ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กรีโกรี รัสปูติน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Song2281 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 32:
[[ไฟล์:Verkhoturskii Monastery 1910 LOC prok 02099.jpg|thumb|upright=1| ภาพมุมมองของวัด เซนต์นิโคลัส ในปี ค.ศ. 1910]]
 
กริกอรี รัสปูตินเกิดในฐานะลูกชาวนาที่ดีในหมู่บ้านเล็กๆของ [[Pokrovskoye]] แต่ค่อนข้างจะมีความรุ่งเรืองในเมือง [[Tobolsk]] , [[Guberniya]] (ปัจจุบันกลายเป็นเขตแดน Yarkovsky ใน Tyumen Oblast)
ในพื้นที่กว้างบริเวณ ไซบีเรียตะวันตกที่ราบ การลงทะเบียนเลือกตั้งเขตศาสนาซึ่งมีรายการต่างๆที่ประกอบไปด้วยดังนี้ในวันที่ [[9 มกราคม]] [[ค.ศ. 1869]] '''ในหมู่บ้านของ Pokrovskoe ในครอบครัวของชาวนา
 
Yefim Yakovlevich Rasputin (หรืออีกชื่อคือ Efim Yakovlevich Rasputin) กับภรรยาของเขา โดยทั้งสองได้ทำการปฏิบัติตามขนบประเพณีอย่างถูกต้อง และกำเนิดเด็กชายที่มีนามว่า '''Grigory'''<ref>[http://rbth.ru/articles/2012/12/27/demystifying_the_life_of_grigory_rasputin_21521.html Demystifying the life of Grigory Rasputin]; {{cite web|url=http://www.angelfire.com/pa/ImperialRussian/news/517news.html |title=Royal Russia News: Demystifying the life of Grigory Rasputin |publisher=Angelfire.com |date= |accessdate=2013-04-28}}</ref>
 
(หรือจะเรียกว่า Griogi ก็ได้)หนึ่งวันต่อมา เด็กชายถูกตั้งชื่อใหม่ หลังจาก [[Gregory of Nyssa]] ได้จัดงานเลี้ยงฉลองเมื่อวันที่ 10 มกราคม (แต่ไม่ทราบปี)<ref> อ้างอิงจาก ''The Rasputin File'' หน้า 25, 29.</ref>
 
กริกอรีอริเกิดในลำดับคนที่ห้าจากพี่น้องทั้งหมดเก้าคน เขาไม่ค่อยตั้งใจหรือสนสนใจในเรื่องด้านการเรียนนักศึกษา จากการสำรวจในปี [[ค.ศ. 1897]] พบว่าประชาชนในหมู่บ้านส่วนมากเป็นผู้ไม่รู้หนังสือ<ref>J.T. Fuhrm ann (2013), p. 9.</ref>
ในเมือง Pokrovskoye เด็กชายรัสปูตินถูกมองว่าเป็นคนนอกในหมู่บ้านนี้ ชายปริศนาได้บริจาคของขวัญลุกลับลึกลับมา '''แขนและขาของเขาดูกระตุก เขาเดินลากเท้าไปมา และมักจะเก็บอะไรบางอย่างไว้ในมือที่ครอบครอง
อย่างไรก็ตามแม้จะมีนิสัยตลบแตลง เขาก็มักจะคิดถึงการเอาใจใส่'''<ref>J.T. Fuhrmann (2013), p. 11-13.</ref> เรื่องเล็กน้อยๆในวัยเด็กถูกส่งผ่านต่อยอดมายังลูกสาวของเขา มาเรีย<ref>M. Rasputin (1934) ''My father''.</ref> ในวันที่ [[2 กุมภาพันธ์]] [[ค.ศ. 1887]] กริกอรีคบภรรยาที่มีอายุน้อยกว่าตนตนเองถึง 3 ปี Praskovia Fyodorovna Dubrovina โดยทั้งคู่ได้มีลูกด้วยกันสามคน ได้แก่ ดิมิตรี (Dmitri), วัววารา(Varvara) และ มาเรีย (Maria) ลูกชายของเขาเสียชีวิตในเยาววัยเมื่อปี [[ค.ศ. 1892]]<ref>M. Nelipa (2010), p. 16.</ref>
 
กริกอรีอริออกจากหมู่บ้านอย่างฉับพลัน ภรรยาของเขา,ลูกและพ่อแม่ลาจากญาติของเขา เขาใช้เวลาอยู่หลายเดือนในการอยู่วัดใน [[Verkhoturye]] Spiridovich ชี้แนะหลังการเสียชีวิตของหลานของกริกอรี<ref>Spiridovitch, A. (1935) ''Raspoutine (1863-1916)'', p. 15.</ref>
 
