ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อีซูซุ อาสก้า"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Apple1968 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Apple1968 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 5:
| ลักษณะ = ซีดาน 4 ประตู
| รุ่นก่อนหน้า = [[อีซูซุ ฟลอเรี่ยน]]
| รุ่นต่อ = ยังไม่มี
| เครื่องยนต์ =
| ชิ้นส่วนเดียวกับ = [[ซูบารุ เลกาซี]]<br>[[ฮอนด้า แอคคอร์ด]]
บรรทัด 11:
}}
 
'''อีซูซุ อาสก้า''' ({{lang-en|Isuzu Aska}}) เป็น[[ประเภทของรถยนต์|รถยนต์นั่งขนาดกลาง]] (Mid-Size Car) ที่ผลิตโดย[[อีซูซุ]] เริ่มการผลิตในปี [[พ.ศ. 2526]] โดยใช้แพลตฟอร์มร่วมกับซูบารุ เลกาซี และฮอนด้า แอคคอร์ดตามลำดับ ออกมาเพื่อทดแทน[[อีซูซุ ฟลอเรี่ยน]] ({{lang-en|Isuzu Florian}}) ที่ยุติการผลิตไปเมื่อปี [[พ.ศ. 2526]] และอาสก้าได้เลิกขายผลิตและวางจำหน่ายเมื่อปี [[พ.ศ. 2545]] โดยไม่มีรถรุ่นใหม่เข้ามาทดแทน เนื่องจากอีซูซุเลิกทำตลาดรถยนต์นั่งอย่างถาวรแล้ว โดยเลิกผลิตรถยนต์นั่งด้วยตนเองตั้งแต่ปี [[พ.ศ. 25362535]] เนื่องจากการขาดทุนสะสมต่อเนื่อง และหลังจากนั้นก็มีการพึ่งพาฮอนด้าให้ผลิตรถยนต์นั่งขายมาโดยตลอด และอีซูซุก็ได้ส่งรถเอนกประสงค์และรถกระบะไปให้ฮอนด้าขายเช่นเดียวกัน และยังพึ่งพานิสสันให้ผลิตรถเอนกประสงค์ขายด้วย จนในปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างอีซูซุกับฮอนด้าและนิสสันได้สิ้นสุดลงแล้ว
 
== รุ่นที่ 1 ([[พ.ศ. 2526]]-[[พ.ศ. 2532|2532]]) ==
[[ไฟล์:JJ120 ASKA irmscher.jpg|250px|thumbnail|left|อีซูซุ อาสก้า รุ่นที่ 1]]
อีซูซุ อาสก้า รุ่นที่ 1 เริ่มผลิตเมื่อปี [[พ.ศ. 2526]] ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ GM (แบบ J-Car) มีตัวถังแบบเดียวคือซีดาน 4 ประตูเท่านั้น (เนื่องจากรุ่นเก่าอย่างฟลอเรี่ยน เคยทำตัวถังสเตชันวากอนออกมาแล้วขายไม่ดี) ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า มีเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 และ 2.0 ลิตร และมีรุ่นเทอร์โบในรุ่น 2.0 ลิตรด้วย และเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 4 และ 5 สปีด เกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด และเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 3 สปีด
 
ในช่วงแรก อาสก้าวางจำหน่ายโดยใช้ชื่อ '''อีซูซุ ฟลอเรี่ยน อาสก้า''' ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อให้สั้นลง เป็น '''อีซูซุ อาสก้า''' และเป็นอาสก้ารุ่นเดียวที่พัฒนาเอง ร่วมกับ[[เจนเนอรัล มอเตอร์ส]]
 
