ผลต่างระหว่างรุ่นของ "หง ซิ่วเฉฺวียน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
Aristitleism ย้ายหน้า หง ซิ่วฉวน ไปยัง หง ซิ่วเฉฺวียน
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
{{เก็บกวาด-นิยาย}}
[[ไฟล์:20050905140943 01.jpg|thumb|250px|right|รูปวาดของหง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียน]]
 
'''หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียน''' ({{zh|c=洪秀全|p=Hóng Xiùquán}}) ผู้นำกบฏ[[เมืองแมนแดนสันติ]] เกิดในครอบครัวชาวนาเชื้อสายจีน[[แคะ]] ในหมู่บ้านกวนลู่ผู่ อำเภอฮัวเสี้ยน [[มณฑลกวางตุ้ง]] เมื่อปี [[พ.ศ. 2356]] ตรงกับ[[รัชกาลที่ 2]] ของ[[ไทย]] [[ปีระกา]]
หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนได้ศึกษาตำรา[[ขงจื๊อ]] เพื่อสอบเข้ารับราชการเช่นเดียวกับชายหนุ่มทั่วไปในสมัยนั้น และสอบไล่เป็น ซิ่วไฉ (บัณฑิตระดับต้น) ที่เมือง[[กวางเจา]]ถึงสามครั้ง ก็ไม่ผ่าน
ในการไปสอบ ซิ่วไฉครั้งที่สอง หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนได้พบกับนักสอนศาสนาชาวตะวันตก และได้รับแจกหนังสือภาษาจีนอธิบายเกี่ยวกับ[[ศาสนาคริสต์]]จากนักสอนศาสนาผู้นั้นมาเล่มหนึ่ง หนังสือนั้นชื่อว่า "สุนทรกถาเพื่อปลุกเร้ายุคสมัย" เขียนโดยชาวจีนชื่อ เหลียงอาฝา เหลียงอาฝาเป็นผู้ช่วยของ โรเบิร์ต มอริสัน มิชชันนารีชาว[[อังกฤษ]] ผู้เดินทางมาเผยแพร่[[นิกายโปรเตสแทนท์]]ในประเทศจีนเป็นคนแรก
หนังสือเล่มนี้ยังไม่มีอิทธิพลต่อหง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียน จนเมื่อสอบตกเป็นครั้งที่สาม หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนล้มป่วยหนักเจียนตายอยู่ 40 วัน ระหว่างป่วยเกิดนิมิตว่า ถูกนำไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง มีแสงสว่างจ้า เขาถูกเปลี่ยนอวัยวะภายใน แล้วถูกนำไปพบกับ ผู้เฒ่าสวมเสื้อคลุมดำ ผู้เฒ่ามอบดาบวิเศษให้เขาเพื่อประหาร[[ปีศาจ]]ร้ายให้หมดสิ้น และผู้เฒ่านั้นได้ด่าบริภาษขงจื๊อมากมาย ซึ่งเมื่อหายป่วยแล้วหง ซิ่วฉวนเชื่อว่าซิ่วเฉฺวียนเชื่อว่า ผู้เฒ่านั้นคือพระเจ้าและตัวเขาเองเป็นพระอนุชาของพระเจ้า เป็นพระเชษฐาของ[[พระเยซู]]คริสต์ และพระผู้เป็นเจ้าได้มอบหมายให้เขากำจัดปีศาจร้ายให้หมด นั่นคือ [[ราชวงศ์ชิง]]นั่นเอง
หลังจากนั้น หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนก็ได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน มีคุณลักษณะของผู้นำมากขึ้น เขาหันมาสนใจหนังสือ "สุนทรกถาเพื่อปลุกเร้ายุคสมัย" ของเหลียงอาฝา จนในที่สุด เขาก็สร้างลัทธิความเชื่อแบบของเขาขึ้นมาชุดหนึ่ง ทำการเผยแพร่จนมีผู้คนเชื่อถือตามมากขึ้นเรื่อยๆ
หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนสร้างลัทธิของเขาว่า พระผู้เป็นเจ้าส่งเขาลงมาโลกมนุษย์พร้อมด้วยดาบเพื่อสังหารปีศาจร้าย คริสต์ศาสนาแต่เดิมเป็นคำสอนทางศาสนาของชาวจีน เคยแพร่หลายมาก่อนลัทธิขงจื๊อ อาณาจักรจีนเดิมเป็นที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า หากแต่ปัจจุบันพวกปีศาจร้ายเข้ามาครองครอง พระผู้เป็นเจ้ามีประกาศิตให้หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนมาปราบปีศาจร้าย โดยจุดสำคัญคือเรื่องความเสมอภาค ภราดรภาพ ตามอุดมคติของคริสต์ศาสนา ซึ่งเป็นแนวความคิดใหม่ที่โดนใจทาสกสิกรที่ถูกศักดินากดขี่ขูดรีดอย่างทารุณ
หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนไปเผยแพร่ลัทธิในเขตชาวจีนแคะที่ลำบากยากจนตามภูเขาใน[[มณฑลกวางสี]] และได้สหายร่วมอุดมการณ์สำคัญสี่คนซึ่งก็ล้วนเป็นคนจีนแคะทั้งสิ้น คือ หยาง ซิ่วชิง-คนเผาถ่าน, เซียวเฉากุ้ย-คนตัดฟืน, ซือต๋าไค-หนุ่มลูกชายเจ้าที่ดิน และวุ่ยจางฮุย-เจ้าที่ดินและนายทุนเงินกู้ ผู้ออกทุนในการเตรียการลุกขึ้นสู้ถึงหนึ่งแสนตำลึง ทั้งสี่คนนี้ภายหลังเป็นแม่ทัพคนสำคัญของกบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว
หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนตระเตรียมฐานที่มั่นของกองทัพไว้แถบภูเขาจื่อจิงซาน มีกำลังพลนับหมื่นคน ทางราชสำนักแมนจูจึงส่งกองทัพไปปราบในช่วงเดือน[[ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2393]] แต่ก็พ่ายแพ้ และในครั้งนี้มีชนพื้นเมือง เช่น ชาวจ้วง ชาวม้ง ร่วมกบฏด้วย
[[ไฟล์:Imageกบฏ.jpg|frame|รูปวาดการปราบกบฏไท่ผิงเทียนกั๋วโดยมีหง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนเป็นผู้นำ]]
กองกำลังสมาคมบูชาพระเจ้า (ไป้ส้างตี้หุ้ย) ของหง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนรบชนะกองทัพหลวง ก็เลยประกาศสถาปนา "ไท่ผิงเทียนกั๋ว" (太平天国) (เมืองแมนแดนสันติ) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ไท่ผิง (太平) ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ในอุดมคติ หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนสถาปนาตัวเองเป็น "เทียนหวาง "(ราชาแห่งสวรรค์) ประกาศยกเลิกประเพณีเก่า ๆ ที่เป็นการลิดรอนสิทธิมนุษยชนและขัดต่อศาสนาคริสต์ เช่น การรัดเท้าผู้หญิง,การมี[[โสเภณี]], การสูบ[[ฝิ่น]], การกราบไหว้บูชารูปเคารพ เป็นต้น และได้ยกพลสามหมื่นบุกเข้าโจมตีเมืองต่างๆ แถบกวางสีและกวางตุ้ง ได้รับชัยชนะยึดได้เมืองต่างๆ มากขึ้น
จนกระทั่งสามารถตีนคร[[นานกิง|หนานจิง]] ตั้งเป็นเมืองหลวงใช้ชื่อว่า "เทียนจิง" (เมืองสวรรค์) ตั้งสหายร่วมรบคนอื่น ๆ เป็น "หวาง" ([[อ๋อง]]) มากมายหลายคน แล้วหง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนก็วางมือ ไม่ค่อยยุ่งกับการบริหารดูแลบ้านเมือง ปล่อยให้หวางคนอื่น ๆ รับหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้กบฏไท่ผิงต้องล้มสลายในที่สุด เนื่องจากบรรดาหวางทั้งหลายชิงดีชิงเด่นกัน ต่างคนก็พยายามช่วงชิงผลประโยชน์ส่วนตัวให้ได้มากที่สุดและหนักสุดถึงขนาดฆ่ากันเอง ในขณะที่ตัวผู้นำคือ หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียน ก็ได้วางมือเร็วไปก่อนเวลา ท้ายสุดในปี [[พ.ศ. 2407]] กบฏไท่ผิงก็ถึงจุดล่มสลายเมื่อพ่ายแพ้อย่างราบคาบต่อราชสำนักที่ผสมกำลังปราบปรามร่วมกับกำลังของชาติตะวันตกที่มีผลประโยชน์กับจีน เช่น อังกฤษ, [[ฝรั่งเศส]] และหง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนได้ฆ่าตัวตาย เมื่อ [[พ.ศ. 2407]] มีกบฏล้มตายเป็นจำนวนถึง 30 ล้านคน
ในช่วงปี พ.ศ. 2393 ถึง [[พ.ศ. 2399]] นับเป็นช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดของกลุ่มกบฏไท่ผิง นอกจากยึดนานกิงเป็นศูนย์กลางอำนาจได้แล้ว ยังได้ครอบครองดินแดนทั้งหมดของมณฑล[[เจียงซี]] [[อันฮุย]] และส่วนใหญ่ของ[[มณฑลหูเป่ย์]]
บรรทัด 27:
ปัจจุบัน นักวิชาการร่วมสมัยวิเคราะห์ถึงการล่มสลายว่าเป็นเพราะกลุ่มกบฏซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวนา ไม่มีเจตจำนงทางอุดมการณ์หรืออุดมคติอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตัวเท่านั้น และเมื่อได้ผลประโยชน์แล้วแนวทางที่ดำเนินการอยู่ก็ได้ล้มเลิกไป
 
เรื่องราวของหง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ ดร.[[ซุน ยัตเซ็น ]] ในการปฏิวัติการปกครองด้วยในเวลาต่อมา โดยในระยะแรก ๆ มีบางคนกลาวว่า ดร.ซุน ยัตเซ็น คือ หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียนคนที่สองด้วยซ้ำ
 
เรื่องราวของหง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียน ได้ถูกเล่าขานต่อมาจนถึงปัจจุบัน และได้ถูกแต่งแต้มสีสันต่อเติมมามากมาย และเชื่อว่า [[หง ซีกวน|หงซีกวน]] วีรบุรุษในนิยายหรือ[[ภาพยนตร์กำลังภายใน]][[วัฒนธรรมสมัยนิยม|ยุคร่วมสมัย]]นี้ ก็คือ หง ซิ่วฉวนซิ่วเฉฺวียน นี่เอง
 
==อ้างอิง==