (centre midfielder)===
เซ็นเตอร์มิดฟิลด์ (หรือ'''กองกลางตัวกลาง''' (centre midfielder) มีหน้าที่เชื่อมเกมระหว่างกองหลังและกองหน้า เซ็นเตอร์มิดฟิลด์กองกลางตัวกลางนั้นมีหน้าที่มากมาย ตั้งแต่ช่วยทีมบุกในจังหวะการบุก และเมื่อเสียบอลให้อีกฝ่าย พวกเขาต้องพยายามแย่งมันมาก่อนจะถึงแนวหลัง เมื่อแนวหลังหรือพวกเขาได้ลูกบอลอีกครั้ง ตำแหน่งนี้จะเป็นคนที่เริ่มบุกก่อน บางครั้งตำแหน่งนี้จะได้รับชื่อว่า ‘เพลย์เมกเกอร์"ตัวทำเกม" (playmaker) บางครั้งตำแหน่งนี้ต้องไปอยู่แนวป้องกันเมื่อถูกบุกมากๆมาก ๆ หรือจังหวะเตะมุมของอีกฝ่าย เซ็นเตอร์มิดฟิลด์กองกลางตัวกลางบางครั้งก็ต้องยุ่งอยู่กับจังหวะเกมอยู่ตลอดเวลาจนเรียกได้ว่าเป็น "ห้องเครื่องของทีม" (the engine room of the team)
 
เมื่อเวลาผ่านไป เซ็นเตอร์มิดฟิลด์กองกลางตัวกลางก็ถูกพัฒนาการได้รับการพัฒนาเป็นมิดฟิลด์ตัวบุก กองกลางตัวบุกและมิดฟิลด์กองกลางตัวรับ ซึ่งทั้งสองตำแหน่งนี้จะอธิบายไว้ข้างด้านล่างของเซ็นเตอร์มิดฟิลด์นี้กองกลางตัวกลางนี้ บางทีอาจวางตำแหน่งทั้งสามไว้ด้วยกัน หรืออาจให้มิดฟิลด์กองกลางไปไว้ด้านกว้าง หรือริมเส้นด้วย
 
=== กองกลางตัวรับ ===
===มิดฟิลด์ตัวรับ (Defensive midfield)===
[[ไฟล์:Article-0-1EC5217800000578-351_634x456.jpg|thumb|left|250px|[[อันเดรอา ปีร์โล]] (กองกลางทีมชาติอิตาลี) มองหาผู้เล่น ก่อนจะส่งบอลให้]]
มิดฟิลด์ตัวรับ (หรือกลองกลาง'''กองกลางตัวรับ''' (defensive midfield) เป็นเซ็นเตอร์มิดฟิลด์กองกลางที่ประจำตำที่ก่อนกองหลัง มีบทบาทในการป้องกัน เมื่อไม่มีการบุก มิดฟิลด์กองกลางตัวรับจะรีบถอยมาตั้งรบรับ และแย่งลูกบอลจากทีมฝ่ายตรงข้าม
 
แม้หน้าที่หลักจะเป็นป้องกัน แต่ก็มีมิดฟิลด์กองกลางบางคนที่ทำหน้าที่เป็นเป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวต่ำ(ตัวทำเกมในแนวลึกหรือตัวทำเกมตัวต่ำ (deep-lying playmaker) ซึ่งสามารถกำหนดจังหวะเกมได้จากตำแหน่งที่อยู่ท้ายด้วยการผ่านบอล
 