แต่โดยตัววัดได้ถูกเพิ่มเสริมให้มีความใหญ่ยิ่งใหญ่ขึ้นในปีที่ผ่านมาจะได้รับผู้แสวงบุญ<ref>[http://www.pravenc.ru/text/158212.html]</ref> ด้านนอกของวัดเป็นที่อาศัยของฤๅษี (ซึ่งมีชื่อว่า Brother Makary) Makary มีอิทธิพลต่อกริกอรี
และทำให้กริกอทำให้กริกอรีได้ดิ่ม สูบบุหรี่ กินเนื้อสัตว์เปลี่ยนแปลงทัศนคติตนเอง หลังจากที่เขาได้กลับบ้านไปเขาได้เรียนรู้และอ่านและเขียน และกลายเป็นผู้เปลี่ยนความคิดและการเป็นคนกระตือรือร้นขึ้นมา
 
== ก้าวสู่ชีวิตทางศาสนา ==
บรรทัด 52:
[[ไฟล์:2005-08-11 Kiev Pechersk Lavra 158.JPG|thumb|upright=1|การเดินทางครั้งที่สองของรัสปูตินในการมาเยือน [[Kiev Pechersk Lavra|Monastery of the Caves]] ที่เมือง[[เคียฟ]], เกือบ 3,000 กิโลเมตรจากหมู่บ้านของเขา]]
 
รัสปูตินอ้างว่าวิสัยทัศน์ของพระแม่แห่งคาซานนำเขาไปสู่ชีวิตความศรัทธาของศาสนาศรััทธาด้านศาสนา ในช่วงราวปี[[ค.ศ. 1893]] เขาได้เดินทางมายังภูเขา Athos แต่เขานั้นตกใจอย่างสุดขีดและทำให้กระจ่างขึ้นมา ในขณะที่เขาบอก Makary<ref>J.T. Fuhrmann (2013), p. 22; B. Moynahan, p. 32.</ref>
 
ในปี [[ค.ศ. 1900]] เขาถูกะระบุว่าเป็น strannik (ผู้แสวงบุญทางศาสนาในรัสเซีย) , นักบุญพเนจร<ref>M. Nelipa (2010), p. 17.</ref> อย่างไรก็ตามรัสปูตินมักจะกลับบ้านมาช่วยเหลือครอบครัวในการเก็บเกี่ยวผลผลิต และได้รับถูกเรียกว่า ผู้มาใหม่ , yurodiviy (คนโง่เขลาที่ศักดิ์ศักดิ์)<ref>Spencer C. Tucker, Priscilla Mary Roberts (2005), "The Encyclopedia of World War I: A Political, Social, and Military History, p. 967 [http://books.google.nl/books?id=2YqjfHLyyj8C&lpg=PA484&ots=BRkaZdVJ0I&dq=The%20Encyclopedia%20of%20World%20War%20I%3A%20A%20Political%2C%20Social%2C%20and%20Military%20History&hl=nl&pg=PA967#v=onepage&q=Rasputin&f=false].</ref> โดยเหล่าผู้ติดตามที่เชื่อว่าสามารถจะหยั่งรู้และรักษาผู้คนได้<ref name="Mad Monk">''Rasputin: The Mad Monk'' [DVD]. USA: A&E Home Video. 2005.</ref> , แต่ถึงกระนั้นรัสปูตินก็ยังยืนยันว่าเขาไม่ใช่ที่ปรึกษาในคริสตจักรภาคตะวันออกหรือครูว่าด้วยเรื่องสอนเกี่ยวกับศาสนา<ref>M. Nelipa (2010) ''The Murder of Grigorii Rasputin. A Conspiracy That Brought Down the Russian Empire'', p. 16.</ref> (ภาษาอังกฤษ : starets) , โดยรัสปูตินนั้นพยายามที่จะพูดเรียนรู้ภาษาถื่นไซบีเรียอยู่เกือบๆบ่อยหลายครั้ง แต่รัสปูตินกระนั้นก็ไม่สามารถทำให้รัสปูตินเข้าใจภาษาไซบีเรียได้อยู่ดี<ref name="alexanderpalace.org">[http://www.alexanderpalace.org/realtsaritsa/1chap5.html The Real Tsaritsa by Madame Lili Dehn]</ref> หรือ และการเทศนาหลักธรรมสอนที่ไม่บ่อยนักและการสนทนาในที่สาธารณะ
 
