ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชชนนี"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรม |
แอนเดอร์สัน (คุย | ส่วนร่วม) ย้อนการแก้ไขที่ 5568779 สร้างโดย 182.255.13.51 (พูดคุย) |
||
บรรทัด 19:
}}
'''สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระ
เอลิซาเบธซึ่งเกิดในครอบครัวตระกูลผู้ดี[[ชาวสก็อต]] ได้กลายมาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในปี [[พ.ศ. 2466]] เมื่อเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าชายอัลเบิร์ต ดยุกแห่งยอร์ก พระราชโอรสพระองค์ที่สองใน[[สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5 แห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 5]] และ [[แมรีแห่งเทก สมเด็จพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระราชินีแมรี]] ในฐานะที่เป็นดัชเชสแห่งยอร์ก พระองค์ พระสวามีและพระธิดาทั้งสองคือ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ มกุฎราชกุมารี และ[[เจ้าหญิงมาร์กาเรต เคาน์เตสแห่งสโนว์ดอน|เจ้าหญิงมาร์กาเรต]] ได้ทรงปฏิบัติตนตามแบบครอบครัวชนชั้นกลาง ดัชเชสได้ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจด้านสาธารณชนต่างๆ มากมายและเป็นที่รู้จักกันว่า ''"ดัชเชสผู้แย้มยิ้ม"'' อันเป็นผลมาจากการปรากฏองค์ต่อหน้าสาธารณชนอยู่เป็นประจำ
บรรทัด 70:
== สมเด็จพระราชชนนี (พ.ศ. 2495 - พ.ศ. 2545) ==
=== บทบาทใหม่ในความเป็นหม้าย ===
เมื่อวันที่ [[6 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2495]] สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 6 เสด็จสวรรคตด้วยพระโรคมะเร็งที่บัปผาสะ หลังจากนั้นไม่นานสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น "สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระ
พระองค์ทรงโทมนัสกับการเสด็จสวรรคตของพระราชสวามีเป็นอย่างมากและได้ทรงปลีกพระองค์ไปประทับยังสก็อตแลนด์ แต่กระนั้นหลังจากการพบปะกับนายวินส์ตัน เชอร์ชิลล์ นายกรัฐมนตรีแล้วก็ทรงเลิกเก็บพระองค์อยู่โดดเดี่ยวและเสด็จกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจเช่นเดิม ในที่สุดพระองค์ก็ทรงงานมากมายในฐานะพระราชชนนีอย่างที่เคยทรงกระทำในสมัยเป็นพระราชินี ในช่วงเดือนกรกฎาคม [[พ.ศ. 2496]] พระองค์เสด็จเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกตั้งแต่งานพระราชพิธีศพของพระราชสวามีไปในการวางฐานเสาหินที่เมือง Mount Pleasant ซึ่งเป็นที่ตั้งของ[[มหาวิทยาลัยซิมบับเว]]ในปัจจุบัน
บรรทัด 83:
ในช่วงปลายพระชนม์ชีพ สมเด็จพระราชชนนีทรงเป็นที่รู้จักในเรื่องของพระชนมายุที่ยืนยาว งานเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 100 พรรษาจัดขึ้นในหลายรูปแบบ เช่น ขบวนพาเหรดที่เฉลิมฉลองเหตุการณ์สำคัญในพระชนม์ชีพของพระองค์ การร่วมแสดงของ[[นอร์แมน วิสด็อม]]และ[[จอห์น มิลส์]] พระองค์ทรงร่วมเสวยพระกระยาหารกลางวันที่[[ศาลาว่าการกิลด์ฮอล]] กรุง[[ลอนดอน]] กับ [[จอร์จ คาเรย์]] [[อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี]] ซึ่งพยายามจะดื่มไวน์ในแก้วของพระองค์โดยบังเอิญ แต่การรีบห้ามของพระองค์โดยตรัสว่า ''"นั่นของเรานะ"'' ได้สร้างความขบขันไปทั่ว
ในเดือนธันวาคม [[พ.ศ. 2544]] สมเด็จพระ
== สวรรคต ==
ในวันที่ [[30 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2545]] เวลา 15.30 นาฬิกา สมเด็จพระ
พระองค์ทรงปลูกดอกชาในทุกอุทยานของพระองค์ และด้วยพระบรมศพของพระองค์ถูกนำมาจากตำหนักรอยัลล็อดจ์ เมืองวินด์เซอร์เพื่อตั้งไว้ให้พสกนิกรมาสักการะที่[[ห้องโถงใหญ่เวสต์มินสเตอร์]] ดอกชาจากอุทยานของพระองค์จึงถูกนำมาวางบนโลงพระบรมศพคลุมด้วยธงชาติอังกฤษ พสกนิกรจำนวนมากกว่าสองแสนคนเรียงแถวมาถวายสักการะพระบรมศพเพราะว่าโลงพระบรมศพตั้งอยู่ในห้องโถงใหญ่เวสต์มินสเตอร์ ใน[[อาคารรัฐสภา]]เป็นเวลาสามวัน ในช่วงเวลานั้นโลงพระบรมศพจะมีทหารม้าของสำนักพระราชวังและจากเหล่าทัพอื่นคุ้มกันอยู่ พระภาติยะทั้งสี่พระองค์คือ [[เจ้าชายชาลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์]] [[เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก]] [[เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแห่งเวสเซ็กส์]] และ[[ไวส์เค้านท์ลินเลย์]] ได้ประทับยืนคุ้มกันอยู่สี่มุมของโลงพระบรมศพที่จุดหนึ่ง นอกจากนี้ยังมี[[เจมส์ บลันท์]] พนักงานหน่วยกู้ชีวิตหนุ่ม ซึ่งต่อมากลายเป็นนักร้องชื่อดัง ร่วมยืนแบกโลงพระศพในช่วงเวลาหนึ่งด้วยเหมือนกัน
บรรทัด 100:
* [[พ.ศ. 2479]] - [[พ.ศ. 2481]]: สมเด็จพระราชินี-จักรพรรดินี (Her Majesty The Queen-Empress)
* [[พ.ศ. 2481]] - [[พ.ศ. 2495]]: สมเด็จพระราชินี (Her Majesty The Queen)
* [[พ.ศ. 2495]] - [[พ.ศ. 2545]]: สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ พระ
=== เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ===
|