ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดีร์ก เกอวต์"

เกยต์ได้ย้ายมาสู่[[แอนฟีลด์]]ในปี [[ค.ศ. 2006]] ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2006 เกยต์ได้ทำประตูลงเล่นนัดแรกให้กับลิเวอร์พูล โดยลงสนามเป็นตัวสำรองในนัดที่เจอกับ [[สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด|เวสต์แฮมยูไนเต็ด]] ต่อมา เกยต์ได้ทำประตูแรกให้กับลิเวอร์พูลในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ[[สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด|นิวคาสเซิลยูไนเต็ด]] โดยลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ดไป 2-0<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/sport1/hi/football/eng_prem/5351794.stm |title=Liverpool 2–0 Newcastle |publisher=[[BBC Sport]] |accessdate=21 September 2006 | date=20 September 2006 | first=Ian | last=Hughes}}</ref> ต่อมาลิเวอร์พูลเปิดบ้านเจอกับสนามแอนฟีลด์เจอกับ[[สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์|ทอตนัมฮอตสเปอร์]] และเกยต์ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก โดยลิเวอร์พูลชนะไป 3-0 ต่อมา เกยต์ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลา|แอสตันวิลลา]] 3-1 ต่อมา เกยต์ได้เล่นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการใหญ่คือ [[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] ปี 2006-2007 ระหว่างลิเวอร์พูลกับ[[เอซี มิลาน]] ซึ่งก่อนหน้านั้น 2 ปี ลิเวอร์พูลได้ชิงรายการเดิมกับเอซี มิลาน โดยนัดนั้นลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ แชมป์ครั้งนั้นทำให้ลิเวอร์พูลได้แชมป์เป็นสมัยที่ 5 และนัดนี้ ดีร์ก เกยต์ กองหน้าคนใหม่ก็ต้องผิดหวังเมื่อแพ้เอซีมิลานที่[[กรุงเอเธนส์]] [[ประเทศกรีซ]] 2-1 ถึงแม้เกยต์จะตีไข่แตกในนาทีที่ 87 แต่ก็ตามไม่ทัน ทำให้ลิเวอร์พูลพลาดแชมป์ที่จะได้เท่ากับเอซีมิลาน คือ 6 สมัย เกยต์ย้ายเข้ามาใน[[แอนฟีลด์]] และถูกเปลี่ยนบทบาทจากกองหน้ากลายมาเป็น[[ปีกขวา]] เกยต์เป็นนักฟุตบอลที่ขยัน ทำให้เขายึดตัวจริงในถิ่นแอนฟีลด์และเป็นตัวหลักในชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลไปโดยปริยาย

เกยต์ทำประตูแรกในฤดูกาล 2007-2008 ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะตูลูสจากฝรั่งเศส 4-0 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือก ต่อมา ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2007 เกยต์ได้ยิง 2 [[จุดโทษ]]ช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะคู่ปรับร่วมเมือง [[เอฟเวอร์ตัน]] ถึงที่[[กูดิสันพาร์ก]] 2-1 ต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน 2007 เกยต์ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลถล่มเอาชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ดถึงที่[[เซนต์เจมส์ปาร์ก]] 3-0 ซึ่งจบฤดูกาล เกยต์ยิงได้แค่ 3 ประตูเท่านั้น

ลิเวอร์พูลบุกไปเยือน[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]]ที่[[ซิตีออฟแมนเชสเตอร์]] โดยครึ่งแรก ลิเวอร์พูลตามหลัง 0-2 แต่ในครึ่งหลัง [[เฟร์นันโด ตอร์เรส]] ยิง 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูลตามตีเสมอ 2-2 และในช่วงนาทีสุดท้าย เกยต์ได้ยิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3-2 ต่อมา ลิเวอร์พูลเปิดบ้านสนามแอนฟีลด์เจอกับวีกันแอทเลติก โดยเกยต์ได้ยิงประตูตีเสมอ 1-1 แต่ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลตามหลัง 1-2 แต่ในครึ่งหลังเกยต์ ได้ยิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไป 3-2 ซึ่งจบฤดูกาล เกยต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 12 ประตูจาก 38 นัด

เกยต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลตีเสมอเอฟเวอร์ตัน 2-2 ต่อมา เกยต์ได้ทำ[[แฮตทริก]]ครั้งแรกให้กับลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับคู่ปรับตลอดกาล [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] ที่[[แอนฟีลด์]] โดยลิเวอร์พูลชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไป 3-1 พร้อมกับคว้าลูกบอลกลับบ้านไปครอง ต่อมา เกยต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะซันเดอร์แลนด์ถึง ซันเดอร์แลนด์ที่[[สเตเดียมออฟไลต์]] 2-0 ต่อมาได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลถล่มเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3-0, ต่อมาเกยต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลตีเสมออาร์เซนอลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 1-1, ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลถล่มเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ[[เบอร์มิงแฮมซิตี]] 5-0, ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลถล่มนิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-0 และได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลถล่มเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลฟูแลม|ฟูลัม]]ถึง 5-2 ซึ่งจบฤดูกาล เกยต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 13 ประตูจาก 33 นัด

เกยต์ได้มีโอกาสลงเล่นมากขึ้นโดยทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงต้นปี 2012 ด้วยการยิงประตูชัยในนาที 88 ใน[[เอฟเอคัพ]]รอบ 4 ที่ [[แอนฟีลด์]] นัดที่ลิเวอร์พูลพบ[[แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] โดยทำสกอร์ให้ลิเวอร์พูลชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไป 2-1 ต่อมา ในรอบชิงชนะเลิศถ้วย[[ลีกคัพ]] ลิเวอร์พูลเจอกับ[[สโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี|คาร์ดิฟฟ์ซิตี]] เกยต์ลงมาเป็นตัวสำรองและสามารถทำประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่สุดท้ายจบด้วยผลเสมอ 2-2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเกยต์ยิงจุดโทษได้ด้วยและผลคือทำให้ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษ 3-2 และสามารถคว้า[[ลีกคัพ]]มาได้ พอจบฤดูกาล 2011-12 ลิเวอร์พูลจบในอันดับที่ 8 โดยไม่ได้ไปเล่น[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]]ถึง 3 ครั้ง ซึ่งจบฤดูกาล เกยต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 2 ประตู เท่านั้น และเกยต์ก็ไม่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงทั้งหมด จึงทำให้เกยต์ต้องย้ายออกจาก[[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล]]ไปอยู่[[เฟแนร์บาห์เชสปอร์กูลือบือ|สโมสรฟุตบอลเฟแนร์บาห์เช]]ในวันที่ [[3 มิถุนายน]] [[ค.ศ. 2012]]