ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มิสไซง่อน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ckong126 (คุย | ส่วนร่วม)
Ckong126 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 30:
;เวสต์เอนด์ (ค.ศ.2014)
มิสไซง่อนกลับมาเปิดทำการแสดงอีกครั้งที่โรงละครปรินส์เอ็ดวาร์ดโดยโปรดิวเซอร์ชื่อดังอย่าง คาเมรอน แมคอินทอช (Cameron Mackintosh) และกำกับโดยลอเรนส์ คอนเนอร์ (Laurence Conor) ได้มีการออดิชั่นคัดเลือกนักแสดงในบทของคิมที่[[กรุงมะนิลา]] ประเทศ[[ฟิลิปปินส์]] ในวันที่ 19-22 พฤศจิกายน ค.ศ.2012 และได้มีการประกาศตัวนักแสดงหลักในวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ.2013 มิสไซง่อน ได้เปิดการแสดงอีกครั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 21 พฤษภาคม ค.ศ.2014 และได้จัดรอบพิเศษในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปีของละครเรื่องนี้ในวันที่ 22 กันยายน ค.ศ.2014 โดยหลังจากละครได้จบลง [[ลีอา ซาลองกา]], ไซมอน โบวแมน, [[โจนาทาน ไพรซ์]] และนักแสดงอื่นๆอีกมากมายจากการแสดงต้นฉบับออกมาแสดงการแสดงชุดพิเศษร่วมกับนักแสดงชุดปัจจุบัน<ref>http://www.cameronmackintosh.com/news/miss-saigon-gala-celebrates-25th-anniversary</ref>
 
โดยในโปรดักชั่นใหม่นี้ได้มีการปรับเปลี่ยนบทละครและบทร้องบางส่วนให้ลงตัวยิ่งขึ้น ที่เห็นได้ชัดคือมีการตัดบทเพลง "Now That I've Seen Her" เพลงหลักของเอเลนออกและแทนที่ด้วย "Maybe" ด้วยบทเพลงนี้จะช่วยทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงบทบาทและความคิดของเอเลนมากขึ้นและยังทำให้บทบาททางความคิดของเอเลนอ่อนลงกว่าในบทเพลง "Now That I've Seen Her"<ref>http://lifestyle.inquirer.net/160815/the-heats-still-on-in-the-new-miss-saigon</ref>
 
;กรุงเทพมหานคร
เส้น 48 ⟶ 50:
 
อาทิตย์ต่อมา ทหารของถวีได้พบตัวเอนจิเนียร์อยู่ทางเหนือของเวียดนาม เอนจิเนียร์พาถวีไปหาคิม ถวีได้ให้โอกาสคิมที่จะแต่งงานกับเขาอีกครั้งแต่คิมปฏิเสธ ถวีสั่งทหารให้เข้ามาจับกุมคิมและเอนจิเนียร์และขู่จะส่งพวกเขาไปค่ายปรับทัศนคติของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ถวีสั่งให้ทหารและเอนจิเนียร์ออกไปและพยายามคุยกับคิมอีกครั้ง คิมจึงเปิดเผยความลับของเธอ หลังจากที่ถวีพบว่าคิมมีลูกชายชื่อ’แทม’กับคริสจึงพยายามจะฆ่าเขา คิมได้หยิบปืนที่คริสได้ให้ไว้ก่อนจากกันและยิงถวี (“อย่าแตะต้องตัวเขา / You will not touch him”) คิมหนีไปหาเอนจิเนียร์กับแทมและบอกเขาว่าเธอได้ฆ่าถวี เอนจิเนียร์ปฏิเสธที่จะช่วยคิมในตอนแรก แต่หลังจากที่คิมบอกว่าพ่อของแทมคือคริสเอนจิเนียร์คิดว่านี่คือโอกาสที่จะได้ย้ายไปอยู่อเมริกา เอนจิเนียร์บอกคิว่าต่อจากนี้เขาคือลุงของแทม (“ถ้ายังหวังจะได้แก่ตาย / If you want to die in bed”) ทั้งสามออกเดินทางไปยังกรุงเทพทางเรือในฐานะผู้ลี้ภัย (“ชีวิตนี้ยอมพลีได้เพื่อเธอ / I’d give my life for you”)
 