ในปี [[ค.ศ. 1903]] เขาใช้เวลาส่วนมากอยู่ใน[[เคียฟ]]ซึ่งเขาได้ไปเยี่ยมเยือนวัด Monastery of thé Caves (ซึ่งปัจจุบันปลี่ยนชื่อเป็น Kiev Pechersk Lavra) ในเมือง Kazan ซึ่งเขาได้ดึงดูดความสนใจแก่เหล่าพวกบาทหลวงและสมาชิกชั้นสูงต่างๆ <ref>[[Andrei Amalrik|Amalrik, A.]] (1988) ''Biografie van de Russische monnik 1863-1916'', p. 45; J.T. Fuhrmann (2013), p. 24; B. Moynahan (1997) ''Rasputin. The saint who sinned'', p. 43.</ref>
 
รัสปูตินได้เดินทางไปยังเมืองหลวงเพื่อให้พบปะกับ John of Kronstadt , Pierre Gilliard ได้เขียนไว้ว่ารัสปูตินได้เดินทางมาถึงในปี [[ค.ศ. 1905]]<ref>[http://www.alexanderpalace.org/gilliard/V.html Alexanderpalace]</ref> , M. Nelipa คิดว่าฤดูใบ้ไม้ผลิจะเกิดขึ้นในปี[[ค.ศ. 1904]] Iliodor (เป็นชื่อนามแฝงของ Sergei Trufanov ซึ่งเดิมเป็นนักโบสถ์ซึ่งมารู้จักกับรัสปูตินแล้วก็ได้มาแต่งหนังสือชีวประวัติในบั้นปลายชีวิต) เชื่อว่าฤดูใบ้ไม้ผลิจะมาตอนปี[[ค.ศ. 1903]] ประมาณธันวาคม <ref>[https://archive.org/stream/madmonkofrussiai00trufuoft#page/91/mode/2up Iliodor (1918), p. 91]</ref>
เขาได้แนะนำให้รู้จักกับ Ivan Stragorodsky อธิการบดีของ Theological Faculty (เป็นโรงเรียนสอนศาสนา), รัสปูตินพักอยู่ที่ Alexander Nevsky Lavra ชั่วคราว , และเขาก็พบกับ Hermogenes และ Theophanes of Poltava ผู้ที่ทึ่งศรัทธาในด้านจิตวิทยาของรัสปูตินและความเฉียบแหลมคมของเขา , เขารัสปูตินถูกเชื้อเชิญโดยเจ้าหญิงมิลคาจากเมือง[[ประเทศมอนเตเนโกร]]ลคา (ภาษาอังกฤษ :Princess Milica of Montenegro) จากเมือง[[ประเทศมอนเตเนโกร]]
และเจ้าหญิงอนาตาเซียแห่งประเทศมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าหญิงมิลคาเอง (ภาษาอังกฤษ : Princess Anastasia of Montenegro) แห่งประเทศมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นน้องสาวของเจ้าหญิงมิลคาเอง ซึ่งเจ้าหญิงอนาตาเซีัยมีความสนใจในเวทมนตร์ของเปอร์เซีย <ref>E. Radzinsky, p. 57.</ref>
เจตนิยมและการใช้เวทมนตร์คาถา เจ้าหญิงมิลคาได้นำเสนอเรื่องรัสปูตินไปยัง[[ซาร์นีโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซีย]] และภรรยาของอเล็กซานเดอร์ในวันที่ [[1 พฤศจิกายน]] [[ค.ศ. 1905]] .<ref>{{cite web|url=http://www.rus-sky.com/history/library/diaris/1905.htm |title=Nicolas' diary 1905 (in Russian) |publisher=Rus-sky.com |date= |accessdate=2013-04-28}}</ref>
 
ก่อนที่จะมีการประชุมกับรัสปูติน , ซารนิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียต้องรับมือกับ[[สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น]] , [[วันอาทิตย์ทมิฬ]] , [[การปฏิวัติรัสเซีย พ.ศ. 2448]] การระเบิดทั่วประเทศมีเหตุชุลมุนมากมายหลายที่และบริเวณรางรถไฟ ,การพังทลายของตึกต่างๆ บริเวณในเมืองที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงเหล่าจักรพรรดิ์และผู้มีอำนาจเด็ดขาดในรัสเซียทั้งหมดทั้งหลายถูกบังคับ เมื่อวันที่ 17 โดย Sergei Witte ได้ออกลงนามแถลงการณ์เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งจะเป็นการยอมรับที่จะได้สถาปนารัฐดูมาและจะให้เป็นส่วนหนึ่งของเขาได้อย่างไม่จำกัดในระบอบผเด็จการ
<ref>J.T. Fuhrmann (2013), p. 33.</ref> หกเดือนต่อมา Sergei Witte ได้ถูกรับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี , แต่ถูกปกครองที่แท้จริงคือนายพล Dmitri Trepov
 
