ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไทร์ (ประเทศเลบานอน)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata
Dolkungbighead (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 48:
'''ไทร์''' ([[Arabic language|อาหรับ]]: {{unicode|صور}}, ''{{unicode|Ṣūr}}''; [[Phoenician languages|ฟีนิเซีย]]: <span dir="rtl">[[ไฟล์:Phoenician sade.svg|12px|צ]][[ไฟล์:Phoenician waw.svg|12px|ו]][[ไฟล์:Phoenician res.svg|12px|ר]]</span>, ''{{unicode|Ṣur}}''; {{lang-he-n|צוֹר}}, ''Tzor''; [[Tiberian Hebrew]] {{unicode|צר}}, ''{{unicode|Ṣōr}}''; [[Akkadian language|อัคคาเดียน]]: 𒋗𒊒 '''{{unicode|Ṣurru}}'''; [[Greek language|กรีก]]: '''{{unicode|Τύρος}}''', ''Týros''; {{lang-tr|Sur}}; {{lang-la|Tyrus}}; {{lang-en|Tyre}}) เป็นเมืองใน[[เขตผู้ว่าเลบานอนใต้]] ทางตอนใต้ของ[[ประเทศเลบานอน]] มีประชากรราว 117,000 คน ในปี ค.ศ. 2003<ref>[http://www.citypopulation.de/Lebanon.html Lebanon – city population]</ref> ไทร์ตั้งอยู่บนฝั่ง[[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน]] อยู่ห่างจาก[[เบรุต]]ทางตอนใต้ราว 80 กิโลเมตร ชื่อของเมืองมีความหมายว่า หิน<ref>(Bikai, P., "The Land of Tyre", in Joukowsky, M., ''The Heritage of Tyre'', 1992, chapter 2, p. 13)</ref>
 
ไทร์เป้นไทร์เป็นเมืองสำคัญของ[[อาณาจักรฟินิเซีย]] ตั้งแต่ประมาณ 1,100-600 ปีก่อนคริสต์ศักราช ในสมัยโบราณได้รวมเกาะซึ่งมีอ่าวจอดเรือ 2 แห่ง ปัจจุบันกลายเป็นคาบสมุทรเนื่องจาก[[พระเจ้าอะเล็กซานเดอร์มหาราชแห่งมาซิโดเนีย]]ทรงขยายทางข้ามเกาะใน[[คริสต์ศตวรรษที่ 4]] เป็นเมืองศูนย์กลางการค้ามานานหลายศตวรรษ เป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและมหาอำนาจทางทะเลของชาวฟินีเซีย มีชื่อเสียงในการผลิตผ้าไหม มีการกล่าวถึงเมืองนี้ในคัมภีร์[[ไบเบิล]]ในรัชสมัยของ[[กษัตริย์ไฮแรม]] (969-936 ปีก่อนคริสต์ศักราช) ถูกชนชาติต่าง ๆ เข้าครอบครองเรื่อยมาจนใน[[คริสต์ศตวรรษที่ 7]] ตกเป็นของพวก[[มุสลิม]] ใน ค.ศ. 1124 พวกนักรบครูเสดได้เข้ายึดเมืองและกลายเป็นเมืองหลักของ[[อาณาจักรเยรูซาเลม]] จนตกเป็นของมุสลิมอีกครั้งใน ค.ศ. 1291
 
ไทร์ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศเลบานอน<ref>[http://tyros.leb.net/tyre/ Tyre City, Lebanon]</ref> เป็นท่าเรือที่สำคัญของประเทศ มีอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มีเมืองโบราณมากมายหลายแห่ง รวมถึงสนามกีฬาโรมันโบราณ ที่ติดอยู่ในรายชื่อ[[มรดกโลก]]ของ[[ยูเนสโก]]ในปี ค.ศ. 1979