ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อนุสาวรีย์เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต"

{{ขาดเพิ่มอ้างอิง}}

'''พระอนุสาวรีย์เจ้าหลวงบุญวาทย์วงศ์มานิต''' เป็นพระอนุสาวรีย์ของ[[เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต]] เจ้าผู้ครองนครลำปาง องค์ที่ 13 ครองนครในระหว่างปี พ.ศ. 2440 ถึงปี พ.ศ. 2465 เป็นเจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้ายที่ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากสยามประเทศ พระอนุสาวรีย์ ก่อสร้างในปี พ.ศ. 2521

ด้วยความปรารถนาจะสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อเทิดพระเกียรติอนุสาวรีย์เจ้าหลวงบุญวาทย์วงศ์มานิต พลโท '''เกิดขึ้นจากการดำริร่วมกันของสมาคมนักเรียนเก่า[[เจ้าโรงเรียนบุญวาทย์วงศ์มานิตวิทยาลัย]]''' และโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย เมื่อวันที่ [[25 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2516|พ.ศ. 2516]] สมาคมนักเรียนเก่า[[โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย]] ร่วมกับโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย ได้เห็นชอบให้จัดสร้างพระอนุสาวรีย์ พลโท เจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณและสักการบูชา เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อท่านผู้สถาปนาโรงเรียน

ต่อมาเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2517 ได้จัดทำเหรียญพ่อเจ้าบุญวาทย์ฯ ให้ประชาชนชาวลำปาง เช่าบูชา โดยกราบนิมนต์ ครูบาเจ้า มี[[หลวงพ่อเกษม เขมโก]] แห่ง[[สุสานไตรลักษณ์]]เป็นประธานฝ่านสงฆ์ แผ่เมตตาปลุกเสก โดยผ่านการติดต่อและประสานงานทาง ร่วมกับ[[เจ้าบุญส่ง ณ ลำปาง]] และ[[เจ้าประเวทย์ ณ ลำปาง]] ครูบาเจ้าในครั้งนั้นหลวงพ่อเกษม เขมโก ได้มอบทุนจำนวน 400,000 บาท โดยกำหนดวัตถุประสงค์ว่าให้เป็นทุนสำหรับการเพื่อสร้างพระอนุสาวรีย์ 200,000 บาท และสร้างอาคารสมาคมนักเรียนเก่า 200,000 บาท

ต่อมากองหัตถศิลป์ [[กรมศิลปากร]] ได้เป็นผู้ดำเนินการออกแบบและปั้นพระอนุสาวรีย์ขึ้น โดย[[สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ]] [[สมเด็จพระสังฆราช]] ได้ประธานฝ่ายสงฆ์ ทรงเป็นประธานเททองหล่อ และมีศาสตราจารย์ นายแพทย์ [[บุญสม มาร์ติน]] [[รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ]] เป็นประธานในพิธีวาง[[ศิลาฤกษ์]]ฐาน[[อนุสาวรีย์]] และอัญเชิญพระอนุสาวรีย์ ขึ้นประดิษฐาน เมื่อวันที่ [[13 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2521]] และได้กระทำพิธีเปิดพระอนุสาวรีย์เมื่อวันที่ [[15 พฤศจิกายน]] ของปีเดียวกัน<ref>[[พhttp://www.ศbwc.ac.th/web-general/page-7/page-2/holy%20object3.html 2521]อนุสาวรีย์เจ้าบุญวาทย์วงศ์มานิต]</ref>