ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Kukukujiyu (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 18:
'''โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง''' ([[อังกฤษ]]: Assumption College Rayong; อักษรย่อ: อสช., ACR) เป็นสถานศึกษาลำดับที่ 9 ของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย ก่อตั้งด้วยปณิธานของนาย ส่ง เหล่าสุนทร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
 
บนควยไร
== ประวัติการก่อตั้งโรงเรียน ==
โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง เป็นสถานศึกษาลำดับที่ 9 ของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย จากคำบอกเล่า และบทความเดิมทำให้ทราบความเป็นมาของโรงเรียนอัสสัมชัญระยองโดยประมาณว่า เมื่อปี พ.ศ. 2506 จังหวัดระยอง มีเพียง 3 อำเภอ 2 กิ่ง คืออำเภอเมืองระยอง อำเภอบ้านค่าย อำเภอแกลง กิ่งอำเภอบ้านฉาง และกิ่งอำเภอวังจันทร์ จากสภาพเขตการปกครองจังหวัดระยองเป็นจังหวัดเล็กอันดับสองของ จังหวัดในภาคตะวันออกของประเทศไทย มีประชากรตอนนั้นประมาณ 300,000 คน ก่อนที่โรงเรียนอัสสัมชัญระยองเปิด 3 ปี ช่วงนั้นเศรษฐกิจ และการศึกษาของจังหวัดระยองยังขาดความเจริญซบเซา ไม่ได้รับการพัฒนาให้เท่าเทียมกับหลาย ๆ จังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกัน ในปีการศึกษา 2506 ซึ่งเป็นปีที่โรงเรียนอัสสัมชัญระยองก่อตั้งขึ้นในจังหวัดนี้ โดยในสมัยนั้น นาย ส่ง เหล่าสุนทร ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง, พันตำรวจเอกสม อุบลศรี ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และ พันตำรวจโทฑีฆายุ บุญทียกุล รองผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ทั้งสองท่านได้เป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ ส่ง ซึ่งบุคคลทั้งสามมีส่วนสำคัญต่อการให้กำเนิดโรงเรียนอัสสัมชัญะยองเป็นอย่างยิ่ง โดยท่านมีความมุ่งหวังที่จะสร้างโรงเรียนแห่งใหม่ขึ้น เพราะท่านมองเห็นการศึกษาปัจจุบันของจังหวัดระยองยังล้าหลังอยู่มาก เพื่อให้จังหวัดระยองมีความเจริญเท่าเทียมกับจังหวัดอื่น ๆ จึงมีความปรารถนาที่จะเห็นเยาวชนในจังหวัดระยองมีความตื่นตัวในการศึกษา มีโรงเรียนที่เป็นผู้นำในการศึกษา เพื่อที่จะได้พัฒนาท้องถิ่นของตนให้เจริญก้าวหน้าและด้วย จากนั้นผู้ว่าฯ จึงได้ตัดสินใจสร้างโรงเรียน จึงได้ปรึกษากับข้าราชการหลายท่าน รวมถึงอีกสองท่านที่กล่าวมาข้างต้น ท่านได้บอกความมุ่งหมายและจุดประสงค์ให้ทุกคนทราบ แต่ยังกำลังหาใครที่จะมาบริหารโรงเรียนที่จะสร้างใหม่นี้ได้ดีตามที่ท่านมีความมุ่งหวังไว้ พันตำรวจโทฑีฆายุ ผู้ซึ่งเป็นเป็นอัสสัมชัญชนิก ได้เสนอให้คณะบราเดอร์เซนต์คาเบรียลมาดำเนินกิจการของโรงเรียน จึงเป็นที่พอใจและเห็นชอบกับผู้ว่าฯ เพราะท่านได้ยินถึงกิตติศัพท์ความมีชื่อเสียงของโรงเรียนในคณะนี้มาก่อนแล้ว ท่านจึงได้เริ่มดำเนินการที่จะติดต่อกับคณะภราดาเซนต์คาเบรียล เพื่อที่จะให้มีโรงเรียนอัสสัมชัญในจังหวัดระยองให้ได้ การติดต่อกับคณะเซนต์คาเบรียลนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบากมาก เพราะจังหวัดระยองไม่ได้อยู่ในโครงการที่จะก่อตั้งโรงเรียนของคณะ และเป็นจังหวัดที่อยู่ไม่ห่างไกลจาก[[โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา]] จังหวัดชลบุรีเท่าไร และเหตุผลที่สำคัญคือ คณะภราดาไม่มีทุนในการก่อสร้างอาคารเรียน ดังนั้นการติดต่อจึงใช้เวลาเกือบ 4 ปี ท่านผู้ว่าฯ เดินทางติดต่อไป ๆ มา ๆ เพื่อติดต่ออยู่หลายครั้ง ก็ประสบความสำเร็จ เมื่อภราดายอห์น เมรี่ อธิการเจ้าคณะแขวงเซนต์คาเบรียลตกลงใจรับเป็นผู้บริหารกิจการของโรงเรียนแห่งใหม่นี้
 
