ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ระวังสับสน|มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์}}
 
{{ปรับภาษา}}
 
{{ใช้ปีคศ|width=280px}}
{{กล่องข้อมูล วัดคริสต์ศาสนา
เส้น 10 ⟶ 7:
| คำบรรยายภาพ = แอบบีเวสต์มินสเตอร์
| ชื่อเดิม = เซนต์เซวิเออร์
| ฐานะวัด = [[แอบบี|วิหารบีย์]]
| นิกาย = [[แองกลิคัน]]
| โครงสร้าง =
เส้น 22 ⟶ 19:
| ปีสร้างเสร็จปัจจุบัน = สร้างต่อเนื่อง
| ผู้สร้าง2 =
| แบบสถาปัตยกรรม = [[สถาปัตยกรรมกอธิคทิก|กอธิคทิก]]
| สูง =
| ทางเดินกลาง =
เส้น 36 ⟶ 33:
| ผู้ออกแบบผู้อื่น =
| รางวัล =
| สิ่งที่น่าสนใจ = สถานที่ที่ใช้ในการทำ[[พระราชพิธีบรมราชาภิเษก]]และที่ฝังพระบรมศพของ[[พระมหากษัตริย์อังกฤษ]]
| พิกัดภูมิศาสตร์ = {{Coord|51|29|58|N|0|7|39|W|type:landmark_scale:1000_region:GB}}
| เว็บไซต์ =
เส้น 42 ⟶ 39:
}}
 
'''เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์''' ({{lang-en|Westminster Abbey}}) เดิมเป็น[[อาราม]]ชนิด[[แอบบีบีย์]] แต่ปัจจุบันเป็น[[คริสต์ศาสนสถาน|โบสถ์]]ในนิกาย[[แองกลิคัน]]ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของ[[พระราชวังเวสต์มินสเตอร์]]ในแขวง[[นครเวสต์มินสเตอร์]] กรุง[[ลอนดอน]] [[แคว้นประเทศอังกฤษ]] สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบ[[สถาปัตยกรรมกอธิค|กอธิคทิก]]เป็นส่วนใหญ่นอกจากหอคอยที่เป็น[[สถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิคฟื้นฟูกอทิก]] แอบบีเวสต์มินสเตอร์เป็นสถานที่ที่ใช้ในการทำประกอบ[[พระราชพิธีบรมราชาภิเษก]]และที่ฝังพระบรมศพของพระมหากษัตริย์อังกฤษและพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ ระหว่างปี ค.ศ. 1546 ถึง 1556 แอบบีบีย์ได้รับเลื่อนฐานะขึ้นเป็น[[อาสนวิหาร]] ต่อมาในรัชสมัยของ[[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ|สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1]] แอบบีบีย์นี้ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็น[[พระอารามหลวงในอังกฤษ|พระอารามหลวง]] (Royal Peculiar)
 
== ประวัติ ==
เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์เริ่มสร้างเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 616 ณ ที่ตั้งปัจจุบันที่เดิมเรียกว่า[[เกาะธอร์นีย์ (ลอนดอน)|ธอร์น อาย (เกาะธอร์น)]] ซึ่งเป็นเกาะกลางแม่น้ำ ตามตำนานกล่าวว่าคนหาปลาใน[[แม่น้ำเทมส์]]ชื่ออัลดริชเห็นอัลดริชเห็นนักบุญ[[นักบุญปีเตอร์ซีโมนเปโตร]]มาปรากฏตัวใกล้กับที่ตั้งแอบบีในปัจจุบันบีย์ในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลของการที่แอบบีบีย์ได้รับปลาซาลมอนจากคนหาปลาใน[[แม่น้ำเทมส์]]ต่อมา แต่ตามหลักฐานที่น่าเชื่อถือกว่ากล่าวว่าในคริสต์ทศวรรษ 960 หรือต้นคริสต์ทศวรรษ 970 [[นักบุญดันสตัน]]ร่วมกับ[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบ|พระเจ้าเอ็ดการ์]]ได้ก่อตั้งชุมชน[[นักพรตอาราม]][[คณะเบเนดิกติน]]ขึ้นที่นี่ ต่อมา[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพธรรมสักขี]]ก็สร้างแอบบีบีย์ให้เป็นโบสถ์หินระหว่างปี ค.ศ. 1045 ถึงปี ค.ศ. 1050 เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังของพระองค์ แอบบีบีย์ได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ [[28 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1065]]<ref name=BriefHistory>{{cite web|url=http://www.westminster-abbey.org/history-research/a-brief-history/|title=A Brief History—Introduction to Westminster Abbey|publisher=Dean and Chapter of Westminster Abbey|accessdate=2008-04-19}}</ref> เพียงอาทิตย์เดียวก่อนที่จะเสด็จสวรรคตและใช้เป็นที่ฝังพระศพของพระองค์เอง ในปี ค.ศ. 1245 [[สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 3]] ก็ทรงสร้างแอบบีใหม่แทนแอบบีบีย์เดิมและทรงเลือกให้เป็นที่บรรจุพระศพของพระองค์เอง
 
