ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กฤษณมูรติ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Santilibrary (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Santilibrary (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
กฤษณมูรติ (อังกฤษ: [https://en.wikipedia.org/wiki/Jiddu_Krishnamurti Jiddu Krishnamurti]) เกิดวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2438 เป็นปราชญ์และนักคิดอิสระผู้เป็นที่เคารพนับถือที่สุดคนหนึ่งของโลกในฐานะครูทางจิตวิญญาณผู้ร่วมยุคสมัย เมื่อยังเป็นเด็กหนุ่ม ผู้นำทางสมาคมเทวญาณวิทยาได้ประกาศยกย่องเขาขึ้นเป็นศาสดาองค์ใหม่ของโลก แต่ในปี พ.ศ.2472 เขาประกาศสลัดทิ้งบทบาททางศาสดา รวมทั้งสานุศิษย์ผู้ติดตามจำนวนมหาศาล สลายสมาคมอัครสาวกอันใหญ่โตซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อประกาศศาสนาใหม่ พร้อมทั้งยืนยันความตั้งใจว่า ไม่ต้องการเป็นศาสดา และก่อตั้งศาสนาใหม่เพื่อแบ่งแยกและครอบงำมนุษย์ เขากล่าวว่า <ref>“สิ่งที่ผมสนใจเพียงประการเดียวคือ ปลดปล่อยมนุษย์ให้เป็นอิสระปราศจากเงื่อนไขใดๆ อย่างสิ้นเชิง”</ref>
เป็นเวลาล่วงกว่า 70 ปีที่กฤษณมูรติได้เดินทางเพื่อพบปะสนทนากับผู้ที่สนใจจะค้นหาและเรียนรู้ร่วมกันด้วยหัวใจที่เปิดกว้างเป็นอิสระจากอดีต เพื่อทำความเข้าใจปัญหาเป็นปัจจัยต่างๆ ที่เป็นอิทธิพลหล่อหลอมและกำหนดชีวิตเราอยู่ทั้งภายในจิตใจและภายนอก เพราะที่สุดแล้วเราคือโลก สังคมโลกก็คือสภาพที่เราแต่ละคนร่วมกันสร้างขึ้น ฉะนั้น จากความเข้าใจในตนเองอย่างลึกซึ้ง อาจจะนำไปสู่สังคมที่มีความรัก ความเมตตา มีมนุษยธรรมและความรู้สึกรับผิดชอบ
บรรทัด 6:
 
== ประวัติ ==
กฤษณมูรติเกิดวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2438 - พ.ศ. 2529 เกิดที่ เมืองมัทนะพาลี เมืองเล็กๆ ในรัฐแคว้นอันตรประเทศ ทางตอนใต้ของอินเดีย เป็นบุตรคนที่ 8 ใน 11 คน เมื่ออายุได้ 10 ปี มารดาของเขาเสียชีวิตลง ครอบครัวจึงย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เมืองมัทราส เพราะบิดาของเขาต้องการจะทำงานให้กับสมาคมเทวญาณวิทยาหลังจากที่เกษียณอายุราชการ
กฤษณมูรติเกิดวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2438
 
เมื่ออายุได้ 14 ปี กฤษณมูรติถูกเลือกให้เป็นผู้ที่จะมาเป็นยานแห่งครูโลกโดย CW ลีด บี เทอร์ บุคคลสำคัญคนหนึ่งในเทวญาณวิทยา ต่อจากพระคริสต์และพระพุทธเจ้า กฤษณมูรติจึงถูกนำมาเลี้ยงดูอย่างระมัดระวังและเอาใจใส่โดยผู้นำของสมาคม เพื่อเตรียมพร้อมให้เขารับบทบาทอันพิเศษนี้ เพื่อรองรับการกลับมาของครูโลก ได้มีการก่อตั้งสมาคม “ดวงดาวแห่งตะวันออก” ซึ่งเป็นองค์กรใหญ่ มีสมาชิกและทรัพย์สินมากมาย
แต่ในปี 2472 ด้วยความประหลาดใจและงุนงงอย่างยิ่งของเหล่าสมาชิกสมาคม กฤษณมูรติประกาศสละทิ้งทุกบทบาทที่ตั้งขึ้นเพื่อเขา และแยกทางจากสมาคมเทวญาณ และกลับประกาศไม่เห็นด้วยกับอำนาจของผู้รู้ผู้มีอิทธิพลเหนือจิตวิญญาณ ปฏิเสธบทบาทพระศรีอริยเมไตร และลัทธิความเชื่อต่างๆ ทั้งหมด เขาประกาศชัดเจนว่าไม่ต้องการก่อตั้งศาสนาใหม่ แต่สิ่งที่เขาสนใจเพียงประการเดียว คือ “ปลดปล่อยมนุษย์” ให้เป็นอิสระ โดยปราศจากเงื่อนไขใดๆ อย่างสิ้นเชิงจาก เป็นเวลา 70 ปี ที่กฤษณมูรติเดินทางทั่วโลกอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อพูดกับสาธารณชน และเสวนากับผู้ที่สนใจฟังและค้นหาด้วยใจที่เปิดกว้าง
 
มูลนิธิกฤษณมูรติทุกแห่งตั้งขึ้นเพื่อจัดหมายกำหนดการโปรแกรมการเดินทางไปพูด และจัดพิมพ์งานที่มีมากมายของกฤษรมูรติจากการพูด การสนทนา การเสวนา ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ความใส่ใจเป็นห่วงเป็นใยที่กฤษณมูรติมีต่อเยาวชนในฐานะอนาคตของมวลมนุษย์ ทำให้เขาก่อตั้งโรงเรียนขึ้นในประเทศอังกฤษ อเมริกา และ อินเดีย มีนักคิด นักเขียน กวี ศิลปิน นักวิทยาศาสตร์ บุคคลสำคัญเหล่านั้นหลายคน รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มีอำนาจทางการเมือง คือ มิตรที่คุ้นเคยกับกฤษณมูรติเป็นการส่วนตัว และเป็นกลุ่มที่มาร่วมเสวนาค้นหาเข้าสู่ปัญหาที่อยู่คู่กับมนุษย์มาเป็นเวลาช้านาน
 
เป็นที่ทราบกันดีว่า หนึ่งในผู้สอนของโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติที่กฤษณมูรติเคารพเป็นพิเศษ คือ พระพุทธเจ้า การที่ประเทศส่วนใหญ่ในโลกตะวันออกได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้งจากคำสอนอันนุ่มนวลของพระพุทธเจ้า จึงคาดคะเนได้ว่าผู้คนในภูมิภาคนี้เป็นเสมือนผืนดินที่เปิดรับกฤษณมูรติและคำสอนของเขา แต่กระนั้น ข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ แม้ว่ากฤษณมูรติจะเดินทางเพื่อพูดคุยและเสวนาเป็นเวลายาวนานถึง70 ปี ท่านก็ยังไม่เคยไปเยือนซีกโลกตะวันออก
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาให้ละเอียดขึ้น จะพบว่ากฤษณมูรติและคำสอนของเขา ได้เข้าไปอยู่ในใจของชาวซีกโลกตะวันออก คำสอนของกฤษณมูรติห่างไกลจากเหตุการณ์ในโลก และไม่ถูกขัดขวางโดยกลียุคทางสังคม-การเมือง และอุปสรรคด้านภาษา จึงทำให้คำสอนของท่านค่อยๆ ซึมผ่านอย่างแท้จริงและค่อยเป็นค่อยไปเข้าสู่ใจคน และมีผู้สนับสนุนและเห็นด้วยในประเทศในตะวันออกไกล และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
 
== คำสอน ==