;องก์ 2
ใน[[กรุงแอตแลนตา]] [[รัฐจอร์เจีย]] จอห์นซึ่งตอนนี้ทำงานให้กับองค์กรช่วยเหลือ''บุยดอย'' (มีความหมายว่าเด็กข้างถนน หมายถึงเด็กที่เกิดกับทหารอเมริกันช่วงสงคราม) ให้พบกับพ่อชาวอเมริกัน (“บุยดอย / Bui Doi”) จอห์นได้ข้อมูลมาและบอกคริสว่าคิมยังมีชีวิตอยู่ คริสรู้สึกโล่งใจหลังจากถูกฝันร้ายว่าคิมถูกยิงเสียชีวิตตามหลอกหลอนอยู่นาน จอห์นบอกคริสเรื่องแทมและพยายามให้คริสและเอเลนไปหาคิมและแทมที่กรุงเทพ คริสจึงเล่าเรื่องทุกอย่างทั้งหมดให้เอเลนฟัง และทั้งหมดได้ออกเดินทางมากรุงเทพ ที่กรุงเทพเอนจิเนียร์ทำงานเป็นพนักงานในบาร์แห่งหนึ่งกับคิม (“เซ็งชะมัด / What a waste”) จอห์นตามหาจนพบคิมที่บาร์ เขาบอกเธอว่าคริสอยู่ที่กรุงเทพด้วยเช่นกัน จอห์นพยายามบอกคิมว่าคริสได้แต่งงานแล้วแต่คิมขัดจังหวะบทสนทนาด้วยความดีใจของเธอที่พรั่งพรูออกมา (“วอน / Please”) เธอบอกกับแทมว่าพ่อกลับมาพาทั้งคู่ไปอเมริกาแล้ว จอห์นไม่อาจทำใจที่จะบอกความจริงกับคิมได้แต่สัญญาว่าจะพาคริสมาหาเธอ หลังจากที่จอห์นกลับไปเอนจิเนียร์เข้ามาบอกคิมไม่ให้เชื่อจอห์นและให้เธอไปหาคริสด้วยตัวเธอเองโดยเขาจะไปสืบมาให้ว่าคริสอยู่ที่ไหน คิมตั้งหน้าตั้งตารอเอนจิเนียร์แต่ระหว่างนั้นคิมเห็นวิญญานของถวีมาหลอกหลอน วิญญานของถวีบอกคิมว่าคริสจะหักหลังเธอเหมือนกับที่เขาทำในคืนที่ไซง่อนแตก ทำให้เรื่องราวในคืนนั้นกลับมาตามหลอกหลอนคิม (“ฝันร้ายของคิม (ไซง่อนแตก 1975) / Kim’s nightmare”)
 
ในความทรงจำของเธอนั้น คิมจำได้ว่าทหาร[[เวียดกง]]กำลังรุกคืบเข้ายึดไซง่อน ทั้งเมืองเต็มไปด้วยความโกลาหล คริสถูกเรียกตัวให้ไปสถานทูต ก่อนไปเค้าได้มอบปืนของเขาให้กับคิมและบอกให้คิมเก็บข้าวของ เมื่อคริสเดินทางไปถึงสถานทูต ได้มีคำสั่งจาก[[กรุงวอชิงตัน]] ให้อพยพชาวอเมริกันทั้งหมดออกจากสถานทูตโดยทันที มีคำสั่งให้ปิดประตูสถานทูตและห้ามผู้ใดออกและห้ามผู้ลี้ภัยชาวเวียดนามเข้ามาในสถานทูตอีก คิมตามออกมาหาคริสแต่มีชาวเวียดนามมากมายหน้าสถานทูต คริสตะโกนหาคิมและพยายามจะออกไปด้านนอกเพื่อหาเธอ จอห์นห้ามคริสไว้ ทั้งคู่ขึ้นเครื่องเฮลิคอปเตอร์เที่ยวสุดท้ายออกจากไซง่อน คิมได้แต่เฝ้ามองเฮลิคอปเตอร์บินผ่านไป
 
