ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อัศนี พลจันทร"

อัศนีเริ่มรับราชการครั้งแรกเป็น[[อัยการ]]ผู้ช่วยชั้นตรี เมื่อ [[21 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2484]] และได้ถูกย้ายไปอยู่ที่[[จังหวัดปัตตานี]] เนื่องจากมีปัญหากับหัวหน้างาน ครั้นมาอยู่ปัตตานีได้ 2 ปี ก็ถูกสั่งย้ายอีกไปที่[[จังหวัดสระบุรี|สระบุรี]] ด้วยทางการระแคะระคายได้ข่าวว่า ให้การสนับสนุนชน[[ชาวมลายู]]ต่อต้านรัฐบาล[[จอมพล ป. พิบูลสงคราม]] ครั้งนี้ให้ไปที่[[จังหวัดสระบุรี|สระบุรี]] ผ่านไป 4 ปีเศษ มีคำสั่งให้ย้ายไปอยู่[[จังหวัดพระนครศรีอยุธยา|อยุธยา]] เนื่องจากกรณีขัดแย้งกับข้าหลวง จากนั้นถูกสั่งให้กลับมาประจำกองคดี กรมอัยการ [[กระทรวงมหาดไทย]] เหตุเพราะความเป็นคนตรงไปตรงมา ภายหลังมีปัญหาท้ายที่สุดจึงตัดสินใจลาออกเมื่อสิ้นปี [[พ.ศ. 2495]]

ในช่วง พ.ศ. 2495 จอมพล ป. ได้มีการคำสั่งให้จับกุมนักเขียน และนักหนังสือพิมพ์ ที่มีผลงานไม่เห็นด้วยกับทางรัฐบาล ทำให้นายผีอัศนีต้องหลบหนีแต่ยังคงซ่อนตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยในขณะนั้นได้มีผลงานวรรณกรรมออกมาหลายเรื่อง ซึ่งได้แก่ในช่วงนั้นคือ "ความเปลี่ยนแปลง", "เราชนะแล้วแม่จ๋า"

ในปี พ.ศ. 2504 ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในนาม '''สหายไฟ''' ภายใต้[[พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย]] ซึ่งภายหลังบุคคลภายในเมื่อสมาชิกพรรคได้ถูกจับกุมทำให้อัศนีต้องเร่ร่อนหลบหนีไปอยู่[[ประเทศเวียดนาม|เวียดนาม]]และ[[ประเทศจีน|จีน]]ในเวลาต่อมา และเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ [[28 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2530]] ใน[[แขวงอุดมไซ]] [[ประเทศลาว]] และได้นำกระดูกกลับสู่แผ่นดินแม่ประเทศไทยเมื่อ [[22 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2540]]