มิดฟิลด์กองกลางตัวรับต้องการการยืนตำแหน่งที่ดี, การขยันไล่บอล, มีความสามารถในการสกัดบอล และต้องคาดการณ์ผู้เล่นและลูกบอลได้ดี นอกจากนี้ยังต้องการทักษะการส่งบอล และการครองบอลภายใต้ความกดดันได้ดี แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ความอึด เพราะตำแหน่งนี้ต้องวิ่งไปทั่วสนามตลอดการค้าแข้ง ในสโสมรชั้นนำสโมสรชั้นนำ มิดฟิลด์กองกลางอาจวิ่งเกือบ 12 กิโลเมตร ตลอดเกม ส่วนเพลย์เมกเกอร์ส่วนตัวทำเกมตัวต่ำต้องการการสัมผัสบอลแรกในสถานการณ์กดดัน และทักษะส่งไกลไปอีกครึ่งสนามอย่างแม่นยำเพื่อให้เพื่อนบุก<ref>{{cite web|url=http://performance.fourfourtwo.com/pro-tips/patrick-vieira-how-to-be-a-midfield-destroyer|title=Patrick Vieira: How to be a midfield destroyer|accessdate=11 February 2015|website=performance.fourfourtwo.com}}</ref>
 
=== กองกลางตัวรุก ===
===มิดฟิลด์ตัวรุก (Attacking midfield)===
มิดฟิลด์ตัวรุก (หรือ'''กองกลางตัวรุก''' (attacking midfield) คือเซ็นเตอร์มิดฟิลด์กองกลางที่อยู่สูงกว่าปกติ แต่จะไม่เกินศูนย์หน้า เป็นผู้เล่นช่วยทีมในจังหวะบุก หน้าที่ของตำแหน่งนี้คือการสร้างโอกาสทำประตูด้วยวิสัยทัศน์ที่เหนือชั้นและทักษะของพวกเขา คนที่จะเล่นมิดฟิลด์กองกลางตัวรุกต้องมีความชำนาญในการส่งบอล และที่สำคัญกว่านั้นก็คือการอ่านการเคลื่อนไหวของกองหลังเพื่อส่งบอลไปให้ศูนย์หน้าทำประตู
 
บางครั้งตำแหน่งกองกลางตัวรุกถูกเรียกว่า เทรกวาทิสตา"เตรกวาร์ติสตา" ({{lang-it|trequartista}}) ซึ่งรู้จักกันดีในการยิงประตูจากระยะไกล และการกล้าที่จะผ่านบอล แต่มิดฟิลด์กองกลางตัวรุกไม่ใช่ว่าเป็นเทรกวาทิสตาเตรกวาร์ติสตา เพราะเทรกวาทิสเตรกวาร์ติสตาต้องเป็นมิดฟิลด์กองกลางตัวรุกที่สร้างสรรค์การบุกที่หลากหลายในการทำประตู พวกเขามักจะเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นประจำทีม ดังนั้นทีมมักจะให้เขาเป็นตัวฟรี เพื่อค่อยสร้างสรรค์สถานการณ์ในจังหวะบุก<ref>{{cite web|url=https://pasatito.wordpress.com/2010/08/11/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99/|title=เทรกวาทิสตา|accessdate=11 February 2015|website=pasatito.wordpress.com}}</ref>
 
=== กองกลางด้านกว้าง ===
===มิดฟิลด์ด้านกว้าง (Wide midfield)===
มิดฟิลด์ด้านกว้าง'''กองกลางด้านกว้าง''' (wide midfield) หรือ '''กองกลางตัวริมเส้น''' (side midfielder)) (หรือตำแหน่งในอดีตคือไรท์ฮาล์ฟ และเลฟท์ฮาล์ฟไรต์ฮาล์ฟและเลฟต์ฮาล์ฟ หรืออีกชื่อคือวิงฮาล์ฟ (wing-half)) เป็นตำแหน่งที่ประจำการทางซ้ายและขวาของตำแหน่งเซ็นเตอร์มิดฟิลด์กองกลาง พวกเขาบางครั้งก็ถูกเรียกว่า "ปีก" (winger) เนื่องจากในแผนสมัยใหม่ได้เอากองหน้าริมเส้น ได้ถูกเลื่อนมาเล่นในตำแหน่งกองกลางด้านกว้าง ทำให้ยังมีการใช้คำว่าปีกอยู่
 
