ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชอว์น ไมเคิลส์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 45:
พอมาถึงยุคของกลุ่ม Kliq ซึ่งมีสมาชิกทั้ง 5 คนอันได้แก่ ชอว์น, [[ทริปเปิล เอช]], เควิน แนช, สก็อตต์ ฮอลล์ และ [[เอกซ์-แพค]] เป็นยุคที่รุ่งเรืองยุคหนึ่ง แต่ก็ไม่ถือว่าโด่งดังอะไรมากเพราะตอนนั้นมีการแข่งขันกันเยอะ ระหว่าง WWF และ WCW ซึ่งในยุคนี้มีเหตุการณ์ที่ว่า “The MSG Incident” ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่สมาชิกทั้ง 5 คนของกลุ่ม Kliq ขึ้นมากอดกันบนเวทีเพื่อบอกลาซึ่งกันและกันเพราะ 3 ใน 5 ซึ่งได้แก่ เควิน แนช, สก็อตต์ ฮอลล์ และ เอกซ์-แพค จะย้ายไปปล้ำให้แก่ WCW แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็เข้าใจซึ่งกันและกันได้ดี เมื่อต่างฝ่ายต่างแยกย้าย ชอว์นก็กลับมาสู่สังเวียนของเขาโดยชอว์นครองแชมป์ไว้ได้แรมปี แต่ก็ต้องมาเสียแชมป์ให้กับบอดีการ์ดจอมกะล่อนอย่าง [[ซิด ยูดี้|ไซโค ซิด]]<ref>{{Harv|Michaels|Feigenbaum|2005|p=234}}</ref> แต่ก็ไม่แย่เท่าไหร่เมื่อศึกรอยัลรัมเบิลปีต่อมา ชอว์นก็สามารถชิงแชมป์กลับคืนมาได้<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/inside/titlehistory/wwechampionship/304454115|title=HBK's second WWE title reign|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]|accessdate=2009-08-25}}</ref>
 
ในตอนพิเศษของรอว์ ในตอนนั้นชื่อว่า Thursday Raw Thursday ชอว์นได้สละแชมป์ WWF เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า<ref>{{Harv|Michaels|Feigenbaum|2005|pp=239–240}}</ref> แต่หลังจากที่ ดร.เจมส์ แอนดริวส์ ตรวจร่างกายให้ ไม่กี่เดือนต่อมาเขาก็กลับมาอีกครั้งโดยมาจับไม้จับพลูกับ [[สตีฟ ออสติน|สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน]] แบบไม่ค่อยเต็มใจ<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/inside/titlehistory/worldtagteam/304454132122112|title=Stone Cold & Shawn Michaels first World Tag Team title reign|accessdate=2007-07-12|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]}}</ref> แต่ถึงกระนั้นพวกเขาทั้งสองก็สามารถได้ครองแชมป์แทคทีม WWF ร่วมกันจากการเอาชนะบริติสบูลด็อก และ [[โอเว่นเวน ฮาร์ต]] ต่อมาในศึก ซัมเมอร์สแลม ปี 1997 ชอว์นก็ได้เป็นกรรมการพิเศษในคู่ชิงแชมป์ WWF ระหว่าง เบรต ฮาร์ต กับ [[ดิอันเดอร์เทเกอร์]]<ref name="takerSS">{{Harv|Michaels|Feigenbaum|2005|pp=247–249}}</ref> แต่ก็ต้องจบเห่เพราะชอว์นดันเอาเก้าอี้ไปฟาดโดนอันเดอร์เทเกอร์แบบไม่ได้ตั้งใจ ทำให้เบรตชนะไป ในศึกรอว์วันต่อมาเขายอมรับว่ามันความผิดพลาดและพร้อมจะตกลงกับอันเดอร์เทเกอร์ได้ทุกเมื่อ ในศึก WWF วันไนท์สแตนด์ ที่จัดใน เบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ชอว์นสามารถคว้าแชมป์ยุโรป WWF