ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทาทลิน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
หน้าใหม่: '''วลาดิมีร์ ทาทลิน''' ({{lang-ru|Влади́мир Евгра́фович Та́тлин}}) ({{lang-en|Vladimir Tatlin}}) {{กล่...
ป้ายระบุ: เพิ่มยูอาร์แอล wikipedia.org
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:50, 29 พฤศจิกายน 2557

วลาดิมีร์ ทาทลิน (รัสเซีย: Влади́мир Евгра́фович Та́тлин) (อังกฤษ: Vladimir Tatlin)

วลาดิมีร์ ทาทลิน
วลาดิมีร์ ทาทลิน 1885
วลาดิมีร์ ทาทลิน 1885
เกิดปี 1885
มอสโก สาธารณรัฐรัสเซีย
เสียชีวิต31 พฤษภาคม 1953
( 67 ปี)
มอสโก สาธารณรัฐรัสเซีย
อาชีพจิตรกร สถาปนิก
สัญชาติรัสเซีย
ช่วงเวลาค.ศ.1908-1953

วลาดิมีร์ ทาทลิน เป็นจิตรกรและสถาปนิกชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในศิลปินชั้นนำของรัสเซียรูปแบบ Avant-garde ปี1920 และต่อมาเขาก็เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมาก ผลงานที่สำคัญของเขาคือ The Fishmonger , counter-reliefs, Tatlin's Tower

ประวัติชีวิตในวัยเยาว์

ทาทลิน เกิดในปี 1885 ที่ประเทศมอสโก แต่เมื่อโตขึ้นมาศึกษาที่เมืองใน Kharkov ประเทศยูเครน บิดามีอาชีพเป็นนักวิศวกรและมารดามีอาชีพเป็นนักกวี เขาใช้ชีวิตเป็นพ่อค้าทางเรือโดยการเดินทางไปยังประเทศต่างๆเช่น ตุรกี อียิปต์ เอเชียไมเนอร์ กรีซ อิตาลี และบัลแกเรีย[1]

ประวัติชีวิตในวัยทำงานและบั้นปลาย

ในปี ค.ศ.1902 ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน Moscow School of Painting, Sculpture, and Architecture ถึง ค.ศ. 1904 จากนั้นจึงเข้าเรียนที่ Penza School of Art ซึ่งอยู่ในการดูแลของ Aleksey Afanas'ev ศิลปินที่มีแนวทางการสร้างงานด้านสังคมและการเมืองร่วมสมัย ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้กับแนวการสร้างงานของทาทลิน หลังจบการศึกษาที่ Penza School of Art ทาทลินได้กลับไปศึกษาที่ Moscow School of Painting, Sculpture, and Architecture และได้รู้จักคุ้นเคยกับศิลปิน Avant-garde หลายคน เช่น the Vesnin brothers, the Burluk brothers, Natalia Goncharova, Mikhail Larionov [2]

ค.ศ. 1913 ทาทลินได้เดินทางไปกรุงปารีส และเข้าได้เยี่ยมชมสตูดิโอของปิกัสโซ (Pablo Picasso)[3] ซึ่งขณะนั้นงานที่จัดว่าเด่นสะดุดตามากที่สุดคือ กีต้าร์ (Guitar ค.ศ. 1912-1913) ซึ่งสร้างขึ้นจากแผ่นเหล็กและเส้นลวด ลักษณะแบบประติมากรรมนูนสูง แขวนอยู่บนผนังห้อง ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างประติมากรรมโดยการประกอบชิ้นส่วนต่างๆขึ้นมา (Constructied Sculpture) และมีความสำคัญต่อแนวคิดต่อต้านธรรมชาติ (Anti Naturalism) ทาทลินได้รับอิทธิพลแนวความคิดแบบ cubism มาผสมผสานประยุกต์ ในการเลือกใช้วัสดุสร้างงาน และได้สร้าง The bottle ออกมาในปี 1913 ภาพวาดของเขาได้รับแรงบันดาลใจจาก โมเนต์ และ โกแกงด้วย คือภาพ The Nude (1913) แล้วพัฒนาผลงานไปในลักษณะสถาปัตยกรรมมากกว่าจิตรกรรมหรือประติมากรรม โดยให้ความสำคัญกับการเลือกชนิดวัสดุและเป็นวัสดุจากอุตสาหกรรมตามอุดมการณ์ของ Constructivist [4]