บรรทัด 70:
[[ไฟล์:Raspoutine et ses enfants.jpg|thumb|upright=1|left|รัสปูตินกับหลานของเขา]]
 
ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1906 มีคำสั่งจากพระเจ้าซาร์ , รัสปูตินเข้าเยี่ยมลูกสาวของนายกรัฐมนตรี Pyotr Stolypin ที่มีอาการบาดเจ็บ , ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น มีประชากรจำนวน 29 คนเสียชีวิตด้วยแรงของระเบิดซึ่งนั้นรวมถึงลูกสาวของนายกรัฐมนตรี Pyotr Stolypin อีกด้วย <ref>[http://books.google.nl/books?id=ljZhTg79ZocC&lpg=PA41&ots=TmgY_matlB&dq=Rasputin%20Stolypin%20august%201906&hl=nl&pg=PA41#v=onepage&q=Rasputin%20Stolypin%20august%201906&f=false J.T. Fuhrmann (2013), p. 41]</ref> ไม่กี่เดือนต่อมา,
 
{{quote|... ในวันที่ 15 ธันวาคม, รัสปูตินขอร้องอ้อนว่าต่อพระเจ้าซาร์, พยายามที่จะต้องการเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อของเขาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย. กริกอริอธิบายว่าสมาชิกในครอบครัวหกคน ในเมือง Pokrovskoye ค่อนข้างจะเบื่อไม่ชอบนามสกุลรัสปูติน , และนี่คือสิ่งที่สร้างขึ้น '''การแบ่งประเภทก็อาจนำไปสู่ความหยุ่งเหยิงโกลาหลได้''' รัสปูตินถามนิโคลัส "วิธีที่จะยุติความหยุ่งเหยิงโกลาหลครั้งนี้ได้ด้วยควรอนุญาตให้ผมเปลี่ยนชื่อและลูกหลานใช้ชื่อว่า Rasputin-Novyi (Новый ซึ่งหมายถึง '''รัสปูตินคนใหม่''' หรือ '''รัสปูตินแบบใหม่'''."<ref>J.T. Fuhrmann (2013), p. 42; M. Nelipa (2010), p. 24; Iliodor, p. 112.[https://archive.org/stream/madmonkofrussiai00trufuoft#page/112/mode/2up].</ref>}}
 
ในเดือน เมษายน ค.ศ. 1907 รัสปูตินถูกเชื้อเชิญอีกครั้งโดย Tsarskoye Selo , ในครั้งนี้เพื่อพบกับ Tsarevich Alexe
ซึ่งเป็นเด็กที่มีอาการบาดเจ็บและมีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก และค่อนข้างจะมีอาการเจ็บปวดจากโรคฮีโมฟีเลียบี , แต่ซึ่งแน่นอนไม่ค่อยจะเป็นที่รู้กันอย่างสาธารณะชนว่ารัชทายาทเป็นจะติดโรคฮีโมฟิเลียบี ฮีโมฟีเลียบี โดยโรคนี้ค่อนข้างจะแพร่หลายในพระบรมวงศานุวงศ์ในแถบยุโรป.<ref>R.C. Moe, p. 149.</ref> เมื่อแพทย์ไม่รักษาได้จึงทำให้เกิดความหมดหวัง Tsarina นั้นยังคงรอคอยความช่วยเหลืออยู่จากใครสักคน โดยเธอได้สูญเสียแม่ ,พี่ชาย , น้องสาว เมื่อเธอยังเป็นเด็ก
โดยรัสปูตินบอกสามารถที่จะรักษาให้ได้โดยการอธิษฐานภาวนาแด่พระเจ้า โดยซึ่งนั้นทำให้ผู้ปกครองหรือญาตินั้นของเธอมีอาการที่สงบเสียมและรู้สึกดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และก็ช่วยให้อาการเบาบางจิตใจของเด็กเบาบางไปและอาการได้อย่างดี ทั้งๆที่ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์จากแพทย์หมอว่าเขาเธอจะตาย ในช่วงต่อไปนี้เร็ววัน โดย Tsarevich แสดงให้เห็นสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ<ref>[http://www.theatlantic.com/magazine/archive/1928/01/the-fall-of-the-russian-empire-the-part-played-by-a-woman/303871/ The Atlantic]; {{cite web|url=http://www.alexanderpalace.org/russiancourt/VI.html |title=Memories of the Russian Court - an online book on Romanov Russia - Chapter VI |publisher=Alexanderpalace.org |date= |accessdate=2013-04-28}}</ref>
 
[[ไฟล์:Ρασπούτιν.jpg|thumb|Alexandra Feodorovna กับหลานของเธอ, รัสปุตินและผู้ปกครองหญิงในปีค.ศ. 1908]]