มาครองโดยการเอาชนะบริติสบูลด็อก<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/inside/titlehistory/euro/358418|title=HBK's first European title reign|accessdate=2007-07-11}}</ref><ref name=pwi99>{{cite news|title=2007 Wrestling Almanac & Book of Facts|work=Wrestling’s Historical Cards|publisher=Kappa Publishing|year=2007|pages=99–100}}</ref> และเขาก็ได้มาเป็นแชมป์แกรนด์สแลมคนแรกของสมาคม และสิ่งที่เรียกว่า “อย่างแรก” ก็ยังมีแมตช์ที่เรียกว่า เฮลอินเอเซล ที่เขาประเดิมครั้งแรกกับอันเดอร์เทเกอร์ สำหรับแมตท์นี้ก็เจ็บตัวไม่น้อยที่ต้องตกจากรงขนาด 15 ฟุต หรือ 5 เมตร ใส่โต๊ะ คงเป็นอะไรที่น่าจดจำไปอีกนาน<ref name="HIAC1">{{Harv|Michaels|Feigenbaum|2005|pp=257–259}}</ref>
 
ต่อมาก็เป็นยุคสมัยแห่งความกวนโอ๊ยของชอว์นอย่างเต็มขั้นเมื่อตัวเขาร่วมกับ ฮันเตอร์ เฮิร์ต เฮมส์ลีย์ (ทริปเปิล เอช), [[ไชนา]], ริค รูด ตั้งกลุ่มขึ้นมาซึ่งมีชื่อว่า [[ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์]] (ดีเอกซ์)<ref>{{Harv|Michaels|Feigenbaum|2005|p=252}}</ref> เป็นจุดบ่งบอกของยุคแอตติจูด<ref>{{Harv|Michaels|Feigenbaum|2005|p=255}}</ref> สำหรับกลุ่มดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์ ก็หวังชิงดีชิงเด่นกับแก๊งเจ้าถิ่นที่อยู่มาก่อนอย่างฮาร์ตฟาว์นเดชั่น<ref>{{Harv|Michaels|Feigenbaum|2005|pp=274–275}}</ref> จุดจบของสงครามไปหยุดที่ [[เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (1997)]] ที่ชอว์นสามารถเอาชนะเบรต ฮาร์ตได้ โดยนี่เป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า “[[มอนทรีออลสครูว์จ็อบ]]” ทำให้ชอว์นครองแชมป์ถึงสองเส้นทั้งแชมป์ WWF และ แชมป์ยุโรป<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/inside/titlehistory/wwechampionship/30445415|title=HBK's third WWE title reign|accessdate=2007-07-13|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]}}</ref> แต่ไม่นานเขาก็เสียแชมป์ยุโปให้กับฮันเตอร์ เฮิร์ต เฮมส์ลีย์<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/inside/titlehistory/euro/|title=Title History: European|accessdate=2008-07-16|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]}}</ref>
บรรทัด 63:
ยกที่ 3 สู้กันแบบ ไต่บันได ซึ่งผลที่ออกมา ยกสุดท้าย ทริปเปิล เอช เป็นฝ่ายเอาชนะ และได้แชมป์โลกเฮฟวี่เวทไปครองอีกครั้ง ด้วยการทำให้ชอว์นตกลงมาจากบันไดและลงบนโต๊ะ
[[ไฟล์:Jerichomichaels.jpg|thumb|left|150px|ชอว์นในช่วงที่เปิดศกกับ [[คริส เจอริโค]]]]
