ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาวุธนิวเคลียร์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล แก้ไขของเดิมเพิ่ม |
|||
บรรทัด 1:
=='''''ประวัติการสร้าง'''''==
1938 [http://www.rmutphysics.com/charud/scibook/atom/index/chap5/index2.htm อ็อตโตฮาห์น (otto hahn)] บิดาแห่งนิวเคลียร์ และ ฟริตซ์ สตราสซ์แมน (Fritz Strassman) เป็นผู้ค้นพบปฏิกริยาฟิวชชั่น ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่
ทำให้เกิดเป็นระเบิดนิวเคลียร์ระเบิดนิวเคลียร์เกี่ยวข้องอยู่กับแรงที่ยึดเหนึ่ยวอนุภาคต่างๆไว้ในนิวเคลียส แรงนี้มีค่ามหาศาล
เรามีวิธี 2 วิธีที่จะดึงพลังงานจากอะตอมออกมาได้ดังนี้
* 1. นิวเคลียร์ฟิชชั่น แยกนิวเคลียสขนาดใหญ่ให้เป็นนิวเคลียสขนาดเล็ก พร้อมกับได้อนุภาคนิวตรอนจำนวนหนึ่ง วิธีนี้ใช้ได้กับไอโซโทปของยูเรเนียม 235 ยูเรเนียม 233 และพลูโตเนียม 239
* 2. นิวเคลียร์ฟิวชั่น รวมนิวเคลียสขนาดเล็กอย่างน้อย 2 อันให้เป็นนิวเคลียสขนาดใหญ่ โดยทั่วไปใช้กับไอโซโทปของไฮโดรเจน (ดิวทีเรียม และทริเทียม) วิธีนี้เป็นวิธีเดียวกันกับที่ดวงอาทิตยให้พลังงานออกมา
[[File:ฟิวชั่น.jpg|thumb|left|500px]]
==''''' ภายในลูกระเบิดนิวเคลียร '''''==
'''ประกอบด้วย'''
• เชื้อเพลิงสำหรับปฏิกิริยาฟิชชั่น และฟิวชั่น
• อุปกรณ์ทริกเกอร์ (triggering)
• นิวตรอนเจนเนอเรเตอร์
ระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกเกิดจากกระบวนการฟิชชั่น และภายหลังจึงได้มีการสร้างระเบิดฟิวชั่น ซึ่งต้องอาศัยกระบวนการฟิชชั่นมากระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยาฟิชชั่น และฟิวชั่นรวมกัน ปฏิกิริยาทั้งสองปลดปล่อยพลังงานปริมาณมหาศาลจากสสารปริมาณค่อนข้างน้อย การทดสอบระเบิดฟิชชัน ("อะตอม") ลูกแรกปลดปล่อยพลังงานออกมาเทียบเท่ากับทีเอ็นทีประมาณ 20,000 ตัน การทดสอบระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ ("ไฮโดรเจน") ลูกแรก ปลดปล่อยพลังงานออกมาเท่ากับทีเอ็นทีประมาณ 10,000,000 ตัน
==''''' ขั้นตอนการระเบิด '''''==
'''ใช้ปืนกระตุ้น'''
เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพื่อทำให้มวลที่อยู่ใต้สถานะวิกฤติ เปลี่ยนไปอยู่ในสถานะวิกฤติ โดยใช้ปืนยิงกระสุนเข้าในเม็ดเชื้อเพลิง ของยูเรเนียม -235 ซึ่งล้อมรอบด้วยนิวตรอนเจนเนอร์เรเตอร์ (ตัวให้นิวตรอน) ลูกกระสุนจะบรรจุอยู่ทางด้านบน และถูกแรงระเบิดของเชื้อประทุ ทำให้กระสุนพุ่งลงมาทางด้านล่าง ขั้นตอนเป็นไปตามลำดับดังนี้
• แรงระเบิดจะอัดกระสุนให้พุ่งลงมาทางด้านล่าง
• ลูกกระสุนพุ่งเข้าหาเชื้อเพลิง เวลาเดียวกับนิวตรอนเจนเนอร์เรเตอร์ สร้างนิวตรอน ยิงเข้าไปในนิวเคลียสของยูเรเนียม เชื้อเพลิงเข้าสู่สภาวะวิกฤติ
• ปฏิกิริยาฟิชชั่นเริ่มขึ้น
• ระเบิดตูม [[File:TGS.jpg|thumb|left|แสดงการระเบิดของเจ้าหนูน้อย (Little boy) แรงระเบิดมีขนาด 14.5 กิโลตัน เทียบเท่ากับระเบิดไดนาไมต์ 14500 ตัน มีประสิทธิภาพ 1.5 % มีความหมายว่า ต้องเกิดปฏิกิริยาฟิชชั่น 1.5 % จึงจะทำให้เกิดการระเบิดได้
|250px]]
'''ใช้ระเบิดกระตุ้น'''
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เราสามารถอัดมวลใต้วิกฤติ โดยใช้ระเบิด ซึ่งเป็นหนทางดีที่สุดที่ทำให้มวลเปลี่ยนสถานะไปเป็นมวลวิกฤติได้ อย่างไรก็ตามมีปัญหามากมายเกี่ยวกับความคิดนี้ ว่าจะควบคุมทิศทางของคลื่นกระแทกที่ได้จากระเบิดให้สม่ำเสมออย่างไร ในโครงการแมนฮัตตัน ทางทีมงานสามารถแก้ปัญหานี้ได้ โดยทำยูเรเนี่ยม 235 (Temper) เป็นรูปทรงกลมกลวง และแกนกลางเป็นพลูโตเนียม 239 ล้อมรอบ ด้วยดินระเบิด ขั้นตอนของระเบิดเป็นดังนี้
• ทำให้เชื้อระเบิดเกิดการระเบิดขึ้นเพื่อสร้างคลื่นกระแทก
• คลื่นกระแทกจะอัดเชื้อเพลิงพลูโตเนียมด้วยแรงมหาศาล เข้าไปในแกนกลางที่ทำด้วย เบอริลเลียมและโพโลเนียม
ปฏิกิริยาฟิชชั่นเริ่มต้น
• ระเบิดตูม
[[File:Thh.png|thumb|left|250px]]
==''''' ประวัติการใช้อาวุธนิวเคลียร์ '''''==
มีอาวุธนิวเคลียร์เพียงสองชิ้นเท่านั้นที่เคยใช้ตลอดห้วงการสงคราม ทั้งสองครั้งโดยสหรัฐอเมริกายามสงครามโลกครั้งที่สองใกล้ยุติ วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 วัตถุประเภทจุดระเบิดยูเรเนียม (uranium gun-type) ชื่อรหัสว่า "ลิตเติลบอย" ถูกจุดระเบิดเหนือนครฮิโรชิมาของญี่ปุ่น อีกสามวันให้หลัง วันที่ 9 สิงหาคม วัตถุประเภทจุดระเบิดภายในพลูโตเนียม (plutonium implosion-type) ชื่อรหัสว่า "แฟตแมน" ระเบิดเหนือนางาซากิ ประเทศญี่ปุ่น การทิ้งระเบิดทั้งสองลูกส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นเสียชีวิตไปประมาณ 200,000 ศพ ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน จากการบาดเจ็บฉับพลันที่ได้รับจากการระเบิด
[[File:Sbobet.jpg|thumb|left|300px]][[File:7dbd.jpg|thumb|right|300px]]
=='''''แหล่งอ้างอิง'''''==
http://www.rmutphysics.com/…/howstu…/nuclear/nuclearthai.htm
|