ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เทนนิส"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Yodyoy (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3:
'''เทนนิส''' (Tennis) เป็น[[กีฬา]]ที่เล่นในร่มหรือกลางแจ้ง แบ่งเป็น 2 ฝ่ายแข่งกัน โดยมีผู้เล่นในประเภทเดี่ยวฝ่ายละ 1 คน และผู้เล่นในประเภทคู่ฝ่ายละ 2 คน ใช้ไม้เทนนิสตีส่งลูกไปมาเหนือตาข่ายภายในเขตที่กำหนด โดยพยายามตีลูกให้ลงในแดนคู่แข่ง จนคู่แข่งไม่สามารถตีลูกกลับมาลงในแดนของเราได้
 
เทนนิสเป็นเกมกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งใช้ไม้แร็กเก็ต เป็นการแข่งขันระหว่างผู้เล่นสองคน (Singles) หรือระหว่างผู้เล่นสองคู่ (Doubles) กีฬาเทนนิสถือกำเนิดในยุโรปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ช่วงแรกๆนั้นเทนนิสได้แพร่ขยายไปยังกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นสูง แท้จริงแล้วเทนนิสเป็นกีฬาสากลและเป็นเกมที่เล่นกันเกือบทุกประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ปี ค.ศ.1926 ซึ่งมีการจัดทัวร์นาเมนต์ครั้งแรก เทนนิสจึงได้กลายเป็นกีฬาอาชีพ เทนนิสได้ถูกบรรจุในกีฬาโอลิมปิก ณ โซล ปี ค.ศ.1988
 
== อุปกรณ์การเล่น ==
* '''ไม้เทนนิส หรือ แร็กเก็ต''' (Racquet) ซึ่งจะมีด้ามจับและมีบริเวณที่ใช้ในการตีลูกบอลซึ่งขึงเอ็นไว้
* '''ลูกเทนนิส''' (บอล) ซึ่งจะต้องมีขนาดและน้ำหนักเป็นไปตามข้อกำหนดในการแข่งขัน ในการแข่งขันแต่ละนัดจะมีการเปลี่ยนบอล เพราะบอลมักจะสูญเสียคุณสมบัติไประหว่างการเล่น จึงมีการกำหนดให้มีการเปลี่ยนบอลตามจำนวนเกมที่เล่นไปแล้ว เช่น เปลี่ยนบอลทุก 9 เกม ยกเว้นในเซ็ตแรกอาจเปลี่ยนที่ 7 เกมเนื่องจากบอลถูกใช้ในการอุ่นเครื่องก่อนการเล่นไปบ้างแล้ว เป็นต้น ฝ่ายที่ได้เสิร์ฟในเกมที่เปลี่ยนบอลใหม่ มักจะชูบอลให้ฝ่ายตรงข้ามทราบว่ามีการเปลี่ยนบอลใหม่แล้วก่อนที่จะเริ่มเสิร์ฟ
 
== สนาม ==
บรรทัด 16:
ต้องเป็นพื้นผิวเรียบ สนามแต่ละพื้นผิวให้ความเร็วและการกระดอนของบอลที่แตกต่างกัน ได้แก่
* พื้นแข็ง (hard court) ทำจากคอนกรีต ราดยาง หรืออะครีลิก พื้นแข็งจะทำให้บอลเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า และกระดอนได้อย่างแท้จริง
* พื้นดิน (clay court) ปัจจุบันมักไม่ได้ทำมาจากดินจริง แต่จะเป็นอิฐป่นและปูทับด้วยอนุภาคพิเศษที่ไม่ดูดซับน้ำง่าย พื้นดินมักจะทำให้บอลเคลื่อนที่ช้ากว่า และบอลจะติดสปินมากกว่า
* พื้นหญ้า (grass court) บอลจะเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า แต่การกระดอนมักจะไม่แน่ไม่นอน ปัจจุบันมีการใช้หญ้าชนิดใหม่ที่ทำให้บอลกระดอนได้สูงขึ้นและการเคลื่อนที่ของบอลช้าลงกว่าหญ้ารุ่นก่อน
* พื้นพรม (carpet court) มักใช้เล่นเฉพาะเทนนิสในร่ม และไม่มีการใช้พื้นสนามนี้แล้วสำหรับการแข่งขันของ ATP และ WTA
บรรทัด 24:
=== เส้นในสนาม ===
*เส้นฐาน (base line) เป็นเส้นแนวนอน อยู่ด้านหลังสุดของสนามของแต่ละฝ่าย และจะมีเส้นเครื่องหมายขีดสั้นอยู่ตรงกึ่งกลางของเส้นฐาน
*เส้นเสิร์ฟ (service line) เป็นเส้นแนวตั้งขีดแบ่งสนามของแต่ละฝ่ายออกเป็นซ้ายขวา โดยจะมีเท่ากัน
*เส้นอีกกลาง (center line) 1 เส้นมาทอดตั้งฉากในแนวขวาง เรียกว่ากับเส้นกลางเสิร์ฟ ทำให้เกิดกรอบพื้นที่เสิร์ฟ (service box) ฝ่ายละ 2 ด้านซ้ายขวาซึ่งจะอยู่ชิดตาข่าย โดยผู้เล่นที่เสิร์ฟจะต้องเสิร์ฟลูกให้ลงในกรอบพื้นที่ดังกล่าวเท่านั้น ทั้งนี้จะต้องเสิร์ฟลูกให้ลงด้านใดขึ้นอยู่กับคะแนนที่เล่นในขณะนั้น
*เส้นข้าง (side line) เป็นเส้นแนวตั้งด้านซ้ายและขวาของขอบสนาม ทอดไปตามความยาวของสนาม ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดขอบเขตความกว้างของพื้นที่สนาม ในการเล่นประเภทเดี่ยวจะใช้เส้นข้างด้านใน ส่วนการเล่นประเภทคู่จะใช้เส้นข้างด้านนอก
 