ในปี 2003 ชอว์นได้เปิดศึกกับ [[คริส เจอริโค]]<ref>{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/news/1048567703.shtml|title=Full WWE Raw Results – 3/24/03|last=Moore|first=Wesley|date=2003-03-24| publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-09-15}}</ref> ในช่วงต้นปี และทั้งคู่ได้เจอกัน ในศึก [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 19]] ซึ่งผลที่ออกมาชอว์นสามารถเอาชนะไปได้ในแมตช์สุดมันส์<ref name="WM19">{{cite web|url=http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/2003/03/31/55003.html|title=WWE shines at WrestleMania XIX|first=John|last=Powell|accessdate=2008-06-13|date=2003-03-31|publisher=[[Canadian Online Explorer]]|work=Slam! Sports}}</ref> หลังจากนั้นก็ปล้ำไปเรื่อยๆตามสไตล์และมีโอกาสได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวทอีกครั้ง ในศึก ซัมเมอร์สแลม 2003 ในแมตช์การปล้ำแบบ อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ ซึ่งชอว์นเคยเอาชนะได้ในครั้งแรก แต่ครั้งนี้ชอว์นพลาดถูก [[บิลล์ โกลด์เบิร์ก|โกลด์เบิร์ก]] ใช้ท่า สเปียร์ + แจ็คแฮมเมอร์ ต่อเนื่อง กดนับ 3 ชวดการเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 5 อย่างน่าเสียดาย และในครั้งนั้น ทริปเปิล เอช ก็เป็นฝ่ายป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ แต่หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน ชอว์นถูกสั่งให้มาปล้ำกับเด็กเมื่อวานซืนอย่าง [[แรนดี ออร์ตัน]] ที่ช่วงนั้นยังอยู่ในกลุ่ม [[เอฟโวลูชั่น (มวยปล้ำอาชีพ)|เอฟโวลูชั่น]] ซึ่ง ทริปเปิล เอช ก่อตั้งขึ้นมา ถูกสั่งโดยสตีฟ ออสติน ซึ่งในช่วงนั้นเป็นผู้จัดการทั่วไปของศึกรอว์ ร่วมกับ เอริค บิสชอฟฟ์ โดยให้ชอว์นเจอกับ แรนดี ออร์ตัน ในศึก [[ดับเบิลยูดับเบิลยูอี อันฟอร์กิฟเว่น|อันฟอร์กิฟเว่น]] 2003 ซึ่งผลที่ออกมา คือ ออร์ตันสามารถเอาชนะชอว์นไปได้จากการช่วยเหลือของริก แฟลร์ โดยการลอบส่งสนับมือให้กับออร์ตัน และออร์ตันใช้สนับมือชกใส่ชอว์นกดนับ 3 ไป
 
ในช่วงปลายปี 2003 สตีฟ ออสติน ประกอบไปด้วย 1. บูเกอร์ ที 2. [[ดี-วอน ดัดลีย์]] 3. [[มาร์ค โลโมนาโก้|บับบา เรย์ ดัดลีย์]] 4. [[ร็อบ แวน แดม]] 5. ชอว์น ไมเคิลส์ ได้ตั้งทีมของตนเองขึ้นมาเพื่อสู้กับทีมของ เอริค บิสชอฟฟ์ ประกอบไปด้วย 1. คริส เจอริโค 2. [[คริสเตียน (นักมวยปล้ำ)|คริสเตียน]] 3. [[มาร์ก เฮนรี]] 4. [[สก็อตต์ สไตเนอร์]] 5. แรนดี ออร์ตัน ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ 2003 โดยมีข้อแม้ว่า หากทีมของออสติน แพ้ต้องลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปร่วมของศึกรอว์ และต้องออกจากวงการมวยปล้ำด้วย ซึ่งในทีมของออสติน มีชอว์นร่วมอยู่ด้วย แต่ชอว์นไม่สามารถช่วยให้ทีมของออสติน นะไปได้ ซึ่งผลที่ออกมา คือ ทีมของบิสชอฟฟ์ สามารถเอาชนะไปได้จากการที่ชอว์นถูก [[เดฟ บาทิสตา|บาทิสตา]] มาเล่นงานด้วยท่า Sitdown Powerbomb ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Batista Bomb และออร์ตันฉวยโอกาสเข้ามากดชอว์นนับ 3 ไป ส่งผลให้ออสตินต้องลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปร่วมของศึกรอว์ และต้องออกจากวงการมวยปล้ำ และอีกเพียง 3 สัปดาห์ ต่อมาชอว์นได้ท้า บาทิสตา เจอกันในศึก [[อาร์มาเกดดอน]] 2003 ซึ่ง ในศึกใหญ่ครั้งนี้ชอว์นสามารถล้างแค้น บาทิสตา ได้สำเร็จจากการใส่ท่า Sweet Chin Music ใส่ บาทิสตา กดนับ 3 ไปได้ในแมตช์สุดมันส์อีกเช่นกัน
 
