ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชนกรรมาชีพ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
'''ชนกรรมาชีพ''' ({{lang-en|proletariat}}) เป็นคำใช้อธิบายชนชั้น[[ลูกจ้าง]] (โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนงานอุตสาหกรรม) ในสังคมทุนนิยมซึ่งครอบครองมูลค่าทางวัตถุ (material value) ที่สำคัญอย่างเดียว คือ พลังแรงงาน (labour-power) หรือความสามารถในการทำงาน<ref>[http://www.thefreedictionary.com/proletariat proletariat]. Accessed: 6 June 2013.</ref> สมาชิกของชนชั้นนี้เรียก ชนกรรมาชีพ
 
== การใช้ในทฤษฎีลัทธิมากซ์ ==
ทฤษฎี[[ลัทธิมากซ์]]ใช้คำว่า ชนกรรมาชีพ กับชนชั้นทางสังคมซึ่งไม่เป็นเจ้าของ[[ปัจจัยการผลิต]]และสามารถยังชีพได้ด้วยวิธีเดียว คือ ขายพลังแรงงานของตน<ref>{{cite book |last=Marx|first=Karl|title=Das Kapital, Kritik der politischen Ökonomie|trans_title=Capital: Critique of Political Economy|year=1887|publisher=Progress Publishers|location=Moscow|url=http://www.marxists.org/archive/marx/works/1867-c1/ch06.htm|authorlink=Karl Marx|editor=Frederick Engels|accessdate=10 February 2013|format=html|chapter=Chapter Six: The Buying and Selling of Labour-Power}}</ref>เพื่อให้ได้[[ค่าจ้าง]]หรือ[[เงินเดือน]] ชนกรรมาชีพเป็นลูกจ้าง ทว่าบ้างอาจเรียกผู้ได้รับเงินเดือนว่า salariat อย่างไรก็ดี สำหรับมากซ์ ลูกจ้างอาจได้เงินเดือนแทนที่จะได้ค่าจ้างโดยตัวเอง ลัทธิมากซ์มองชนกรรมาชีพและ[[ชนชั้นกระฎุมพี]] (bourgeoisie) ว่าอยู่ในฐานะที่ขัดแย้งกัน เพราะคนงานปรารถนาให้ค่าจ้างของตัวให้สูงที่สุดเท่าที่เป็นไปได้โดยอัตโนมัติ ขณะที่เจ้าของและตัวแทนปรารถนาให้ค่าจ้าง (ราคา) ต่ำที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
 
ในทฤษฎีลัทธิมากซ์ ขอบเขตระหว่างชนกรรมาชีพกับ[[ชนชั้นนายทุนน้อย]] (petite bourgeoisie) บางส่วน ซึ่งอาศัยการจ้างตนเอง (self-employment) ณ รายได้ซึ่งเท่ากับหรือน้อยกว่าค่าจ้างปกติเป็นหลักแต่ไม่ใช่ทั้งหมด กับ[[Lumpenproletariat|ลุมเพนโพรเลทารีอัท]] (Lumpenproletariat) ซึ่งไม่อยู่ในการจ้างงานตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องนิยามชัดเจน ขณะที่มักเป็นการยากที่จะตัดสินว่าปัจเจกบุคคลอยู่ในชนชั้นใด จากจุดยืนของสังคมทั้งหมด การแบ่งชนชั้นนั้นไม่อาจแย้งได้ หลักฐานยืนยันว่ามีการแบ่งชนั้ชนที่ง่ายที่สุด คือ [[การต่อสู้ระหว่างชนชั้น]] เช่น [[การนัดหยุดงาน]] แม้ลูกจ้างคนหนึ่งอาจไม่แน่ใจว่าตัวอยู่ในชนชั้นใดในความรู้สึกแห่งตน แต่เมื่อเพื่อนร่วมงานของเขานัดหยุดงาน ในทางวัตถุพิสัย (objectively) เขาถูกบังคับให้ปฏิบัติตามชนชั้นหนึ่ง (คือ เพื่อนร่วมงานของเขา หรือชนกรรมาชีพ) มากกว่าอีกชนชั้นหนึ่ง (คือ ชนชั้นกระฎุมพี) มากซ์กำหนดข้อแตกต่างชัดเจนระหว่างชนกรรมาชีพซึ่งเป็นคนงานได้เงินเดือน ซึ่งเขามองว่าเป็นชนชั้นก้าวหน้า กับลุมเพนโพรเลทารีอัท "ชนกรรมาชีพผ้าขี้ริ้ว" (rag-proletariat) คือ ผู้ยากจนที่สุดในสังคมและผู้ที่สังคมไม่ยอมรับ (outcast) เช่น ขอทาน นักหลอกลวง ผู้ให้ความบันเทิง (entertainer) ผู้แสดงขอเงิน (busker) อาชญากรและโสเภณี ซึ่งเขามองว่าเป็นชนชั้นเสื่อม (retrograde)<ref>[http://www.britannica.com/eb/article-9049344/Lumpenproletariat Lumpen proletariat – Britannica Online Encyclopedia]</ref><ref>{{cite book |last=Marx|first=Karl|title=Manifesto of the Communist Party|year=1848|publisher=Progress Publishers|url=http://www.marxists.org/archive/marx/works/1848/communist-manifesto/ch01.htm|accessdate=10 February 2013|chapter=Bourgeois and Proletarians|month=February}}</ref> พรรคการเมืองสังคมนิยมมักมีความยุ่งยากต่อคำถามว่าพวกเขาควรแสวงการจัดระเบียบและเป็นตัวแทนของชนชั้นล่างทั้งหมด หรือเฉพาะชนกรรมาชีพลูกจ้าง
 
