ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระพรหมวชิรสุธี (อภิพล อภิพโล)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3:
|ชื่อภาพ = [[ไฟล์:พระธรรมบัณฑิต0001.jpg|250px]]
|ฉายา = อภิพโล
|ชื่อทั่วไป = อภิพล บุญส่ง
|สมณศักดิ์ = พระธรรมบัณฑิต
|วันเกิด = {{วันเกิด|2480|03|13}}
บรรทัด 13:
|จังหวัด = [[แขวงบางกะปิ]] [[เขตห้วยขวาง]] [[กรุงเทพมหานคร]]
|สังกัด = [[ธรรมยุติกนิกาย]]
|วุฒิ = [[เปรียญธรรม 5 ประโยค]] <br> [[นักธรรมชั้นเอก]]
|ตำแหน่ง = กรรมการ[[กรรมการมหาเถรสมาคม]]<br>เจ้าอาวาส[[วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก]]<br>ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส[[วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร]]
}}
 
'''พระธรรมบัณฑิต''' (อภิพลฉายา '''อภิพโล)''' นามสกุลนามเดิม'''อภิพล บุญส่ง''' วิทยฐานะ ป.ธ.5, น.ธ.เอก ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง กรรมการ[[กรรมการมหาเถรสมาคม]] และเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
 
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดสถาปนาขึ้นเป็น[[พระราชาคณะชั้นธรรม]] เมื่อวันที่ [[5 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2552]] มีราชทินนามว่า '''พระธรรมบัณฑิต สิทธิธรรมโกศล วิมลศีลาจาร ศาสนภารธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี'''
 
==ประวัติ==
'''พระธรรมบัณฑิต''' มีนามเดิมว่า อภิพล บุญส่ง เกิดเมื่อวันเสาร์ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีฉลู ตรงกับวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2480 ที่ ตำบลทุ่งขวาง อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม โยมบิดาชื่อ นายธูป บุญส่ง โยมมารดาชื่อ นางมูล บุญส่ง เมื่อครั้งวัยเยาว์ สำเร็จการศึกษาสายสามัญชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนในหมู่บ้าน จากนั้นเด็กชายอภิพลได้เดินทางเข้ามากรุงเทพมหานคร เพื่อบวชเรียน โดยเข้าพิธีบรรพชา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2497 ณ [[วัดบวรนิเวศวิหาร]] เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มี[[สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์]] (ม.ร.ว.ชื่น นพวงศ์) เป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ จึงเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 ณ พัทธสีมาวัดบวรนิเวศวิหาร โดยมี[[พระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ)]] วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์, [[พระเทพมงคลรัตนมุนี (แก้ว อัตตคุตโตอตฺตคุตฺโต)|พระมงคลรัตนมุนี (แก้ว อตฺตคุตฺโต)]] เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ[[พระเทพญาณวโรดม (สนธิ์ กิจฺจกาโร)|พระราชกวี (สนธ์สนธิ์ กิจจกาโรกิจฺจกาโร)]] เป็นพระอนุสาว นาจารย์ หลังอุปสมบท ได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สามารถสอบได้[[นักธรรมชั้นเอก]] และสอบได้[[เปรียญธรรม 5 ประโยค]] อีกทั้งสนองงานแบ่งเบาภาระของเจ้าประคุณพระพรหมมุนีอย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อย จนกระทั่ง พระพรหมมุนี ได้มรณภาพลง [[สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่|พระธรรมวราภรณ์ (เจริญ สุวฑฺฒโน)]] ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารสืบแทน ท่านก็ยังคงรับสนองงานเจ้าอาวาสรูปใหม่อยู่มิได้ขาด ต่อมาจึงได้เลื่อนเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และได้รับแต่งตั้งให้เป็นเลขานุการในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และเลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร-สมุทรปราการ ฝ่ายธรรมยุตด้วย
 
==สมณศักดิ์==
* พ.ศ. 2513 -ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น[[พระครูสัญญาบัตร]]ที่ ''พระครูปริยัติสารโสภณ''
* [[5 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2525]] ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น[[พระราชาคณะชั้นสามัญ]]ที่ '''พระอรรถกิจโกศล'''
* [[5 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2532]] ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น[[พระราชาคณะชั้นสามัญ]] ที่ '''พระมหานายก''' พระราชาคณะปลัดขวา [[ฐานานุกรม]]ใน[[สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก]]
* [[12 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2535]] ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น[[พระราชาคณะชั้นราช]]ที่ '''พระราชสุมนต์มุนี'''
* [[5 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2543]] ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น[[พระราชาคณะชั้นเทพ]] ที่ '''พระเทพญาณวิศิษฏ์'''
* [[5 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2552]] ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น[[พระราชาคณะชั้นธรรม]] ที่ '''พระธรรมบัณฑิต' สิทธิธรรมโกศล วิมลศีลาจาร ศาสนภารธุราทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี''
 
==เจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก รูปแรก==
ย้อนหลังกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริให้แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียด้วยวิธีการเติมอากาศที่บึงพระราม 9 ซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ต่อมา ได้มีพระราชดำริให้ปรับปรุงพื้นที่และพัฒนาชุมชนบริเวณบึงพระราม 9 และมีพระราชประสงค์ให้ดำเนินการจัดตั้งวัดขึ้นในบริเวณชุมชนบึงพระราม 9 เพื่อเป็นทั้งพุทธสถานในการประกอบกิจของพระสงฆ์ในการสืบทอดและเผยแผ่พระพุทธศาสนา
 
วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เป็นวัดตามแนวพระราชดำริใน[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แห่งบรมราชจักรีวงศ์พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] ตั้งอยู่เลขที่ 999 ซอยพระราม 9 กาญจนาภิเษก 19 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2538 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
===วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก===
วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เป็นวัดตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 แห่งบรมราชจักรีวงศ์ ตั้งอยู่เลขที่ 999 ซอยพระราม 9 กาญจนาภิเษก 19 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2538 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถ วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
 
ในการนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ทรงมีพระบัญชาให้พระราชสุมนต์มุนี (สมณศักดิ์พระธรรมบัณฑิต ท่านในขณะนั้น) ไปดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
 
พระธรรมบัณฑิต ได้ปฏิบัติพุทธภารกิจตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสมอมา เป็นผู้ทำนุบำรุงและเผยแผ่ศาสนาทั้งในและต่างประเทศ เป็นผู้เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในการบริหารทางศาสนกิจหลายตำแหน่ง เป็นพระนักปกครองที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถในการดำเนินกิจกรรมทางศาสนา
 
==การเสริมสร้างและเผยแผ่พระพุทธศาสนา==
เส้น 47 ⟶ 44:
 
===ด้านการอบรมเผยแผ่ธรรมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา===
เปิดดำเนินโครงการสร้างสถานปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 (พ.ศ. 2549 - ปัจจุบัน) เพื่ออบรมเผยแผ่ธรรม และเนื่องในมหามงคลที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงครองราชย์ครบ 60 ปี และทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ท่านยังได้สนับสนุนโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ ตามพระราชดำริใน[[สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ]] สนองงานในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ในการดำเนินการก่อสร้างวัดในพระอุปถัมภ์ สำหรับ ในด้านสงเคราะห์ชุมชนและสังคม
 
พระธรรมบัณฑิตได้สนองงานในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ในการดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาล อาคารผู้ป่วย สถานีอนามัย โรงเรียน ห้องสมุดในหลายจังหวัด ร่วมกับชุมชนจัดกิจกรรมด้านการศึกษา พุทธศาสนา สุขภาพอนามัย ตลอดจนอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีไทย นับได้ว่าเป็นการเสริมทุนแก่ประชาชนในการพัฒนาการศึกษาของตนได้ตลอดชีวิต
 
โดยเหตุที่ พระธรรมบัณฑิต เป็นนักพัฒนาตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เปี่ยมด้วยภูมิรู้ ภูมิธรรม ส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาแก่พระสงฆ์และสามเณร ได้ใช้ความรู้ ความรู้ความสามารถ ในการบริหารจัดการที่เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ และพระพุทธศาสนาอย่างมหาศาล "ทำดีแล้วไม่ต้องกลัว เพราะดีคือดี" เป็นธรรมโอวาทสั้นๆสั้น ๆ แต่ให้แง่คิดหลักธรรมอย่างลึกซึ้ง แม้พระธรรมบัณฑิตจะมีฐานะเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายปกครองที่คอยดูแลเอาใจใส่ความเป็นไปของวัด แต่ชีวิตส่วนตัวของท่าน ก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและสันโดษดุจเดิม
 
==อ้างอิง==
* {{อ้างหนังสือ
|ผู้แต่ง=สนติ์ แสวงบุญ และ สมบูรณ์ บุญครอบ
เส้น 111 ⟶ 108:
{{จบกล่อง}}
 
{{เรียงลำดับ|ธรรมบัณฑิต (อภิพล}}
{{เกิดปี|2480}}
[[หมวดหมู่:กรรมการมหาเถรสมาคม]]
[[หมวดหมู่:พระราชาคณะชั้นธรรม|บัณฑิต (อภิพล]]
[[หมวดหมู่:เจ้าอาวาส]]
[[หมวดหมู่:พระภิกษุในนิกายเถรวาท (สังกัดคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกาย)]]
[[หมวดหมู่:เปรียญธรรม 5 ประโยค]]
[[หมวดหมู่:บุคคลจากจังหวัดนครปฐม]]