ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กุ้งก้ามกราม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 22:
{{hidden end}}}}
 
'''กุ้งก้ามกราม''' ({{lang-en|Giant malaysian prawn}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Macrobrachium rosenbergii}} ) [[กุ้ง]][[น้ำจืด]][[species|ชนิด]]หนึ่ง อยู่ใน[[วงศ์ (ชีววิทยา)|วงศ์]] [[Palaemonidae]]
'''กุ้งก้ามกราม''' ({{lang-en|Giant malaysian prawn}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Macrobrachium rosenbergii}} ) [[กุ้ง]][[น้ำจืด]][[species|ชนิด]]หนึ่ง อยู่ใน[[วงศ์ (ชีววิทยา)|วงศ์]] [[Palaemonidae]] มีเปลือก[[สีเขียว]]อม[[สีน้ำเงิน|ฟ้า]]หรือ[[ม่วง]] ก้ามยาวมีม่วงเข้ม ตลอดทั้งก้ามมีปุ่มตะปุ่มตะป่ำ โดยธรรมชาติจะอยู่ใน[[แม่น้ำ]] ลำ[[คลอง]] แทบทุกจังหวัดใน[[ภาคกลาง]]และ[[ภาคใต้]] ทั้งในน้ำจืดและ[[น้ำกร่อย]] วางไข่ในน้ำกร่อยที่เค็มจัด อาหารได้แก่ ไส้เดือน ตัวอ่อนของลูกน้ำ ลูกไร ลูกปลาขนาดเล็ก ซากของสัตว์ต่างๆ และในบางโอกาสก็กินพวกเดียวกันเอง พบชุกชุมทำให้จับง่าย โดยเฉพาะใน[[ฤดูหนาว]] ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ทำให้ปริมาณในธรรมชาติลดน้อยลง ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในจังหวัดต่าง ๆ แถบภาคกลางของ[[ประเทศไทย]] เช่น [[สุพรรณบุรี]], [[นครปฐม]], [[ฉะเชิงเทรา]] และต่างประเทศด้วย เช่น ที่ [[สหรัฐอเมริกา]] เป็นต้น
 
'''กุ้งก้ามกราม''' ({{lang-en|Giant malaysian prawn}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Macrobrachium rosenbergii}} ) [[กุ้ง]][[น้ำจืด]][[species|ชนิด]]หนึ่ง อยู่ใน[[วงศ์ (ชีววิทยา)|วงศ์]] [[Palaemonidae]] มีเปลือก[[สีเขียว]]อม[[สีน้ำเงิน|ฟ้า]]หรือ[[ม่วง]] ก้ามยาวมีม่วงเข้ม ตลอดทั้งก้ามมีปุ่มตะปุ่มตะป่ำ โดยธรรมชาติจะอยู่ใน[[แม่น้ำ]] ลำ[[คลอง]] แทบทุกจังหวัดใน[[ภาคกลาง]]และ[[ภาคใต้]]ของประเทศไทย ในต่างประเทศพบได้ในทุกประเภทของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก จนถึงตอนเหนือของออสเตรเลียและฟิลิปปินส์<ref name="Chan">{{cite book |url=http://smdec.com/keyfao/SHRIMPS%20AND%20PRAWNS/data/60404.pdf |chapter=Shrimps and Prawns |author=T. Y. Chan |editor=Kent E. Carpenter & Volker H. Niem |title=The Living Marine Resources of the Western Central Pacific. Volume 2: Cephalopods, Crustaceans, Holothurians and Sharks |series=FAO Species Identification Guide for Fishery Purposes |year=1998 |publisher=[[Food and Agriculture Organization]] |isbn=92-5-104051-6}}</ref> โดยพบทั้งในน้ำจืดและ[[น้ำกร่อย]] วางไข่ในน้ำกร่อยที่เค็มจัด อาหารได้แก่ ไส้เดือน ตัวอ่อนของลูกน้ำ ลูกไร ลูกปลาขนาดเล็ก ซากของสัตว์ต่างๆ และในบางโอกาสก็กินพวกเดียวกันเอง พบชุกชุมทำให้จับง่าย โดยเฉพาะใน[[ฤดูหนาว]] ด้วยสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน ทำให้ปริมาณในธรรมชาติลดน้อยลง ปัจจุบันมีการเพาะเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในจังหวัดต่าง ๆ แถบภาคกลางของ[[ประเทศไทย]] เช่น [[สุพรรณบุรี]], [[นครปฐม]], [[ฉะเชิงเทรา]] และต่างประเทศด้วย เช่น ที่ [[สหรัฐอเมริกา]] เป็นต้น
กุ้งก้ามกราม มีความยาวประมาณ 13 [[เซนติเมตร]] พบใหญ่สุดถึง 1 [[ฟุต]] น้ำหนักราว 1 [[กิโลกรัม]] เป็นกุ้งที่ถูกใช้ปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น [[ต้มยำ]], [[เผา]] หรือ [[ทอด]] เป็นต้น เพราะเนื้อมีมาก เนื้อแน่น มัน อร่อย ทำให้มีราคาที่ขายสูง ปัจจุบัน ยังนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์น้ำสวยงามด้วย
 
กุ้งก้ามกราม มีความยาวประมาณ 13 [[เซนติเมตร]] พบใหญ่สุดถึง 1 [[ฟุต]] น้ำหนักราว 1 [[กิโลกรัม]]<ref name="Chan"/> เป็นกุ้งที่ถูกใช้ปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น [[ต้มยำ]], [[เผา]] หรือ [[ทอด]] เป็นต้น เพราะเนื้อมีมาก เนื้อแน่น มัน อร่อย ทำให้มีราคาที่ขายสูง ปัจจุบัน ยังนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์น้ำสวยงามด้วย
 
กุ้งก้ามกราม มีชื่อเรียกที่ต่างออกไปมากมาย เช่น "กุ้งแม่น้ำ", "กุ้งหลวง" ขณะที่กุ้งตัวเมียที่มีขนาดลำตัวเล็กกว่า เรียก "กุ้งนาง" เป็นต้น<ref>[http://rirs3.royin.go.th/new-search/word-1-search.asp นิยามคำว่า "ก้ามกราม" ตาม[[พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542]]]</ref> <ref>[http://www.thailandshrimp.com/data/agriculture_giant_p0.htm การเพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกราม]</ref>