ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รอสส์ บาร์กลีย์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Sry85 ย้ายหน้า รอส บาร์คลีย์ ไปยัง รอส บาร์กลีย์
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 56:
| nationalteam-update = match played 6 September 2013
}}
'''Ross Barkley''' {{IPAc-en|ˈ|b|ɑr|k|l|i}} (เกิด 5 ธันวาคม 1993) เป็นนักเตะที่เล่นตำแหน่ง[[ตำแหน่งผู้เล่นฟุตบอล|กองกลาง]] ให้กับ[[Everton F.C.|เอฟเวอร์ตัน]] และ [[England national football team|ทีมชาติอังกฤษ]] รอส บาร์คลี่ย์ เป็นผลผลิตของเอฟเวอร์ตัน อะคาเดมี่ ซึ่งเขาอยู่กับเอฟเวอร์ตันตั้งแต่อายุ 11 ปี และเริ่มเล่นให้กับเอฟเวอร์ตันตอนอายุ 15 ปีในชุดอายุต่ำกว่า 18 ปี
'''เอฟเวอร์ตัน'''
'''ฤดูกาล 2009-10'''
รอสส์ได้เล่นให้ทีมชาติอังกฤษรุ่นยู-16 7 ครั้ง และยิงได้ 2 ประตู ก่อนจะขยับขึ้นไปเล่นชุดยู-17 ในช่วงต้นฤดูกาล 2009/10 โดยการลงสนามรับใช้ทีมชาติอังกฤษยู-17 เป็นครั้งแรกในการพบกับคาซัคสถาน เมื่อเดือนตุลาคม 2009 และดาวรุ่งรายนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษชุดคว้าแชมป์ยูโร ยู-17 ปี 2010 ที่ประเทศลิกเตนสไตน์ในเดือนพฤษภาคมอีกด้วย บาร์คลีย์ทำได้ 1 ประตูในรอบแบ่งกลุ่มในการพบกับกรีซ โดยลงเล่นตลอด 90 นาทีในการเฉือนเอาชนะสเปน 2-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกที่ทีมชาติยู-17 ของสิงโตคำรามสามารถคว้าแชมป์รายการนี้ไปครอง เจ้าหนูบาร์คลีย์มีความสามารถและถือว่าเป็นอนาคตของทีมก็ว่าได้ด้วยการเล่นที่แข็งแกร่ง ซึ่ง [[มิเกล อาร์เตต้า]], [[ทิม เคฮิลล์]] นักเตะรุ่นพี่มีส่วนช่วยในการพัฒนาของเขาเป็นอย่างมาก
'''ฤดูกาล 2010-11'''
ในฤดูกาล 2010/11 เมื่อเขายังเป็นนักเตะอะคาเดมี่ปีแรก เขาได้ลงเล่นกับทีมสำรองของเอฟเวอร์ตันและยิงประตูได้ในเกมกับ [[เชลซี]] ที่[[สแตมฟอร์ด บริดจ์]] ซึ่งลงเอยด้วยการเสมอกันไป 1-1 เขามีชื่อบนม้านั่งสำรองในเกมเหย้าพรีเมียร์ลีกพบกับ นิวคาสเซิ่ล ในช่วงกลางเดือนกันยายน แต่หลังจากนั้นไม่นานเขามีอันต้องโชคร้ายขาหักตอนที่รับใช้ทีมชาติอังกฤษรุ่นยู-19 ทำให้เขาต้องจบฤดูกาลก่อนกำหนด อย่างไรก็ดีก็ยังมีด้านบวกบ้างเมื่อเขาได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพในเดือนธันวาคมเมื่ออายุได้ 17 ปีพอดี
'''ฤดูกาล 2011-12'''
บาร์คลี่ย์ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่บ่อยครั้งในช่วงปรีซีซั่นปี 2011 บาร์คลี่ย์ ก็ได้ฤกษ์ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในการเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรกนัดพ่าย ควีนสปาร์ค 0-1 ที่กูดิสัน พาร์ค เมื่อเดือนสิงหาคม ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีในการเล่นแบบใส่เต็มที่ไม่มีหมดของเขา ก้าวถัดไปคือการติดทีมชาติอังกฤษชุดยู-21 