ตามลัทธิมากซ์ [[ทุนนิยม]]เป็นระบบซึ่งตั้งอยู่บน[[การแสวงหาประโยชน์]]จากชนกรรมาชีพโดยชนชั้นกระฎุมพี การแสวงหาประโยชน์ดังกล่าวเกิดขึ้นดังนี้: คนงาน ซึ่งไม่เป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ต้องใช้ปัจจัยการผลิตซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้อื่นเพื่อผลิต ผลคือ เพื่อหารายได้ประทังชีพ แทนที่จะจ้างปัจจัยการผลิตเหล่านั้น เขากลับถูกนายทุนจ้างและทำงานผลิตสินค้าหรือบริการให้ สินค้าและบริการเหล่านี้กลายเป็นทรัพย์สินของนายทุน ซึ่งไปขายที่ตลาด
 
ความมั่งคั่งที่ผลิตขึ้นส่วนหนึ่งถูกนำมาจ่ายเป็นค่าจ้างคนงาน (ต้นทุนแปรผัน) อีกส่วนหนึ่งใช้ทำปัจจัยการผลิตใหม่ (ต้นทุนคงที่) ขณะที่ส่วนที่สาม [[มูลค่าส่วนเกิน]] ถูกแบ่งระหว่างการหยิบฉวยส่วนตัวของนายทุน (กำไร) และเงินที่ใช้จ่ายค่าเช่า ภาษี ดอกเบี้ย ฯลฯ มูลค่าส่วนเกินแตกต่างกันระหว่างความมั่งคั่งที่ชนกรรมาชีพผลิตขึ้นผ่านงานของชนนั้น และความมั่งคั่งที่ชนกรรมาชีพบริโภคเพื่อยังชีพและให้แรงงานต่อบริษัทนายทุน<ref>Marx, Karl. The Capital, volume 1, chapter 6. http://www.marxists.org/archive/marx/works/1867-c1/ch06.htm</ref> มูลค่าส่วนเกินส่วนหนึ่งใช้เพื่อทำใหม่หรือเพิ่มปัจจัยการผลิต อาจเป็นในเชิงปริมาณหรือคุณภาพ (คือ มูลค่าส่วนเกินเปลี่ยนเป็นทุน) และเรียก มูลค่าส่วนเกินที่กลายเป็นทุน (capitalised surplus value)<ref>Luxemburg, Rosa. The Accumulation of Capital. Chapter 6, Enlarged Reproduction, http://www.marxists.org/archive/luxemburg/1913/accumulation-capital/ch06.htm</ref> ชนชั้นนายทุนบริโภคสิ่งที่เหลืออยู่ถูกนายทุนบริโภค
 
โภคภัณฑ์ที่ชนกรรมาชีพผลิตและนายทุนขายถูกคำนวณเป็นมูลค่าตามปริมาณแรงงานซึ่งรวบรวมอยู่ในนั้น สิ่งเดียวกันเกิดขึ้นสำหรับกำลังแรงงานของคนงานเอง คือ มันถูกคำนวณเป็นมูลค่า ไม่ใช่สำหรับปริมาณความมั่งคั่งที่ผลิต แต่เป็นปริมาณแรงงานที่จำเป็นเพื่อผลิตและผลิตซ้ำ ฉะนั้น นายทุนจึงได้ความมั่งคั่งจากแรงงานของลูกจ้างตัว หาใช่การทำหน้าที่การเข้ามีส่วนร่วมของบุคคลในกระบวนการผลิต ซึ่งอาจไม่มีเลย หากเป็นการทำหน้าที่ของความสัมพันธ์เกี่ยวกับกฎหมายของทรัพย์สินต่อปัจจัยการผลิต นักลัทธิมากซ์แย้งว่า ความมั่งคั่งใหม่ถูกสร้างขึ้นผ่านแรงงานที่ใช้กับทรัพยากรธรรมชาติ<ref>Marx, Karl. Critique of the Gotha Programme, I. http://www.marxists.org/archive/marx/works/1875/gotha/ch01.htm</ref>
 
มากซ์แย้งว่าชนกรรมาชีพมีเป้าหมายเพื่อแทนที่ระบบทุนนิยมด้วย[[ลัทธิเผด็จการโดยชนกรรมาชีพ]] ยุบความสัมพันธ์ทางสังคมที่รองรับระบบชนชั้น แล้วพัฒนาสู่สังคม[[คอมมิวนิสต์]]ซึ่ง "การพัฒนาแต่ละบุคคลอย่างอิสระเป็นเงื่อนไขของการพัฒนาทุกคนอย่างอิสระ"<ref>Marx, Karl. The Communist Manifesto, part II, Proletarians and Communists http://www.marxists.org/archive/marx/works/1848/communist-manifesto/ch02.htm</ref>
 
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
 
[[หมวดหมู่:ชนชั้นทางสังคม]]