ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาสงครามซู ค.ศ. 1876"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Itpcc (คุย | ส่วนร่วม)
→‎พลรบ: ครบ
Itpcc (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 26:
นักรบของดาโกตาซูจำนวน 7 กองในทศวรรษ 1870 อยู่ที่ประมาณ 15,000 นาย ซึ่งมีทั้งชาย หญิง และเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณสงวนให้เซอุกส์และเป็นพลเรือน สายข่าวชาวอินเดียนกล่าวในเดือนพฤศจิกายน 1875 ว่า มีชาวอินเดียนอาศัยในพื้นที่ดังกล่าว "ที่เป็นนักรบมีไม่กี่ร้อยคน"<ref>Textor, Lucy E. ''Official Relations between the United States and the Sioux Indians'', Palo Alto: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด, 2439, หน้า 120</ref> นายพลครูกประเมินว่าเขาอาจเผชิญกับนักรบมากถึง 2,000 คน<ref>Hatch, Thom ''The Custer Companion'' Mechanicsburg, PA: Stackpole Books, 2545, หน้า 218.</ref> ชาวเซอุกส์ที่ยังคงอยู่ในพื้นที่นั้นในช่วงที่เกิดสงครามเป็นชาวโอกลาลาและฮันค์ปาปา มีจำนวนทั้งหมดประมาณ 5,500 คน<ref>Bray, Kingsley, "Teton Sioux: Population History, 1655-1881" ''Nebraska History'', Summer 2537, หน้า 175</ref> ในจำนวนนี้เมื่อรวมชาวไชแอนเหนือประมาณ 1,500 คนและชาวอาปาโฮแล้ว ชาวอินเดียนที่ไม่เป็นมิตรต่ออเมริกันจากทั้งหมด 7,000 คนโดยประมาณจึงมีนักรบได้มากถึง 2,000 นาย ส่งผลให้มีนักรบชาวอินเดียนเข้าร่วมการต่อสู้ใน[[ยุทธการที่ลิตเติลบิกฮอร์น]]ระหว่าง 900 ถึง 2,000 คน<ref>[http://www.nationalparkstraveler.com/2011/06/numbers-little-bighorn-battlefield-national-monument8258 "By the Numbers: Little Bighorn Battlefield National Monument"], เข้าถึงเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2556</ref>
 
ชาวอินเดียนมีข้อได้เปรียบในด้านการเคลื่อนที่ที่รวดเร็วและความชำนาญภูมิประเทศ แต่ชาวอินเดียนทั้งหมดล้วนเป็นนักรบเฉพาะกาล ในฤดูใบไม้ผลิ พวกเขามักอยู่กับที่กับเหล่าม้าเพื่อความอยู่รอดตลอดฟดูฤดูหนาวอันยาวนาน ในขณะที่ฟดูฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงก็ใช้เวลาไปกับการล่า[[กระบือ]]เพื่อเลี้ยงชีพครอบครัว นักรบชาวอินเดียนกึ่งหนึ่งติดอาวุธปืนคาบศิลาที่ค่อนข้างเก่า ที่เหลือติดธนูและหอก ซึ่งหอกของชาวอินเดียนถูกออกแบบมาเพื่อการต้อนฝูงม้าและสังหารในระยะใกล้ แต่แทบจะใช้ประโยชน์ไม่ได้เมื่อใช้สังหารศัตรูที่อยุ่อยู่ไกลหรือมีการป้องกันเป็นอย่างดี นักรบอินเดียนใช้การต่อสู้แบบดั้งเดิมเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของแต่ละคนเองมากกว่าการต่อสู้ต่อเป้าหมายอย่างมียุทะศาสตร์ ถึงแม้ว่าเครซีฮอร์สจะปลูกฝังความคิดในการสมานฉันท์กันระหว่างชาวเซอุกซ์ด้วยกันก็ตาม ในขณะที่ไชแอนมีความเป็นเอกภาพและมีการจัดการที่ดีที่สุดในเหล่าอินเดียนราบด้วยกัน ทำให้ทั้งชาวเซอุกซ์และไชแอนอยู่ในสงครามอย่างยาวนาน โดยมีคู่สงครามที่มีความแค้นฝังลึกอย่างยาวนานอย่างชาวคราวและโชชอนคอยตัดเสบียงอยู่เรื่อยๆ
 
ในการต่อสู้ที่เซอุกส์ กองทัพอเมริกันสร้างป้อมล้อมรอบพื้นที่สงวนให้เซอุกส์และพื้นที่ใกล้เคียง กองทัพที่ใหญ่ที่สุดในการประจัญหน้ากับชาวอินเดียนที่เกิดขึ้นในฤดูร้อน ค.ศ.1876 บริเวณที่ที่พื้นที่สงวนให้ดังกล่าว ประกอบด้วยทหารประมาณ 2,500 นาย เหล่าแมวเซาและพลเรือนอีกนับร้อยคน<ref>[http://www.lib.utexas.edu/maps/historical/atlas_of_the_sioux_wars-2006-pt2.pdf "Map 17" ''Atlas of the Sioux Wars''], สืบค้นเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2556</ref> ทหารส่วนมากเดิมเป็นผู้อพยพและไร้ประสบการในการสู้รบตามแนวชายแดน ทั้งยังใช้การรบในรูปแบบอินเดียนดั้งเดิม<ref>Barnard, Sandy, Digging into Custer's Last Stand. Huntington Beach, California: Ventana Graphics, 2540. ISBN 0-9618087-5-6, หน้า121-136</ref> ในขณะที่กองทัพทหารม้าของสหรัฐอเมริกาติดอาวุธปืนคาลิเบอร์ .45 รีวอลเวอร์จังหวะเดียวและสปริงฟิลด์แบบ 1873 ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลจังหวะเดียวและโหลดกระสุนจากพานท้ายปืน ซึ่งช่วยให้ทหารอเมริกาได้เปรียบอย่างมากจากระยะการยิงที่เหนือกว่าอาวุธของชาวอินเดียน
 
==อ้างอิง==