ในช่วงต้นปี 2004 ชอว์นมีโอกาสได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท อีกครั้งกับ ทริปเปิล เอช ในศึก รอยัลรัมเบิล 2004 ในแมตช์การปล้ำแบบ Last Man Standing Match กติกาคือ เล่นงานคู่ต่อสู้จนถูกกรรมการนับ 10 ใครทำได้คนนั้นคือผู้ชนะ ชอว์นกับ ทริปเปิล เอช ผลัดกันเล่นงานจนทั้งคู่หน้าแตกยับเยินทั้ง 2 ฝ่าย แต่ผลที่ออกมาคือ ชอว์นและ ทริปเปิล เอช ถูกกรรมการนับ 10 พร้อมกัน ลุกไม่ขึ้นทั้งคู่ส่งผลให้ ทริปเปิล เอช สามารถป้องกันแชมป์ไปได้แบบส้มหล่น และชอว์นพลาดโอกาสเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 5 อย่างน่าเสียดายเช่นกัน แต่โอกาสอีกครั้งก็มาถึง เมื่อชอว์นได้ออกมาทำร้าย [[คริส เบนวา]] ผู้ชนะเลิศ ในศึก รอยัลรัมเบิล 2004 และมีสิทธิ์ท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ ทริปเปิล เอช ได้ ในระหว่างการเซ็นสัญญาการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ซึ่งชอว์นเซ็นสัญญาการชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท แทนเบนวา ทำให้ทางด้านของ สตีฟ ออสติน ต้องออกมาจัดแมตช์การปล้ำ 3 เส้าขึ้นระหว่าง ทริปเปิล เอช (แชมป์) ปะทะ เบนวา ปะทะ ชอว์น ในศึก [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20]] แทน และผลที่ออกมาคือ เบนวาสามารถคว้าแชมป์โลกเฮฟวี่เวทมาครองได้สำเร็จ ส่งผลให้ตัวของเบนวาเป็นแชมป์โลกได้เป็นสมัยแรกจากการที่เบนวาใส่ท่า Crippler Crossface เล่นงาน ทริปเปิล เอช จนต้องตบพื้นยอมแพ้และเสียแชมป์ไป<ref name=pwi115>{{cite news|title=2007 Wrestling Almanac & Book of Dacts|work=Wrestling’s Historical Cards|publisher=Kappa Publishing|year=2007|page=115}}</ref>
 
ในช่วงนั้นทั้ง 3 คนยังคงมาเจอกันอีกครั้ง ในศึก [[แบคแลช]] 2004 โดยเจอกันในรูปแบบเดิมเหมือน ในศึก เรสเซิลเมเนีย และผลที่ออกมาคือ เบนวาสามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จจากการที่เบนวา เล่นงาน ชอว์นด้วยท่า SharpShooter จนชอว์นต้องตบพื้นยอมแพ้ไป ถึงจะได้แชมป์โลกคนใหม่ แต่ความแค้นระหว่าง ชอว์นกับ ทริปเปิล เอช ยังไม่จบ ทั้งคู่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ในแมตช์ที่ได้ชื่อว่าโหดร้ายที่สุดใน WWE นั่นก็ คือ แมตช์การปล้ำแบบ [[ดับเบิลยูดับเบิลยูอี เฮลล์อินเอเซลล์|เฮลล์อินเอเซลล์]] ในศึก [[แบดบลัด]] 2004 และทั้งคู่สามารถสู้กันได้อย่างสูสี แต่ผลที่ออกมาคือ ทริปเปิล เอช ใช้ท่า Pedigree เล่นงานชอว์นกดนับ 3 ทริปเปิล เอช เป็นผู้ชนะในแมตช์สุดโหดนั้น และส่งผลให้ชอว์นต้องพักการปล้ำอีกประมาณ 3 เดือน และเมื่อชอว์นกลับมาอีกครั้งก็ถูก [[เคน (นักมวยปล้ำ)|เคน]] เล่นงานตลอดช่วง 1 เดือน ชอว์นขอท้าเจอกับเคนในศึก อันฟอร์กิฟเว่น 2004 ในรูปแบบแมตช์การปล้ำแบบไม่มีการจับแพ้ฟาล์ว (No Disqualification Match) กล่าว คือ ในระหว่างแมตช์นั้น สามารถเล่นงานคู่ต่อสู้ด้วยอาวุธได้ทุกรูปแบบ และชอว์นสามารถล้างแค้นและเอาชนะเคนไปได้ สร้างความปลาบปลื้มให้กับแฟนๆ มวยปล้ำอีกครั้ง ต่อมาในแมตช์ที่ชอว์นจับคู่กับ ฮัลค์ โฮแกน เจอกับ [[คาร์ลี โคลอน|คาร์ลีโต]] และ [[เคิร์ต แองเกิล]] หลังจากที่ชอว์นและโฮแกนสามารถเอาชนะคาร์ลิโต้และแองเกิลมาได้ หลังแมตช์ชอว์นได้ใส่ Sweet Chin Music เล่นงานใส่โฮแกน เนื่องจากไม่พอใจที่โฮแกนเป็นคนจับ คาร์ลีโต กดนับ 3<ref name="july4">{{cite web|first=Hunter| last=Golden|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1120520901.shtml|title=WWE Raw Results – July 4, 2005|accessdate=2008-07-17|date=2005-07-04|publisher=WrestleView.com}}</ref> จากนั้นชอว์นได้ท้าโฮแกน เจอกัน ในซัมเมอร์สแลม 2005 สุดท้ายโฮแกนก็เป็นฝ่ายชนะไป<ref>{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1121140355.shtml|title=Raw Results – July 11, 2005|last=Golden|first=Hunter|date=2005-07-11|publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-08-04}}</ref><ref>{{cite web|first=Hunter|last=Golden|url= http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1121745844.shtml|title=WWE Raw Results – July 18, 2005|accessdate=2008-07-17|date= 2005-07-18|publisher=WrestleView.com}}</ref>
 
ในแมตช์ที่ชอว์นจับคู่กับฮัลค์ โฮแกน เจอกับ [[คาร์ลิโต้]] และ [[เคิร์ต แองเกิล]] หลังจากที่ชอว์นและโฮแกนสามารถเอาชนะคาร์ลิโต้และแองเกิลมาได้ หลังแมตช์ชอว์นได้ใส่ Sweet Chin Music เล่นงานใส่โฮแกน เนื่องจากไม่พอใจที่โฮแกนเป็นคนจับ คาร์ลิโต้ กดนับ 3<ref name="july4">{{cite web|first=Hunter| last=Golden|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1120520901.shtml|title=WWE Raw Results – July 4, 2005|accessdate=2008-07-17|date=2005-07-04|publisher=WrestleView.com}}</ref> จากนั้นชอว์นได้ท้าโฮแกน เจอกัน ในศึก ซัมเมอร์สแลม 2005 สุดท้ายโฮแกนก็เป็นฝ่ายชนะไป<ref>{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1121140355.shtml|title=Raw Results – July 11, 2005|last=Golden|first=Hunter|date=2005-07-11|publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-08-04}}</ref><ref>{{cite web|first=Hunter|last=Golden|url= http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2005/1121745844.shtml|title=WWE Raw Results – July 18, 2005|accessdate=2008-07-17|date= 2005-07-18|publisher=WrestleView.com}}</ref>
[[ไฟล์:D-Generation X.jpg|thumb|200px|[[ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์]] (ชอว์นและ [[ทริปเปิล เอช]])]]