ในปี ค.ศ. 1915 เขาได้นำเอาแผ่นโลหะมาสร้างประติมากรรมแขวนนามธรรมชื่อ Counter Relifes ซึ่งได้รับอิทธิพลจากคิวบิสก์ยุคสังเคราะห์ ทาทลินแสวงหาความจริงในแง่ของวัตถุ เขาได้กลายเป็นผู้นำศิลปินกลุ่มคอนสตรัคติวิสม์ในรัสเซีย และเป็นคณะกรรมการปฏิรูปสถาบันศิลปะของสหภาพโซเวียต ทาทลินเริ่มรู้สึกว่างานประเภทนี้ยังไม่เพียงพอสำหรับสังคมใหม่ เขาและเพื่อนศิลปินเห็นว่าจำต้องนำเอาการคิดค้นและประสบการณ์ของศิลปินมาใช้สร้างวรรค์ชี้นำสังคม ศิลปินสามารถสอนให้ผู้สนใจได้รู้จักธรรมชาติของวัตถุและวิธีการนำมันมาใช้ พวกเขาเองสามารถเข้าไปยังโรงงานและพัฒนาแนวทางการออกแบบใหม่ เช่น เตาผิงที่มีประสิทธิภาพราคาถูก เสื้อผ้าสำหรับใส่ในฤดูหนาว เข้ากับบรรยากาศก่อนการปฏิวัติรัสเซีย ทาทลินได้วางแผนสร้าง อนุสาวรีย์นานาชาติที่สาม (The movement to the Third International ) หรือ Tatlin’s tower ในปีค.ศ. 1919-1920[5] หอสูงขนาดสองเท่าของตึกเอ็มไพร์สเตทแห่งนครนิวยอร์ก ด้วยเหล็ก แก้ว โลหะและกระจกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของจักรวาล อนุสาวรีย์นี้เปรียบเสมือนโครงสร้างกระดูกเหล็ก สร้างคล้ายศูนย์ควบคุมยานอวกาศ การวางตำแหน่งของห้องเล็กๆในโครงส้รางนี้จะถูกสลับที่กันปีละครั้ง เพื่อจำลองการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ห้องเลขาธิการจะถูกสลับตำแหน่งทุก 28 วัน การออกแบบจึงซับซ้อนเพื่อรองรับวัตถุประสงค์นี้ ซึ่งความฝันแบบยูเปียของทาทลินไม่สอดคล้องกับนโยบายของเลนิน ผู้นำรัสเซีย ที่มุ่งไปที่การขยายตัวทางการค้าและผลผลิต ดังนั้นในไม่ช้าศิลปะรัสเซียจึงสูญเสียอิสระที่จะค้นหาความหมายใหม่ แม้เป็นเพียงแบบจำลอง แต่อนุสาวรีย์นานาชาติที่สามถือเป็นงานก่อสร้างที่ทำงานได้สมบูรณ์และเป็นสัญลักษณ์ของสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ในอุดมคติยุคใหม่

หลังจากโครงการอนุสาวรีย์นานาชาติที่สาม ทาทลิน ให้ความสนใจกับการเรียนการสอนปี ค.ศ. 1920 เขาดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ที่ Svomas ในมอสโกและเป็นรักษาการหัวหน้าสตูดิโอของปริมาณ, วัสดุ, และการก่อสร้างที่ Svomas ในเปโตรกราด ปีค.ศ. 1923-1925 ได้เข้าทำงานในกรมวัฒนธรรมทางวัตถุ ในเปโตก ใน ปี 1923 ได้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมศิลปะในเปโตรกราด เป็นห้องปฏิบัติการสำหรับการศึกษาทดลองของศิลปะ ซึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมศิลปะที่ เขาออกแบบฉากและดำเนินการการแสดง Velimir Khlebnikov บทกวีของ Zangezi ในปี 1923 อันเป็นความสำเร็จของ Construction และเปิดโลก Avant-garde ให้กว้างขึ้น