เส้น 49 ⟶ 50:
*จำนวนเกมในแต่ละเซ็ตอาจแปรเปลี่ยนได้ตามกติกาของบางรายการแข่งขันที่กำหนดขึ้นเฉพาะกิจ
=== การนับคะแนนของเกม ===
* ในเกมหนึ่งๆ ไม่ว่าฝ่ายใดก็ตามทำคะแนนได้จะนับคะแนนของฝ่ายนั้นเรียงตามลำดับดังนี้ 15, 30, 40, เกม (ซึ่งก็คือคะแนนที่ 1, 2, 3, 4 ที่ทำได้ตามลำดับนั่นเอง)
* ในการอ่านคะแนน ให้อ่านคะแนนของฝ่ายที่เสิร์ฟขึ้นก่อน เช่น 15-30 หรือหมายถึง 40-0ฝ่ายเสิร์ฟได้ 15 คะแนน และฝ่ายรับเสิร์ฟได้ 30 คะแนน เป็นต้น
* หากคะแนนเสมอกันที่ 40-40 จะต้องเล่นต่อไปอีก 2 คะแนน เรียกว่า '''ดิวซ์''' (deuce) และเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำคะแนนนำ 1 คะแนนได้ก่อน เรียกว่า '''ได้เปรียบ''' (Advantage มักใช้อักษรย่อ A หรือ Adv) เช่น 40-A หรือ A-40 และหากฝ่ายนั้นทำได้อีก 1 คะแนน ก็จะชนะในเกมนี้ไป แต่หากทำไม่ได้ก็ถือว่ากลับมาเสมอกันที่ 40-40 อีกครั้ง และก็ต้องเล่นต่ออีก 2 คะแนนไปเรื่อยๆ (แต่มีกติกาพิเศษในบางรายการแข่งขันที่กำหนดว่าจะไม่มีการเล่นต่อ 2 คะแนน ฝ่ายไหนได้คะแนนหลังจากคะแนนที่ 40 ก่อนถือว่าชนะเกมนั้น)
* ไทเบรก (tie break) ใช้เพื่อตัดสินผู้ชนะของเซ็ตนั้นในกรณีที่ทั้งสองฝ่ายเสมอกันที่ 6-6 เกม การเล่นเกมที่ 7 เป็นเกมสุดท้ายของเซ็ต เรียกว่าเล่น '''ไทเบรก''' โดยในเกมนี้จะนับคะแนนเป็น 1, 2, 3, ... ไปเรื่อยๆ ฝ่ายใดที่ทำได้ 7 คะแนนก่อนจะเป็นผู้ชนะในเซ็ตนั้น เช่น ชนะ 7-4 คะแนนของเกมที่ 7 ก็จะเป็นฝ่ายชนะในเซ็ตนั้น เป็นต้น แต่หากคะแนนของเกมนี้เสมอกันที่ 6-6 คะแนนอีก ผู้เล่นฝ่ายใดก็ตามที่ทำคะแนนนำคู่แข่งได้ 2 คะแนนก่อนจะเป็นผู้ชนะในเซ็ตนั้น เช่น ชนะ 8-6 คะแนน หรือแพ้ 8-10 คะแนน เป็นต้น เมื่อไทเบรกจบลง ผลจะเป็นชนะ 7-6 เกม หรือแพ้ 6-7 เกมในเซ็ตนั้นๆ (ยกเว้นในเซ็ตสุดท้ายของรายการแกรนด์สแลมจะไม่มีการเล่นไทเบรก)
 
== ดูเพิ่ม ==
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/เทนนิส"