กรุงเทพ 1978, คิมหยิบเอาชุดแต่งงานของเธอมาสวมอีกครั้ง (“เดือนกับตะวัน (Reprise) / Sun and Moon (Reprise)”) เอนจิเนียร์เข้ามาบอกว่าพบที่อยู่คริสแล้ว คิมฝากแทมไว้กับเอนจิเนียร์และออกไปหาคริส คิมไปที่ห้องของคริสแต่กลับพบเอเลน (“ห้อง 317 / Room 317”) เอเลนบอกคิมว่าเธอคือภรรยาของคริส คิมเสียใจมากและไม่เชื่อเอเลน เอเลนถามคิมว่าคริสเป็นพ่อของแทมจริงหรือไม่ คิมยืนยันว่าคริสเป็นพ่อของแทม คิมบอกเอเลนว่าเธอไม่อยากให้ลูกของเธอมีสภาพชีวิตเช่นนี้และขอร้องให้ทั้งคู่พาแทมกลับอเมริกาไปด้วยแต่เอเลนปฏิเสธ เธอบอกว่าแทมควรที่จะได้อยู่กับแม่ที่แท้จริงของเขา คิมโกรธมากยืนยันว่าคริสต้องเป็นผู้บอกสิ่งนี้กับเธอเองและวิ่งออกไป เอเลนเสียใจกับสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นแต่ยังคงรักคริสไม่เปลี่ยน (“เมื่อเห็นหน้าเธอ / Now that I’ve seen her”) คริสกลับมาพร้อมกับจอห์นหลังจากหาคิมไม่พบ เอเลนบอกทั้งคู่ว่าคิมมาที่นี่และเธอต้องเป็นผู้บอกคิมเองทุกอย่าง เธอบอกคริสว่าคิมต้องการให้ทั้งคู่พาแทมกลับไปด้วย เอเลนถามคริสว่าเขาจะเลือกใครระหว่างเธอกับคิม (“เผชิญความจริง / The confrontation”) คริสยืนยันกับเอเลนว่าเขาจะอยู่กับเธอ และจะให้คิมอยู่กับแทมที่กรุงเทพแต่จะส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้จากอเมริกา จอห์นเตือนคริสว่าคิมจะไม่มีทางยอมให้แทมอยู่ที่กรุงเทพอย่างแน่นอน
 
คิมกลับมาที่ห้องของเธอ คิมโกหกเอนจิเนียร์ว่าพวกเขากำลังจะไปอเมริกา เอนจิเนียร์ตื่นเต้นและจินตนาการถึงชีวิตใหม่ของเขาในอเมริกา (“American Dream”) คริส จอห์นและเอเลน เดินทางมาพบเอนจิเนียร์ที่บาร์ เอนจิเนียร์จึงพาพวกเขามาพบคิม
 
ในห้องของคิม คิมบอกกับแทมว่าพ่อมาหาแล้ว (“บทสรุป / Finale”) เธอบอกแทมต่อว่าเธออาจจะไปกับแทมไม่ได้แต่จะคอยเฝ้าดูอยู่ตลอดเวลา เอนจิเนียร์พาทั้งสามมาที่หน้าห้องของคิม เอนจิเนียร์พาแทมออกไปพบกับพ่อ ขณะเดียวกันคิมหลบเข้าไปหลังผ้าม่านและยิงตัวเอง ทุกคนวิ่งเข้ามาในห้องเพราะเสียงปืนและพบคิมนอนหายใจรวยรินอยู่ คริสเข้าไปอุ้มเธอและถามว่าเธอทำอะไรลงไป คิมขอให้เขากอดเธอเป็นครั้งสุดท้ายและคิมพูดประโยคเดียวกับที่เขาพูดในคืนแรกที่ทั้งสองพบกัน “คืนนั้นพาเราสองมาไกลเพียงใด” ก่อนที่จะสิ้นใจลงในในอ้อมกอดของคริส
 
== ข้อมูลนักแสดง ==