ผลงานที่กล่าวได้ว่าเป็นผลงานชิ้นสุดท้ายของทาทลินคือ "Le tatlin" [6]เครื่องร่อนที่ขับเคลื่อนโดยใช้กำลังคน จากศึกษาการบินและโครงสร้างปีกของนก โดยเชื่อว่ามนุษย์จะสามารถบินเลียนแบบนกได้ สร้างจากกระดูกปลาวาฬและผ้าไหม โดยได้รับความร่วมมือจากศัลยแพทย์และนักบิน ทาทลินเสียชีวิตอย่างฉับพลันจากอาการอาหารเป็นพิษ ใน วันที่ 31 พฤษภาคม ปีค.ศ. 1953 โดยร่างของเขาถูกฝังอยู่ที่ Novodevichy Cemetery กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

แนวความคิดของทาทลิน

ส่วนมากผลงานของ ทาทลิน นั้นจะแสดงออกในรูปแบบที่ไม่หวนไปสู่แบบดั้งเดิม แต่ผลิตเพื่อการใช้งานจริงขึ้นซึ่งสอดคล้องกับศิลปะเพื่อการปฏิวัติรัสเซียในช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่งศิลปินยุคถัดจากเขาประสบความสำเร็จโดยการใช้ศิลปะเพื่อเป็นสื่อในการผลิตโฆษณาและสร้างกระแสนิยมของรัฐ ผลงานของทาทลิน นับเป็นเวลาสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงรูปแบบของศิลปะรัสเซีย จากการทดลองสมัยใหม่กลายเป็นการออกแบบเชิงใช้งานได้จริง

ทาทลิน เชื่อว่า วัสดุจะใช้งานเต็มประสิทธิภาพได้ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานของศิลปิน ในส่วนนี้มีหลักจริยธรรมที่ว่า “Truth to materials” คือแนวความคิดที่เป็นการเชื่อมผ่านประวัติศาสตร์ของสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ แต่วิธีของทาทลินนั้นยังคงความชัดเจนที่จะแสดงผลงานออกมาให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจากการนำวัสดุมาใช้สำหรับแปลภาษาหรือบอกลักษณะ มาเน้นที่การใช้งานและทำให้กลายเป็นเครื่องจักรแทน การเป็นนักออกแบบวาดภาพของทาทลินทำให้เขาเห็นถึงความแตกต่างในตัววัสดุแต่ละชนิด ซึ่งเมื่อเขาได้เดินทางไปยังปารีสในปี 1913 แเละได้เห็นผลงานรูปแบบ Cubism ของ Picasso ทำให้เขาตระหนักถึงการทำงานตลอดชีวิตของเขาและผลงานส่วนมากของเขานั้นเป็นการแสดงออกมาในลักษณะเส้นโค้งดังจะเห็นได้จาก “Counter-reliefs” (1914) และทำให้เกิดผลงานที่สำคัญอย่าง Tatlin's Tower

อย่างไรก็ตามแนวคิดของทาทลินถือเป็นแนวคิดทฤษฎีสร้างความรู้ใหม่โดยศิลปินเอง (Constructivists) ส่งอิทธิพลต่อศิลปินในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษ 20 โดยการใช้ศิลปะในการปฏิวัติสังคม และศิลปินกลุ่มสำคัญอย่างศิลปินแนวเรียกร้องสิทธิสตรี ผ่านรูปแบบศิลปะ ซึ่งแนวความคิดแบบ Constructivists เป็นแรงบันดาลใจโดยตรงแสดงให้เห็นถึงความ “สูง” และ “ต่ำ” ของศิลปะและวัฒนธรรม[3]

วลีประจำตัวของทาทลิน

“ไม่มีเก่า ไม่มีใหม่ แต่มีความจำเป็น”