ใน[[ประเทศไทย]] บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เคยนำอาสก้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เมื่อเดือนมิถุนายนปี [[พ.ศ. 2527]] โดยเปิดตัวที่[[เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว]] (โรงแรมไฮแอท เซ็นทรัลพลาซา ซึ่งปัจจุบันคือ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว) และในภาพยนตร์โฆษณาของอาสก้าในประเทศไทยก็ถ่ายทำที่เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าวเช่นกัน แต่เป็นตึก[[โรงแรม]] ไม่ใช่[[ห้างสรรพสินค้า|ห้าง]] มี 2 รุ่นคือ LT 1.8 ลิตร และ LX 2.0 ลิตร และอีซูซุยังเคยจัดแรลลี่อาสก้าทั่วไทยด้วยปรับโฉม แต่ไม่ประสบความสำเร็จMinorchange เพราะส่วนใหญ่รถที่ขายดีของอีซูซุในไทยเมื่อปี มักจะเป็นรถกระบะ[[พ.ศ. และคู่แข่ง2529]] ก่อนจะเลิกจำหน่ายในสมัยนั้นรูปทรงสวยกว่าปี ไฮเทคกว่า[[พ.ศ. 2531]] เนื่องจากการแข่งขันในราคาเท่ากันตลาดรถยนต์นั่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อาสก้าจากญี่ปุ่นมาจำหน่ายทำให้ต้นทุนสูงขึ้น อีซูซุเองก็ไม่สามารถหาซื้อรถมือสองยืนหยัดในการแข่งขันได้ง่ายๆ โดยรถรุ่นนี้ในราคาถูกสมัยนั้นพอจะขายได้ แต่หายากมากและมีกลุ่มลูกค้าที่อยากได้อยู่
{{clear}}
== รุ่นที่ 2 ([[พ.ศ. 2533]]-[[พ.ศ. 2536|2536]]) ==
[[ไฟล์:Isuzu Aska 12875.jpg|250px|thumbnail|right|อีซูซุ อาสก้า รุ่นที่ 2]]
อีซูซุ อาสก้า รุ่นที่ 2 เริ่มผลิตเมื่อปี [[พ.ศ. 2533]] โดยรุ่นนี้ทางอีซูซุได้ใช้แพลตฟอร์มเดียวกันกับสั่งซื้อ[[ซูบารุ เลกาซี]] มาจำหน่ายในยี่ห้อของตัวเอง ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เนื่องจากใช้แพลตฟอร์มผลิตร่วมกับซูบารุ เลกาซี ซึ่งใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออยู่แล้ว มีเครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตร โดยที่ไม่มีรุ่นเทอร์โบแต่อย่างใด ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
 
อย่างไรก็ตาม ในปี [[พ.ศ. 2534]] เป็นปีที่[[ประเทศญี่ปุ่น]]ประสบปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้ยอดขายรถยนต์ต่ำลง อีซูซุที่มีรายได้จากการขายรถยนต์นั่งเพียง 10% และมีส่วนแบ่งการตลาดน้อยมาก อาสก้ารุ่นที่ 2 ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ก็เริ่มถอดใจกับตลาดรถยนต์นั่ง จนมีข่าวลือจากสื่อมวลชนด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ว่าอีซูซุกำลังตัดสินใจเลิกผลิตรถยนต์นั่ง แล้วในที่สุดอีซูซุก็ทำเช่นนั้นจริงๆ ใน[[เดือนกรกฎาคม]] ปี [[พ.ศ. 2535]] โดยอีซูซุประกาศถอนตัวจากการแข่งขันในตลาดรถยนต์นั่ง เพื่อไปทุ่มเทให้กับตลาดที่ตนเองถนัดและประสบความสำเร็จคือ ตลาดรถกระบะ รถเอนกประสงค์ รถบรรทุก รถบัส และการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลอันเป็นงานที่สร้างกำไรให้พวกเขามากกว่า
 