ในศึกรอว์ ปี 2006 ชอว์นได้ออกมาบนเวที แล้วบอกกับ วินซ์ แม็กแมน ว่า ถึงเขาจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน มีฐานะร่ำรวย แต่สิ่งหนึ่งที่วินซ์ทำผิดอย่างร้ายแรงก็ คือ การปล้นชัยชนะของ เบรต ฮาร์ต จนทำให้เบรตต้องลาออก<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/shows/raw/archive/01022006/|title=The Chamber awaits|accessdate=2008-07-16|date=2006-01-02|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]}}</ref> หลังจากนั้นเป็นต้นมา วินซ์ก็มีเรื่องกับชอว์นอยู่เรื่อยมา ตั้งแต่ในศึก [[รอยัลรัมเบิล (2006)]] ที่วินซ์และ [[เชน แมคแม็กแมน]] มาก่อกวนชอว์นจนทำให้ตกเวที หมดสิทธิ์การเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ในศึก [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22]]<ref>{{cite web|url=http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/2006/01/30/1418142.html|title=Mysterio claims Rumble; Cena reigns again|last=Plummer|first=Dale|coauthors=Nick Tylwalk|date=2006-01-30|work=Slam! Sports|publisher=[[Canadian Online Explorer]]|accessdate=2008-08-06}}</ref> ชอว์นแค้นใจเป็นอย่างมาก และก่อนจะถึงศึกเรสเซิลเมเนีย นั้น วินซ์ได้ออกมาท้าชอว์นให้เจอกับตนในแมตช์ No Hold Barred Match (การปล้ำแบบไม่มีกฎ กติกา) และในศึก เรสเซิลเมเนีย ชอว์นก็สามารถเอาชนะวินซ์ ถึงแม้ว่าจะมีลูกน้องของวินซ์ออกมาช่วย แต่ชอว์นก็สามารถจัดการแล้วเอาชนะมาได้ท่ามกลางความสะใจของแฟนๆ มวยปล้ำ<ref name="WM22">{{cite video|date=2006|title=WrestleMania 22|medium=DVD|publisher=[[WWE Home Video]]}}</ref>
 
วินซ์ได้มีเรื่องกับ ทริปเปิล เอช จนต้องจัดแมตช์ให้ ทริปเปิล เอช เจอกับกลุ่ม [[สปีริต สค๊วดสค๊วอด]] ในแมตช์การปล้ำแฮนดิแคป แบบ 5 รุม 1 ชอว์นก็ออกมาช่วย ทริปเปิล เอช แล้ววันนั้นก็เป็นการกลับมารวมตัวกันอีกครั้งของกลุ่ม ดี-เจเนอเรชันเอ็กซ์<ref name="June12">{{cite web|url=http://www.wrestleview.com/results/raw/raw2006/1150169113.shtml|title=Raw Results – 6/12/06 – Penn State University (DX returns & more)|last=Golden|first=Hunter|date=2006-06-12|publisher=WrestleView.com|accessdate=2008-08-06}}</ref> ในศึก อันฟอร์กิฟเว่น (2006) ดี-เอกซ์ได้เจอกับ วินซ์, เชน แม็กแมน และ บิ๊กโชว์ ในแมตช์การปล้ำ 3 รุม 2 ในกรงเหล็กเฮลอินเอเซล (3 On 2 Hell In A Cell Handicap Match) สุดท้าย ดี-เอกซ์ ก็เอาชนะไปได้<ref>{{cite web|url=http://slam.canoe.ca/Slam/Wrestling/PPVReports/2006/09/18/1857195.html|title=Unforgiven just averages out|last=Elliott|first=Brian|date=2006-09-18|work=Slam! Sports|publisher=[[Canadian Online Explorer]]|accessdate=2008-08-06}}</ref> ต่อมา ดี-เอกซ์ไปเปิดศึกกับกลุ่ม [[เรด-อาร์เคโอ]] ([[อดัม โคปแลนด์|เอดจ์]] และ แรนดี ออร์ตัน) ซึ่งผลัดแพ้ผลัดชนะกันหลายรอบ จนจบด้วยการที่ ทริปเปิล เอช เจ็บเข่าต้องพักไป 7 เดือน<ref>{{cite web|first=Noah|last=Starr|url=http://www.wwe.com/shows/raw/archive/01082007/|title=Umaga spikes back|accessdate=2008-07-16|date=2007-01-08|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]}}</ref>
