ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Magnamonkun (คุย | ส่วนร่วม)
Kurino01 (คุย | ส่วนร่วม)
เพิ่มหมวดเรื่องย่อ
บรรทัด 42:
* [[พุทธชาด พงศ์สุชาติ|ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด]] รับบท '''ตุ่ย''' ผู้ช่วยของติวเตอร์เพลง
* [[โซระ อาโออิ]] รับบท '''คายะ''' แฟนสาวชาวญี่ปุ่นของนายช่างยิม
 
== เรื่องย่อ ==
 
เรื่องราวของ เพลง ([ปรีชญา พงษ์ธนานิกร]] ติวเตอร์ภาษาอังกฤษสาว ต้องพบกับเรื่องราวอันสุดแสนจะน่าปวดหัว เมื่อลูกศิษย์ชาวต่างชาติของเธอตัดสินใจทิ้ง “ยิม” ([[ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์]]) แฟนหนุ่มคนไทยไปอเมริกา แต่ด้วยความที่ยิมฟังภาษาอังกฤษไม่ออก เธอจึงอัดวิดีโอบอกเลิกใส่ธัมป์ไดรว์แล้วขอร้องให้เพลงช่วยไปเปิดแปลให้ยิมฟัง
 
เมื่อยิมรู้ว่าถูกบอกเลิกก็โมโหมาก เขาพาลโวยวายใส่เพลงว่าเป็นคนสอนภาษาอังกฤษให้แฟนเขาจนเป็นต้นเหตุให้เธอทิ้งเขาไป ต่อมาไม่นาน ยิมตัดสินใจไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษกับเพลง โดยหวังจะตามไปง้อแฟนที่อเมริกา เพลงไม่อยากรับสอน แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจยอม
 
ทั้งคู่ใช้ร้านกาแฟเป็นที่เรียนหนังสือ แต่ด้วยความที่ยิมเป็นเพียงช่างเทคนิกในโรงงาน ระดับความรู้ภาษาอังกฤษของยิมจึงต่ำมาก เพลงจึงต้องพยายามงัดสารพัดวิธีออกมาสอนยิมไม่ว่าจะเป็นการฝึกออกเสียง การใช้เหตุการณ์สมมุติหรือแม้แต่การให้อ่านหนังสือนิทาน การสอนเป็นไปอย่างยากลำบาก กระนั้นยิมก็ยังคงพยายามฝึกตัวเองอย่างไม่ท้อถอย จนเพลงเริ่มเห็นความตั้งใจในตัวเขา
 
ในขณะเดียวกัน เพลงก็ไปตกหลุมรักกับ “คุณพฤกษ์” ([[ภพธร สุนทรญาณกิ]]จ) ลูกศิษย์ คอร์สภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ หนุ่มหล่อ ชาติตระกูลดี ผู้ซึ่งเป็นดั่งชายในฝันของผู้หญิงทุกคน ด้วยความเป็นคนโรแมนติกคุณพฤกษ์มักจะขยันหาอะไรมาทำเซอร์ไพรส์เพลงอยู่บ่อยๆ จนบางทีเพลงก็แอบขำในความพยายามของคุณพฤกษ์ จนในที่สุดทั้งสองก็ตกลงเป็นแฟนกัน
 
ทว่าระหว่างที่การเรียนการสอนของเพลงและยิมค่อยๆผ่านไปในแต่ละวัน ทั้งคู่ต่างก็ค่อยๆได้เรียนรู้นิสัยและตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน จนทำให้คนซึ่งเคยดูเหมือนเกลียดกันในตอนแรก กลับค่อยๆพอกพูนความรู้สึกดีๆต่อกันขึ้นเรื่อยๆโดยไม่ทันรู้ตัว แล้วความสัมพันธ์ระหว่างติวเตอร์และลูกศิษย์คู่นี้จะลงเอยเช่นไร?<ref>[http://eazyfm.becteroradio.com/sketch-photo/2914/ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้-หนังฮาส่งท้ายปี-2557 ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ หนังฮาส่งท้ายปี 2557]</ref>
 
