ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 47:
== รุ่งเรือง ==
[[ไฟล์:ไอ้แสบ-แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์.jpg|thumb|200px|right|ไอ้แสบ แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ หลังแขวนนวม]]
แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ มีชื่อที่แฟนมวยรู้จักว่า '''"ไอ้แสบ"''' และมีฉายาที่ตัวเองตั้งว่า '''"ซ้ายสีชมพู"''' ซึ่งฟังดูขัดกับสิ่งที่ตัวเองเป็น การตั้งโดยเจ้าตัวบอกว่า ต้องการให้ดูน่ารักเทียมบุญ อินทรบุตร โปรโมเตอร์ประจำของแสนศักดิ์<ref>{{cite web|url=http://www.siamdara.com/ColumnDetail.asp?cid=7327|title= ปริม ประภาพร|date=22 April 2009|accessdate=10 October คลายความดุดัน2014|publisher=สยามดารา}}</ref> (เดิมมีฉายาว่า ''ซ้ายทะลายโลก'') แสนศักดิ์ เป็นคนมีบุคคลิกเฮฮา มีสีสัน ช่วงที่แสนศักดิ์เป็นแชมป์โลก นับได้ว่าเป็นซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังคนหนึ่งไม่ต่างอะไรกับ[[พระเอก]][[ภาพยนตร์ไทย|ภาพยนตร์]]เลยทีเดียว เช่น ไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปป้องกันตำแหน่งที่ไหน นักข่าวโดยเฉพาะ หนังสือพิมพ์ต้องตามไปทำข่าวถึงที่นั่น เล่ากันว่าถึงขนาดจับเครื่องบินกลับกรุงเทพ ฯ ส่งต้นฉบับแทบไม่ทันเลยทีเดียว เรื่องนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่นักข่าวร่วมสมัย และถึงขนาดที่
[[เพลิน พรหมแดน]] นักร้อง[[เพลงลูกทุ่ง]]ชื่อดังเคยทำเพลงพูดล้อเลียนเกี่ยวกับแสนศักดิ์ชื่อว่า "ศึกไอ้แสบ"
 
และการที่เป็นคนเฮฮาแบบนี้ ทำให้แสนศักดิ์ ได้ภรรยาคนแรกในชีวิตคือ "[[ปริม ประภาพร]]" ดาราสาวดาวยั่วชื่อดังในสมัยนั้น และมีลูกชายที่เกิดกับภรรยาคนนี้คือนาย "เกรียงศักดิ์ มั่นศรี" ซึ่งแสนศักดิ์เป็นคนตั้งเอง โดยให้ตรงกับชื่อนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น (พลเอก[[เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์]]) และมีชื่อเล่นว่า "คิง"
 
นอกจากนี้แล้ว ในระหว่างที่แสนศักดิ์มีชื่อเสียงอยู่นั้น กลุ่มผู้สนับสนุนแสนศักดิ์คือ เทียมบุญ อินทรบุตร ยังได้ผลักดันนักมวยอีกรายให้เดินตามรอยของแสนศักดิ์ โดยให้ชกในรุ่นเดียวกัน ไว้[[หนวด]]และทรงผมแบบเดียวกับแสนศักดิ์ คือ "[[ต้องตา เกียรติวายุภักษ์]]" แต่ไม่ประสบความสำเร็จเมื่อได้ชิงแชมป์โลกของสถาบัน[[สมาคมมวยโลก]] (WBA) แต่เป็นฝ่ายแพ้น็อก[[อันโตนิโอ เซอร์วองเตด]] นักมวยชาว[[โคลัมเบีย]]ไปในยกที่ 6 ที่[[จังหวัดอุดรธานี]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2521]]
 
== ตกต่ำหลังแขวนนวม ==
หลังแขวนนวมเพราะสภาพร่างกายที่ไม่แข็งแกร่งเหมือนเดิมและมีปัญหาด้านสายตาอีก อันเนื่องจากบอบช้ำจากการชกมวย แสนศักดิ์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ลำบาก เพราะนับจากเสียแชมป์โลกครั้งสุดท้ายไปแล้ว เงินทองที่เคยมีอยู่นับ 10 ล้านที่เคยเก็บหอมรอบริบจากการชกมวยก็ร่อยหรอ ผู้จัดการที่ปลุกปั้นมา คือ สนอง รักวานิช ก็เสียชีวิต กลุ่มผู้สนับสนุนก็ทยอย ๆ จากไป หนำซ้ำยังโดนหลอกจากเพื่อนฝูงและคนรู้จัก รวมถึงคนในวงการมวยด้วย (เป็นข้อมูลที่การชกครั้งสุดท้ายของแสนศักดิ์เป็นผู้บอกเอง) การชกครั้งท้ายซึ่งเป็นขึ้นชิงแชมป์ในรุ่น[[เวลเตอร์เวท]] (147 ปอนด์) ของแสนศักดิ์[[สหพันธ์มวยภาคตะวันออกไกลและแปซิฟิก]] (OPBF) เจ้าตัวถึงขนาดลงทุนเป็นโปรโมเตอร์เอง ซึ่งแต่ก็ขาดทุนอีก อีกทั้งยังเป็นฝ่ายแพ้คะแนนอีกด้วย รวมทั้งเคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัด[[พรรคชาติไทย]] ที่เพชรบูรณ์ บ้านเกิด ก็ไม่ได้รับเลือก
 
จนในที่สุด สายตาข้างขวาที่มีปัญหาของแสนศักดิ์ก็บอดสนิท ส่วนตาข้างซ้ายได้รับการผ่าตัดจนมองเห็นได้ ต้องขอรับความช่วยเหลือจาก[[การกีฬาแห่งประเทศไทย]]เดือนละ 7,500 บาท และจากสภามวยโลกอีกเดือนละ 9,000 บาท บั้นปลายชีวิตได้อาศัยอยู่กับนางสาวศศวรรณ ดาวัลย์ ภรรยาใหม่และมีลูกสาวบุญธรรมคือ นางสาวปานวาด มั่นศรี