[[ไฟล์:Michaels-Cena.jpg|thumb|left|150px|ชอว์นในช่วงที่เปิดศึกกับ [[จอห์น ซีนา]]]]
ในปี 2007 ชอว์นได้ร่วมลงแข่งในศึก [[รอยัลรัมเบิล (2007)]] โดยออกมาเป็นคนที่ 23 และได้เป็น 2 คนสุดท้ายที่จะชิงว่าใครจะได้เป็นผู้ท้าชิงแชมป์ในศึก [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 23]] โดยคู่ต่อสู้อีกคน คือ ดิอันเดอร์เทเกอร์ แต่ชอว์นก็ไม่สามารถเอาชนะอันเดอร์เทเกอร์ได้ จึงต้องเสียสิทธิ์ในการท้าชิงแชมป์ครั้งนั้นไป โดยชอว์นได้เป็นรองชนะเลิศรอยัลรัมเบิล และคาดว่าตนเองเป็นรองชนะเลิศน่าจะมีสิทธิ์ในการท้าชิงแชมป์ WWE เพราะ อันเดอร์เทเกอร์ไปเลือกชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในตอนนั้นแชมป์ WWE ก็คือ [[จอห์น ซีนา]] และซีนาก็รับคำท้าและเจอกับชอว์น ในศึก เรสเซิลเมเนีย สุดท้ายชอว์นก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ WWE มาครอบครองได้ เพราะถูกซีนาใช้ท่า STFU (หรือ STF ในปัจจุบัน) จนทำให้ชอว์นตบพื้นยอมแพ้ไป<ref>{{cite web|first=Louie|last=Dee|title=Detroit, Champ City|date=2007-04-01|url=http://www.wwe.com/shows/wrestlemania/history/wrestlemania23/matches/39161841/results/|publisher=[[World Wrestling Entertainment]]|accessdate=2008-07-16}}</ref>
เส้น 155 ⟶ 153:
[[ไฟล์:HBK World Tag Team Champion.jpg|thumb|180px|ชอว์นกับ [[แชมป์โลกแทคทีม]]]]
* '''American Wrestling Association'''
** AWA World Tag Team Championship (2 สมัย) – คู่พร้อมกับ Marty Jannetty
 
* '''Central States Wrestling'''
** NWA Central States Tag Team Championship (1 สมัย) – คู่พร้อมกับ Marty Jannetty
 
* '''Continental Wrestling Association'''
** AWA Southern Tag Team Championship (2 สมัย) – คู่พร้อมกับ Marty Jannetty
 
* '''Pro Wrestling Illustrated'''
เส้น 169 ⟶ 167:
** PWI Match of the Year (1995) <small>vs. Diesel at WrestleMania XI</small>
** PWI Match of the Year (1996) <small>vs. เบรต ฮาร์ต in an Iron Man match at WrestleMania XII</small>
** PWI Match of the Year (2004)<ref name="orlando">{{cite web|first=Chris|last=Olds|url=http://blogs.orlandosentinel.com/sports_sportsstuff/2008/03/24-days-of-w-17.html|title=24 days of WrestleMania Memorabilia Countdown: No. 7, Shawn Michaels| accessdate=2008-08-06|date=2008-03-24|work=[[Orlando Sentinel]]|archiveurl=http://www.webcitation.org/5k298sRjv|archivedate=2009-09-24}}</ref> <small>vs. [[คริส เบนวา]] และ ทริปเปิล เอช atใน [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20]]</small>
** PWI Match of the Year (2005)<ref name="orlando"/> <small>vs. [[เคิร์ต แองเกิล]] at [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 21]]</small>
** PWI Match of the Year (2006)<ref name="orlando"/> <small>vs. [[วินซ์ แม็กแมเฮินแมน]] in a No Holds Barred match at [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 22]]</small>
** PWI Match of the Year (2007)<ref name="orlando"/> <small>vs. จอห์น ซีนา on Raw on April 23</small>
** PWI Match of the Year (2008)<ref name="orlando"/> <small>vs. ริก แฟลร์ at WrestleMania XXIV</small>
เส้น 188 ⟶ 186:
** TWA Heavyweight Championship (1 สมัย)
 
* '''[[WWE|World Wrestling Federation/World Wrestling Entertainment/WWE]]'''
** WWF Championship (3 สมัย)
** World Heavyweight Championship (1 สมัย)
เส้น 196 ⟶ 194:
** WWF/E World Tag Team Championship (5 สมัย)<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/inside/titlehistory/worldtagteam/|title=WWE: Inside WWE > Title History > World Tag Team|accessdate=2010-04-04|publisher=World Wrestling Entertainment}}</ref> – พร้อมกับ [[เควิน แนช|ดีเซล]] (2), [[สโตน โคลด์ สตีฟ ออสติน]] (1), [[จอห์น ซีนา]] (1) และ ทริปเปิล เอช (1)
** ผู้ชนะใน[[รอยัลรัมเบิล]] (1995, 1996)
** [[ทริปเปิลคราวน์แชมเปียนชิป|แชมป์ทริปเปิลคราวน์ คนที่ 4]]
** [[แกรนด์ สแลม แชมเปี้ยนชิพ|แชมป์แกรนด์สแลมคนแรก]]
** [[หอเกียรติยศดับเบิลยูดับเบิลยูอี]] (ประจำปี 2011)
** WWE Hall of Fame (Class of 2011)
** [[สแลมมีอะวอร์ด]] for Best Slammin' Jammin' Entrance (1996)
** สแลมมีอะวอร์ด for Best Threads (1996)
เส้น 206 ⟶ 204:
** สแลมมีอะวอร์ด for Leader of the New Generation (1996)
** สแลมมีอะวอร์ด for Best Finisher (1997)
** สแลมมีอะวอร์ด for US West Match of the Year (1997) <small>vs. [[เบรต ฮาร์ต]] in anในแมตช์ [[Iron Man match]] atใน [[WrestleMania XII]]</small>
** สแลมมีอะวอร์ด for Match of the Year (2008) <small>vs. [[ริก แฟลร์]] ใน [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24]]</small>
** สแลมมีอะวอร์ด for Match of the year (2009) <small>vs. [[ดิอันเดอร์เทเกอร์]] ใน [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25]]</small>
เส้น 222 ⟶ 220:
** Most Charismatic (1995, 1996)<ref name=wonawards2009 />
** Tag Team of the Year (1989) <small>คู่กับ Marty Jannetty ในนาม The Rockers</small><ref name=wonawards2009 />
** Worst Feud of the Year (2006) <small>คู่กับ ทริปเปิล เอช ปะทะvs. [[เชน แมคแมน]] และ วินซ์ แม็กแมเฮิน</small><ref name=wonawards2009 />
** Wrestling Observer Newsletter Hall of Fame (ประจำปี 2003)<ref>{{cite web|url=http://www.pwi-online.com/pages/hallofame.html|title=Wrestling Observer Hall of Fame|accessdate=2010-02-02|publisher=[[Pro Wrestling Illustrated]]}}</ref>