== การออกฉายและรายได้ ==
''ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้'' ออกฉายรอบสื่อมวลชนในวันเดียวกับวันที่ภาพยนตร์เข้าฉายวันแรก คือวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ณ พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน โดยหลังจากที่ภาพยนตร์ออกฉายได้ไม่กี่ชั่วโมง ด้วยกระแสตอบรับที่สูง ทำให้ทุกโรงภาพยนตร์ต้องปรับรอบฉายใหม่หมด รวมถึงลดรอบฉายของภาพยนตร์ต่างประเทศที่เข้าฉายในวันเดียวกันอีกสามเรื่องลง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นม้ามืดที่มาเหนือกว่า พี่มาก..พระโขนง พอสมควร ด้วยการหยิบมุขตลกเบสิกพื้นฐานของคนไทยมาเล่น รวมถึงเป็นภาพยนตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อรับกระแสการเปิดเขตเศรษฐกิจอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการจนมาถึงวันฉายจริง
 
โดยรายได้ ณ วันแรกที่ออกฉาย ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ สามารถทำรายได้ได้สูงถึง 29.17 ล้านบาท โดยถือว่าเป็นสถิติใหม่ของภาพยนตร์ที่เปิดตัวที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งของจีทีเอช แทนที่ภาพยนตร์เรื่อง [[พี่มาก..พระโขนง]] เดิม แต่อย่างไรก็ตามสถิตินี้จะไม่ถูกนับรวมกับสถิติรายได้เมื่อเปิดตัวในวันที่ไม่ใช่วันหยุดที่เดิมพี่มาก..พระโขนงได้ทำลายสถิติไว้ เนื่องจากวันที่ภาพยนตร์ออกฉายนั้นตรงกับวันรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นวันหยุด แต่อย่างไรก็ตามจากกระแสแบบปากต่อปาก ทำให้ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ กลายเป็นภาพยนตร์ที่ติดอันดับหนึ่งของ บอกซ์ออฟฟิสประเทศไทยได้อย่างไม่ยากเย็น ด้วยรอบฉายที่มากที่สุดถึง 55 รอบฉายต่อวัน และเมื่อสิ้นสุดอาทิตย์แรกหลังภาพยนตร์ออกฉาย สามารถทำรายได้รวมเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงเชียงใหม่ได้สูงถึง 171.19 ล้านบาท ( 8 วัน ) จึงทำให้ ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ กลายเป็นภาพยนตร์ที่สามารถทำรายได้แซงรายได้ทั้งหมดของ ATM เออรัก เออเร่อ ( 152.5 ล้านบาท ) และยังทำให้ภาพยนตร์ไอฟายฯ กลายเป็นภาพยนตร์ที่สามารถทำรายได้สูงู่ในอันดับ 2 ของรายได้สูงสุดของ จีทีเอช ต่อจากอันดับ 1 คือภาพยนตร์เรื่อง พี่มาก..พระโขนง ( 598.96 ล้านบาท ) ซึ่งก็ยังเป็นหนึ่งใน[[รายชื่อภาพยนตร์ไทยที่ทำเงินสูงสุดในประเทศไทย|ภาพยนตร์ที่ทำได้รายสูงสุดของประเทศไทย]]
 
เมื่อสิ้นสุดอาทิตย์ที่สองภาพยนตร์ไอฟายฯ ยังคงติดอันดับหนึ่งบอกส์ออฟฟิศประเทศไทย ด้วยรายได้รวมเฉพาะวันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์ที่ 53.42 ล้านบาท และรวมรายได้ทั้งหมดตลอดโปรแกรมฉายที่ 224.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำรายได้แซงภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทั้ง 4 ภาค และกลายเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับที่สาม ถัดจากพี่มาก..พระโขนง และสุริโยไท