ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รัฐยะโฮร์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 79:
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 (ราวพุทธศตวรรษที่ 24) ชาวเผ่าบูกิส (Bugis) จาก[[เกาะซูลาเวซี]] และชาวเผ่า[[มีนังกาเบา]] (Minangkabau) จากเกาะสุมาตรา ได้เข้าควบคุมอำนาจในจักรวรรดิยะโฮร์-รีเยา แต่อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นคริสตศตรรษที่ 19 (กลางพุทธศตวรรษที่ 24) ชาวมาเลย์กับชาวบูกิส แข่งขันกันมีอำนาจในบริเวณนี้ ต่อมาในปี [[ค.ศ. 1819]] ([[พ.ศ. 2362]]) จักรวรรดิยะโฮร์-รีเยา ได้แยกออกเป็น 2 อาณาจักร คือ อาณาจักรยะโฮร์ ซึ่งปกครองโดยชาวเตเมงกอง (Temenggong) และรัฐสุลต่านรีเยา-ลิงกี (Sultanate of Riau-Linggi) ซึ่งปกครองโดยชาวบูกิส และจุดนี้เองที่ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์รัฐยะโฮร์ปัจจุบัน
ในปี ค.ศ. 1855 (พ.ศ. 2397) ภายใต้สนธิสัญญาที่ทำกันระหว่างอังกฤษซึ่งขณะนั้นปกครองสิงคโปร์อยู่ กับสุลต่านอาลีแห่งยะโฮร์ ทำให้พระองค์ทรงต้องยอมยกอำนาจการปกครองรัฐให้แก่ ดาโต๊ะ เตเมงกอง ดาอิง อิบราฮิม (Dato' Temenggong Daing Ibrahim) ยกเว้น[[พื้นที่เกซัง]] (Kesang area) หรือ
[[สุลต่านอาบู บาการ์ แห่งรัฐยะโฮร์]] (ค.ศ. 1864 - 1895 หรือ พ.ศ. 2407 - 2438) ทรงเป็นผู้พระราชทานรัฐธรรมนูญให้แก่รัฐยะโฮร์ และทรงปฏิรูประบบการบริหารราชการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังทรงสร้างพระราชวังประจำองค์สุลต่าน ซึ่งมีชื่อว่า อิสตานา เบซาร์ (Istana Besar) เนื่องจากพระองค์ทรงทำให้รัฐมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก พระองค์จึงทรงพระนามอีกพระนามหนึ่งว่า "พระบิดาแห่งรัฐยะโฮร์ใหม่" และมีการสร้างอนุสาวรีย์ของพระองค์ขึ้นที่ริมฝั่งทะเล ตรงข้ามกับศาลยุติธรรม เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อรัฐ
ความต้องการ[[พริกไทยดำ]] กับสีเสียดที่เพิ่มมากขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 (ราวพุทธศตวรรษที่ 24) ทำให้มีการเปิดพื้นที่ทำเกษตรกรรมเพิ่มมากขึ้น และเป็นเหตุให้มีแรงงานจีนอพยพเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือได้ว่าเป็นรากฐานเศรษฐกิจของรัฐยะโฮร์เลยทีเดียว และในปี ค.ศ. 1914 (พ.ศ. 2457) ภายใต้ระบบผู้สำเร็จราชการของอังกฤษ ทำให้[[สุลต่านอิบราฮิม]] ผู้ครองราชบัลลังก์ต่อจากสุลต่านอาบู บาการ์ ทรงต้องจำใจยอมรับนาย ดี. จึ. แคมป์เบลล์ (D. G. Campbell) เข้าเป็นที่ปรึกษาราชการ นับเป็นชาวอังกฤษคนแรกที่ได้เป็นที่ปรึกษาราชการของรัฐยะโฮร์
เมืองยะโฮร์บาห์รู เป็นเมืองสุดท้ายแหลมมลายู ที่ถูกชาวญี่ปุ่นเข้ายึดครองในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] จากนั้นในปี [[ค.ศ. 1948]] ([[พ.ศ. 2491]]) รัฐยะโฮร์ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกของ "[[สหพันธรัฐมลายา]]" ซึ่งต่อมาได้รับเอกราชจาก[[อังกฤษ]]ในปี [[ค.ศ. 1957]] ([[พ.ศ. 2500]])
|