นับเป็นการปิดตำนานอีซูซุในฐานะผู้ผลิตรถยนต์นั่งอย่างน่าเสียดาย เพราะในตลาดโลกอีซูซุไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จนไม่คุ้มทุนที่จะพัฒนารถยนต์นั่งส่วนบุคคลอีกต่อไป
{{clear}}
== รุ่นที่ 3 ([[พ.ศ. 2537]]-[[พ.ศ. 2540|2540]]) ==
[[ไฟล์:ISUZU ASKA3-1.jpg|250px|thumbnail|right|อีซูซุ อาสก้า รุ่นที่ 3]]
อีซูซุ อาสก้า รุ่นที่ 3 เริ่มผลิตเมื่อปี [[พ.ศ. 2537]] โดยรุ่นนี้ได้ใช้แพลตฟอร์มร่วมกับ[[ฮอนด้า แอคคอร์ด]] เนื่องจากในขณะนั้น เป็นช่วงที่อีซูซุประกาศร่วมมือกับฮอนด้าในการผลิตรถยนต์พอดี ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า มีเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ระบบเกียร์เป็นเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ความยาว 4,675 มม. ความกว้าง 1,760 มม. ความสูง 1,410 มม.
 
อาสก้ารุ่นนี้เป็นอาสก้ารุ่นแรกที่ทางฮอนด้าผลิตให้ เป็น 1 ในโครงการความร่วมมือระหว่างอีซูซุกับฮอนด้า เนื่องจากอีซูซุจำเป็นต้องรักษาฐานลูกค้ารถยนต์นั่งของตนเองไว้อยู่ ในขณะเดียวกันฮอนด้าก็คิดได้แล้วว่าตนเองต้องขยายไลน์รถยนต์ออกจากรถยนต์นั่งได้แล้ว ทั้งตลาด MPV ซึ่งฮอนด้าเปิดตัว[[ฮอนด้า โอดิสซีย์]]ในปี [[พ.ศ. 2537]] แต่สำหรับตลาด SUV ที่ในยุคนั้นคนนิยมใช้รถ SUV ที่สร้างขึ้นบนพิ้นฐานของรถกระบะ ฮอนด้ากลับไม่มีแผนพัฒนารถกระบะขนาดกลางที่ประเทศไทยนิยม ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพัฒนา SUV จากพื้นฐานของรถเก๋งไปก่อน ในระหว่างการพัฒนา อีซูซุตัดสินใจส่งรถ SUV ให้กับฮอนด้าในตลาดญี่ปุ่น และรถกระบะในตลาดไทย ส่วนฮอนด้าก็ส่งรถเก๋งและรถ MPV ให้อีซูซุในตลาดญี่ปุ่นและไทย
{{clear}}
== รุ่นที่ 4 ([[พ.ศ. 2541]]-[[พ.ศ. 2545|2545]]) ==
[[ไฟล์:ISUZU ASKA4-1.jpg|250px|thumbnail|right|อีซูซุ อาสก้า รุ่นที่ 4]]
อีซูซุ อาสก้า รุ่นที่ 4 เริ่มผลิตเมื่อปี [[พ.ศ. 2541]] ยังคงใช้แพลตฟอร์มร่วมกับฮอนด้า แอคคอร์ดเช่นเดิม ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า เครื่องยนต์ 1.8 และ 2.0 ลิตร ใช้เกียร์ธรรมดา 5 สปีดและเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ความยาว 4,635 มม. ความกว้าง 1,695 มม. ความสูง 1,420 มม. และเลิกผลิตไปเมื่อปี [[พ.ศ. 2545]] โดยที่ไม่มีรถรุ่นใหม่เข้ามาผลิตและจำหน่ายต่อ ถือเป็นการปิดตำนานรถยนต์นั่งของอีซูซุตั้งแต่บัดนั้น และแน่นอนแล้วว่าอีซูซุจะไม่มีการกลับมาผลิตรถยนต์นั่งจำหน่ายอีกต่อไป คงเหลือแต่การผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์และการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลเพื่อป้อนผู้ผลิตรายอื่นๆ โดยเฉพาะ GM เท่านั้น
 
== อ้างอิง ==