ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยบรูเนล"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
{{Infobox university
|name = มหาวิทยาลัย
|latin_name =
|image_name = ตราสัญลักษณ์บรูเนล.svg
บรรทัด 21:
}}
'''มหาวิทยาลัย
เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2554 มหาวิทยาลัยได้จดสิทธิบัตรครีเอทีฟบาร์โค้ด (Creative Barcode) ซึ่งเป็นรหัสแท่งธรรมดาแต่เปลี่ยนรูปทรงภายนอกให้เป็นไปตามใจผู้สร้างสรรค์<ref>[http://www.creativebarcode.com/newsitem?item=35 "Brunel University back pioneering safe-disclosure and IP management system taking the lead on behalf of the HEI sector" Creative Barcode press release, 7 June 2011]</ref>
บรรทัด 30:
มหาวิทยาลัยบรูเนลจัดเป็นมหาวิทยาลัยรุ่นใหม่ หรือที่เรียกกันว่า "มหาวิทยาลัยเล่นกระจก" (plate glass universities) ซึ่งได้ชื่อนี้มาจากสถาปัตยกรรมอาคารสมัยใหม่ที่เน้นการติดกระจกที่ผนังด้านนอกและซ่อนโครงสร้างไว้ภายใน สถาปัตยกรรมส่วนมากในมหาวิทยาลัยนอกจากจะใช้กระจกเป็นส่วนประกอบแล้ว ยังมีรายละเอียดทางศิลปะค่อนข้างน้อย แข็งกระด้าง เน้นประโยชน์ใช้สอย ซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบบรูทัลลิสต์ (Brutalist)
ในชั้นแรกมหาวิทยาลัยยังมีสถานะเป็นวิทยาลัยเทคนิคชื่อ วิทยาลัยเทคนิคแอกตัน (Acton Technical College) ตั้งที่ตำบลแอกตัน อำเภออีลิง (Ealing) กรุงลอนดอน ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 วิทยาลัยได้มีส่วนงานที่แยกออกไปคือวิทยาลัยเทคโนโลยีบรูเนล (Brunel College of Technology) เพื่อให้การศึกษาแก่วิศวกรควบคุม ส่วนวิทยาลัยเทคนิคแอกตันเดิมลดการสอนเหลือสอนเฉพาะช่างเทคนิคและช่างฝีมือเท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2505 วิทยาลัยเทคโนโลยีบรูเนลยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยเทคโนโลยีชั้นสูงบรูเนล [[College of Advanced Technology (
พร้อมกันนั้นเอง วิทยาลัยได้ย้ายที่ตั้งจากเดิมมาตั้งที่ตำบลอักซบริดจ์ ท้ายกรุงลอนดอน โดยซื้อที่ดินที่เคยเป็นทางรถไฟสายเหนือเดิมของบริษัทเกรตเวสเทิร์น (Great Western) จากเทศบาลในราคา 65,000 ปอนด์<ref>{{cite web |url=http://www.brunel.ac.uk/__data/assets/pdf_file/0006/26547/Annual_Report_2005.pdf |title=Annual Report 2005 |year=2005 |publisher=Brunel University |accessdate=5 May 2011}}</ref> เมื่อวิทยาลัยดำเนินกิจการไปได้สักระยะก็ได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2509 กิจการของมหาวิทยาลัยที่ตำบลแอกตันดำเนินไปด้วยดี จนกระทั่ง พ.ศ. 2514 ก็ได้ย้ายมารวมกันที่ตำบลอักซบริดจ์
| |||