“การตรวจสอบวัสดุ น้ำหนัก และการก่อสร้างทำให้มันเป็นไปได้ในปี 1918 เริ่มจากการรวมวัสดุที่มีความคลาสสิกทันสมัยอย่างเหล็กและกระจก เปรียบเทียบกับความเก่าแก่เคร่งครัดอย่างหินอ่อนโบราณด้วยวิธีนี้ทำให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว อย่าง “Monument to the Third International"

“การทำงานและหน้าที่การใช้งานของเฟอนิเจอร์เป็นเพื่อการเริ่มต้นเท่านั้น การแสดงความทันสมัย ความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ความคิดและการพัฒนา แสดงออกได้โดยแค่ศิลปินใส่ความรู้สึกในการสร้างแบบเผินๆ แต่แสดงออกถึงความเป็นสมัยใหม่และการเข้าใจในเหตุและผลของสิ่งนั้น”

“ศิลปะไม่ใช่สิ่งที่วางไว้ในที่ศักดิ์สิทธิ์หรือเลอค่า ไม่ได้ใช้งานอะไรได้จริง นั่นเป็นเพียงคำปลอบใจและเหตุผลของคนขี้เกียจ ศิลปะนั้นควรมีอยู่ได้ทุกที่ที่มีชีวิตอยู่”

 
แบบจำลอง Tatlin's Tower ที่รอยัลอะคาเดมีออฟอาตส์ หรือ ราชสถาบันศิลปะ,กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร.

ผลงานที่โดดเด่น

  • 1910 – " Artist's model "
  • 1911 – “The Fishmonger" [7]

เป็นการเนเส้นโค้งที่แสดงออกบนผืนผ้าใบ หนึ่งในผลงาน the Knave of Diamonds Exhibition เป็นการอธิบายอย่างเข้มข้นระหว่าง David Burlyuk คนที่สนับสนุนศิลปะตะวันตกและ Natalia Goncharova คนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย การอภิปรายนี้นำไปสู่ "The Donkey's Tail” กลุ่มคู่แข่งเน้นรัสเซียและลักษณะพื้นบ้านซึ่งเขียนโดย Tatlin

  • 1911-1912 – " The Sailor (Self Portrait) "
  • 1912 – " Portrait of the artist " [8]
  • 1919-1920 – "Tatlin's Tower" [9]

หรือโครงการ the Monument to the Third International เป็นการสร้างอนุสาวรีย์ที่มีขนาดใหญ่มาก Tatlin ต้องการสร้างงานสถาปัตยกรรมที่มีความทันสมัย

  • 1930-1932 – " Le tatlin " [10]

แหล่งอ้างอิง

  1. http://en.wikipedia.org/wiki/Vladimir_Tatlin | Lynton, Norbert (2009). Tatlin's Tower: Monument to Revolution. New Haven: Yale University Press. p. 1. ISBN 0300111304.
  2. โลกศิลปะศตวรรษที่ 20. จิระพัฒน์ พิตรปรีชา. กรุงเทพฯ : เมืองโบราณ, 2552
  3. 3.0 3.1 http://www.theartstory.org/artist-tatlin-vladimir.htm
  4. http://max.mmlc.northwestern.edu/mdenner/Drama/visualarts/Constructivism/24thirdinternational.html |Constructivism. Retrieved 2014-11-29.
  5. http://en.wikipedia.org/wiki/Tatlin%27s_Tower |Honour, H. and Fleming, J. (2009) A World History of Art. 7th edn. London: Laurence King Publishing, p. 819. ISBN 9781856695848
  6. http://www.wsws.org/en/articles/2012/06/tat1-j19.html | Tatlin’s “new art for a new world”
  7. http://www.wikiart.org/en/vladimir-tatlin#supersized-featured-255557 |The Fishmonger
  8. http://www.wikiart.org/en/vladimir-tatlin#supersized-featured-255551 | Portrait of the artist
  9. http://www.wikiart.org/en/vladimir-tatlin#supersized-featured-255548 | Tatlin's Tower
  10. http://www.wikiart.org/en/vladimir-tatlin#supersized-featured-255545 | Le tatlin