== กองหน้า (Forward)==
[[ไฟล์:Torres_Shot.jpg|thumb|right|280px|[[เฟร์นันโด ตอร์เรส]] กองหน้าของสโมสร[[อัตเลตีโกมาดริด]] ได้ยิงผ่านผู้รักษาประตู]]
{{Main|กองหน้า}}
'''กองหน้า''' (หรือสไตรเกอร์forward, (striker)) เป็นตำแหน่งของผู้เล่นฟุตบอลที่เล่นอยู่บริเวณหน้าประตูอีกฝ่าย หน้าที่หลักของกองหน้าก็คือทำประตู หรือสร้างโอกาสให้ผู้เล่นอื่นทำประตู หน้าที่ในจังหวะตั้งรับก็มี นั้นก็คือคอยไล่บอลจากองหลังและผู้รักษาประตูอีกฝ่าย ในแผนสมัยใหม่ กองหน้ามีได้ตั้งแต่ 1 ถึง 3 คน ;ยกตัวอย่างเช่นในแผน 4–2–3–1 จะมีกองหน้าคนเดียว, 4–4–2 จะมีกองหน้าสองคน, 4–3–3 จะมีกองหน้า 3 คน โดยมีกองหน้าตัวเป้าหนึ่งคน และปีก 2 คน
 
=== กองหน้าตัวกลาง ===
===เซ็นเตอร์ฟอร์เวิร์ด (Centre forward)===
เซ็นเตอร์ฟอร์เวิร์ด ('''กองหน้าตัวกลาง''' (centre forward) หรือสไตเกอร์หลัก กองหน้าตัวหลัก (main striker)) หน้าที่หลักของพวกเขาคือการทำประตู และเป็นหัวใจหลักในการบุกของทีม เมื่อก่อนกองหน้าต้องตัวสูง และแข็งแกร่งทางร่างกายเพื่อแย่งลูกในจังหวะที่มีคนโยนบอลเข้ามาเพื่อทำประตู ทำให้พวกเขาต้องพยายามทำประตูทั้งการเล่นกับเท้า, การโหม่ง อีกทั้งส่งให้เพื่อนทำประตู ในปัจจุบันที่เน้นจังหวะบอลเร็วมากขึ้น การเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว จึงเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อฟุตบอลยุคนี้
 
=== กองหน้าตัวต่ำ (Second striker)===
'''กองหน้าตัวต่ำ''' (second striker, support striker) (ในอดีตตำแหน่งนี้จะถูกเรียกว่ากองหน้าตัวใน (inside forward)) ถึงจะมีประวัติมายาวนาน แต่การอธิบายนิยามของตำแหน่งนี้ก็แต่งแตกต่างกันไปทุกยุค การเป็นกองหน้าตัวต่ำนั้นไม่จำเป็นต้องมีตัวสูง หรือมีความแข็งแกร่งทางร่างกายเท่ากองหน้าตัวกลาง พวกต้องการทักษะเพื่อช่วยสร้างโอกาสทำประตูให้กองหน้าตัวกลาง, การปั่นกองหลังฝ่ายตรงข้าม และถ้ามีโอกาสก็ยิงประตูด้วยตัวเอง
 
=== ปีก (winger)===
'''ปีก''' (winger) ประกอบด้วย '''ปีกซ้ายและปีกขวา''' (left winger) andและ '''ปีกขวา''' (right winger) (ในอดีตเรียกตำแหน่งนี้ว่ากองหน้าตัวนอก (outside forward)) เป็นตำแหน่งของผู้เล่นที่จะบุกจากทางริมเส้นขอบสนาม ในปัจจุบันตำแหน่งนี้ถูกเรียกว่าปีก (Wing)” หน้าที่ของตำแหน่งนี้คือใช้ความเร็วในการบุกผ่าฟูลแบ็คฟุลแบ็กเพื่อป่วนกองหลัง แล้วส่งลูก หรือโยนลูกเข้าไปให้คนบุกอื่นอีกที หรืออาจบุกผ่ากองหลังคนอื่นเข้าไปทำประตูเอง
 
== อ้างอิง ==