ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วัดป่าศิริสมบูรณ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Subpanon (คุย | ส่วนร่วม)
→‎ประวัติ: เพิ่มหัวข้อ บุพนิมิต
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 19:
ท่านพระปลัดวิศวาธาร ปภัสสโรได้เดินทางจาริกธุดงคืไปตามสถานที่วิเวกสงัดในจังหวัดต่างๆ เป็นระยะเวลาหลายปี ไม่มีความประสงค์ในลาภสักการะแม้ในทางสมณะ จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม พงศ. 2542 วึ่งตอนนั้นได้ภาวนาอยู่ที่ถ้ำพระสิวลี บ้านเมืองแพม ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ได้มีสหธรรมมิกเดินทางมาที่บ้านเมืองแพมเพื่อทำการสวดพระปาติโมกข์
 
ในขณะที่พระภิกาุภิกากำลังทำสังฆกรรมนั้น สามเณรวิรัตน์สิทธิ์ทัศน์ (ซึงในขณะนั้นได้ไปธุดงค์ร่วมกัน) ได้ไปนั่งที่โขดหิน ปรากฏว่าได้ยินเสียงสวดมนต์ไพเราะที่แตกต่างจากเสียงของบุคคลทั่วไป ในครั้งแรกสามเรรนึกว่าเป็นเสียงของสำนักปฏิบัติธรรมละแวกนั้น แต่พอพิจารณาดูแล้ว ในแถบนั้นไม่น่าจะมีสำนักปฏิบัติธรรมที่อยู่ใกล้ๆนั้นเลย ถึงมีก้ไม่น่าได้ยินเสียงมาไกลถึงที่นี่ เพราะแต่ละบ้านอยู่ห่างไกลกันและไม่มีไฟฟ้าทุกหมู่บ้าน
 
ในคืนนั้นขณะที่พระปลัดวิศวาธารได้เจริญพระกรรมฐานอยู่ ได้เกิดนิมิตเห็นอุบาสิกาผู้หนึ่งนุ่งห่มผ้าขาวร่างกายสะอาด ได้มากราบท่านแล้วกล่าวอาราธนาให้กลับไปยังภูมิลำเนาเดิม เพื่อได้โปรดญาติโยมผู้ที่เคยได้สร้างกรรมร่วมกันมาในอดีต และได้เกิดภาพเห็นผืนป่าแห่งหนึ่งเขียวขจีสวยงามมาก พอออกจากสมาธิท่านได้พิจารณาถึงการจาริกออกธุดงค์ของท่าน และการบำเพ็ญบารมีต่างๆก็พอที่จะรักษาตัวเองให้อยู่รอดจากเหล่ามารร้ายได้แล้ว ท่านจึงตัดสินใจกลับสู่ถิ่นกำเนิดของตนโดยได้อธิษฐานจิตไว้ว่าหากจะเป็นจริงดั่งนิมิตนั้นแล้ว ก็ให้เดินทางให้ถึงสถานที่นั่นก่อนเข้าพรรษาเถิด เราจะขอถอนการสมาทานเดินเท้าหากมีใครขับรถมา แล้วมีผู้จอดรับก็จะขึ้นรถนั้นด้วย (ท่านไม่รับปัจจัยการเดินทาง และได้สมาทานการเดินเท้าไว้เท่านั้น)