ในเดือนกันยายนที่ชนะอิสราเอล 4-1 ให้หลังอีก 1 เดือนหลังจากนั้นเขาก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกที่พบกับ นอร์เวย์ และจบลงด้วยชัยชนะ 2-1 ของทีมสิงโตคำราม เดือนธันวาคม 2011 ไม่นานหลังจากที่อายุครบ 18 เขาได้ตกลงทำสัญญาระยะยาวกับเอฟเวอร์ตันจนถึงปี 2016 บาร์คลีย์มักจะได้รับโอกาสให้ลงเล่นเป็นตัวสำรองอยู่เสมอในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล ขณะเดียวกันยังมีพัฒนาการที่ดีต่อเนื่องและโชว์ฟอร์มได้ดีในทีมสำรองของ อลัน สตั๊บบ์ส ในช่วงซัมเมอร์เขามีบทบาทสำคัญในทีมชาติอังกฤษชุดยู-19 และพาทีมสู่รอบสี่ทีมสุดท้ายในศึกยูโรที่เอสโตเนีย และกลับมาร่วมฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ช่วงปรีซีซั่นไม่นานหลังจากนั้นบาร์คลี่ย์ ยังทำได้ 1 ประตูในเกมกับ ดันดี ยูไนเต็ด ที่แทนนาไดซ์ด้วย
''''''เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์'''(ยืมตัว)'''
เดือนกันยายน 2012 บาร์คลี่ย์ถูกยืมตัวไปเล่นที่ [[เชฟฟิลด์ เว้นสเดย์]] 1 เดือน ก่อนที่จะขยายระยะเวลาออกไปจนถึงเดือนตุลาคม
บาร์คลี่ย์ลงเล่นให้กับทีม "นกเค้าแมว" ไปทั้งสิ้น 13 นัด โดยเป็นตัวสำรองหนึ่งหนและยิงได้ 4 ประตู ซึ่งรวมถึงประตูแรกในทีมชุดใหญ่ในนัดพ่ายโบลตัน 2-1 และนัดที่บุกไปถล่มอิปสวิช 3-0 ซึ่งเจ้าตัวเหมาคนเดียวสองประตูในเกมนั้น
'''กลับมาเอฟเวอร์ตัน'''
รอสส์กลับมาเอฟเวอร์ตันเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ปี2012 ก่อนที่จะถูกลีดส์ยืมตัวไปอีกครั้ง และกลับมาที่เอฟเวอร์ตันในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์
บาร์คลี่ย์เริ่มต้นลงสนามในนัดเยือนอาร์เซน่อลเมื่อเดือนเมษายน 2013 และยังเป็นหนึ่งในเกมที่เขาเล่นได้ดีที่สุดอีกด้วย เขาเกือบจะทำประตูชัยให้ทีมได้ด้วยลูกปั่นไซด์โค้งแต่พลาดชนสามเหลี่ยมบนเสียก่อน ซึ่งเกมนั้นจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0
เขาถูกเรียกไปติดทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปีในศึกเวิลด์ คัพยู-20 ในเดือนมิถุนายน 2013 และฟอร์มการเล่นของเขาในทัวร์นาเม้นต์นั้นทำให้ ปีเตอร์ เทย์เลอร์ ผู้จัดการทีมถึงกับออกปากชื่นชมว่าเป็นนักเตะระดับ "เวิลด์คลาส"
เขานำฟอร์มอันยอดเยี่ยมนั้นต่อยอดมาถึงฤดูกาล 2013/14 บาร์คลี่ย์ยิงประตูให้กับทีมในเกมการแข่งขันที่เป็นทางการครั้งแรกในเกมเสมอนอริช 2-2 นัดเปิดฤดูกาล ซึ่งเป็นช่วงเวลาไม่กี่วันหลังจากเขามีชื่อเป็นผู้ทำประตูในนัดที่ทีมสิงโตคำรามชุดยู-21 ถล่มสกอตแลนด์ 6-0
ความก้าวหน้าในอาชีพค้าแข้งของเขายังไม่หยุดลงแค่นั้นเมื่อ รอย ฮอดจ์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษได้เรียกเขาไปติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2013 ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ มอลโดว่า และ ยูเครน
 
 
== อ้างอิง ==