ที่ดินสร้างโรงเรียน ผู้ว่าฯ ส่ง นัดประชุมที่ปรึกษา ร่วมด้วยนายเขียว โสภณ ศึกษาธิการจังหวัดระยอง ผู้กำกับสม อุบลศรี และพันตำรวจโทฑีฆายุ คณะที่ประชุมเห็นชอบยกป่าสงวนแห่งชาติเพียงส่วนหนึ่งให้เพื่อสร้างโรงเรียน เพราะหาแห่งอื่นไม่ได้ ถึงจะมีที่อื่นที่คิดว่าเหมาะสมกว่าแต่ก็เรียกค่าตอบแทนสูง หรือไม่ก็เรียกร้องสิทธิต่าง ๆ มากมาย สถานที่ที่จะก่อตั้งโรงเรียน ต้องไม่ห่างไกลจากชุมชนจนเกินไป การคมนาคมสะดวกพอสมควร และที่ป่าสงวนเหมาะที่สุด เพราะอยู่ ห่างจากระยองเพียง 6 กิโลเมตร ติดกับ[[ถนนสุขุมวิท]] อยู่ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 216 และที่ 215 เนื้อที่ ทั้งหมดที่ให้ 120 ไร่ แต่ได้แบ่งให้กับโรงเรียนเซนต์โยเซฟ เป็นโรงเรียนหญิงคณะซิสเตอร์เซนต์ปอล เสียส่วนหนึ่ง ภายหลังต่อมาโรงเรียนอัสสัมชัญระยองได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก
 
ในวันมอบโฉนดที่ดินโรงเรียนให้กับตัวแทนมูลนิธิเซนต์คาเบรียลประธานคือผู้ว่าฯ ส่ง วันนั้น มีแขกผู้มีเกียรติหลายท่านประกอบด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คณะภราดาจากคณะเซนต์คาเบรียล พ่อค้า และประชาชน จากคำบอกเล่าว่าวันนั้นท่านมีความภาคภูมิใจมากที่มีวันนี้ ท่านได้กล่าวว่ารู้สึกภูมิใจมากในสิ่งที่ท่านได้ฝันไว้ ขณะนี้ผลสำเร็จได้เกิดขึ้นแล้ว ท่านยังให้ความหวังกับชาวจังหวัดระยองต่อไปอีกว่า นักเรียนสำเร็จจากสถาบัน นี้เป็นคนดี มีคุณธรรม จะนำความก้าวหน้าความเจริญมาสู่จังหวัดระยองต่อไปในอนาคต ช่วงแรก ๆ ครูส่วนมากจะพักอยู่ภายในโรงเรียน โดยใช้ห้องเรียนเป็นห้องนอน เนื่องจากการสัญจรไปมายากลำบากมาก ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ปี 2506 ทางโรงเรียนได้สร้างบ้านพักครูขึ้นหลังหนึ่งปัจจุบันนี้บริเวณบ้านพักนั้นคือหอประชุมหรือโรงพละ และสร้างสนามบาสเกตบอลอยู่หลังอาคารอัสสัมชัญ ปีการศึกษา 2508 มีนักเรียน 920 คน เปิดเรียน ตั้งแต่ชั้น ป.1 - ม.ศ.2 จึงทำให้อาคารเรียนหลังแรกไม่พอสำหรับนักเรียน แต่ช่วงปี 2507 ทางโรงเรียน ได้สร้างอาคารเรียนชั่วคราวขึ้นหลังหนึ่ง เพื่อใช้เป็นชั้นเรียนให้กับนักเรียนชั้นประถมปีที่ 1 (ใน
ปัจจุบันคือสวนหย่อมสำหรับเด็กอนุบาล) ต่อมาได้สร้าง อาคารเพิ่มขึ้นอีก 1 หลังตัวอาคารเป็น 3 ชั้น ขณะที่กำลังก่อสร้างอยู่ เป็นช่วงที่อธิการซีเมออนย้ายไปรับตำแหน่งอธิการโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา
 
== อาคารสถานที่ภายในโรงเรียนที่สำคัญ ==