[[ไฟล์:London westminster 1894.jpg|thumb|left|แผนผังมหาวิหาร ค.ศ. 1894]]
ภาพของแอบบีเดิมที่ในลักษณะที่เป็น[[สถาปัตยกรรมโรมาเนสก์]]ก็เหลืออยู่เพียงภาพที่ปรากฏอยู่ข้างๆ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์บน[[ผ้าปักบายู]] ทางแอบบีบีย์มีรายได้เพิ่มขึ้นจนขยายตัวจากนักพรตราวสิบกว่ารูปขึ้นไปเป็นราวแปดสิบรูป<ref>Harvey (1993); p. 2</ref>
 
อธิการของแอบบีผู้ซึ่งเป็นผู้คงแก่เรียนพำนักอยู่ไม่ไกลจาก[[พระราชวังเวสต์มินสเตอร์]]ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลที่เป็นศูนย์กลางของอำนาจทางการเมืองมาตั้งแต่หลังจาก[[การพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มัน]]ได้รับ[[ชัยชนะของชาวนอร์มันต่ออังกฤษ|ชัยชนะต่ออังกฤษ]] ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 11 และต่อมาอีกหลายร้อยปี ก็มักจะได้รับตำแหน่งในพระราชสำนักและในที่สุดก็มีสิทธิได้เป็นสมาชิกใน[[สภาขุนนาง]] เมื่ออำนาจทางด้านการเป็นผู้นำของคณะถูกย้ายไปอยู่ที่[[แอบบีคลูนีอารามกลูว์นี]]ในฝรั่งเศสในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 10 นักพรตของแอ็บบีเวสต์มินสเตอร์นสเตอร์แอบบีย์ก็มีโอกาสในการบริหารบริเวณที่ดินต่างๆต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าของซึ่งบางครั้งก็ไกลไปจากเวสต์มินสเตอร์เองมาก “นักพรตคณะเบเนดิกตินดูเหมือนจะปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตอย่างฆราวาสได้เป็นอย่างดี และโดยเฉพาะกับในหมู่ชนชั้นสูง” เป็นคำสรุปของบาร์บารา ฮาร์วีย์ ที่ทำให้เห็นภาพพจน์ของชีวิตประจำวัน<ref>Harvey (1993)</ref> ในแง่มุมของชนชั้นผู้ดีในสังคมชั้นสูงในยุคสมัยกลางและปลายยุคสมัยกลาง
 
แต่การที่มีที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ก็มิได้ทำให้นักพรตมีความสัมพันธ์กับพระมหากษัตริย์มากไปกว่าปกติ ในทางสังคมนักพรตของแอบบีก็ยังปฏิบัติตัวอย่างสมถะเช่นเดียวกับนักพรตอื่นๆ ในคณะเดียวกันที่อยู่ที่อื่น อธิการแอบบีก็ยังคงมีฐานะเป็นผู้เป็นเจ้าของที่ดินของชุมชนราวสองสามพันคนรอบๆ แอบบี ในฐานะผู้บริโภคและนายจ้างทางราชสำนักก็ช่วยส่งเสริมความเจริญทางเศรษฐกิจของเวสต์มินสเตอร์ นอกจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักกับเวสต์มินสเตอร์ก็เป็นความสัมพันธ์อันดี แต่ทางเวสต์มินสเตอร์ก็มิได้รับสิทธิพิเศษในการค้าขายใดๆ ในยุคกลาง<ref>Harvey (1993); p. 6f</ref> แอบบีเวสต์มินสเตอร์สร้างร้านค้าและที่อยู่อาศัยทางด้านตะวันตกแต่ก็เริ่มรุกเข้ามาในบริเวณของนักพรต
 
แอบบีกลายเป็นสถานที่ในการทำพระราชพิธีบรมราชาภิเศกของพระมหากษัตริย์[[นอร์มัน]]แต่ไม่มีองค์ใดที่ถูกฝังที่นั่นมาจนมาถึง[[สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 3]] ผู้ทรงอุทิศพระองค์แก่[[ลัทธินิยม]]พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพธรรมสักขี พระองค์ทรงสร้างแอบบีเวสต์มินสเตอร์ใหม่ในแบบ[[สถาปัตยกรรมกอธิค]]เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพ|นักบุญเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพธรรมสักขี]] ผู้ได้รับ[[การสถาปนาให้ประกาศเป็น[[นักบุญ]]ในปี ค.ศ. 1161 และเป็นที่สำหรับฝังพระบรมศพของพระองค์เอง งานการก่อสร้างยังคงทำกันต่อมาระหว่างปี ค.ศ. 1245 ถึงปี ค.ศ. 1517 และส่วนใหญ่ทำโดยสถาปนิก[[เฮนรี เยเวล]] (Henry Yevele) ในสมัย[[สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าริชาร์ดที่ 2]] ต่อมาในปี ในปี ค.ศ. 1503 [[สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 7 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 7]] ก็ทรงต่อเติมชาเปลแบบ[[เพอร์เพ็นดิคิวลาร์]] (Perpendicular Period) ทางด้านหลังสุดของแอบบีที่อุทิศให้แก่[[พระแม่พระนางมารีรีย์พรหมจารี]] (ที่รู้จักกันว่า “ชาเปลพระแม่มารีของพระเจ้าเฮนรีที่ 7”) หินที่ใช้สร้างแอบบีมาจากบีย์มาจาก[[ค็อง]] (Caen) ใน[[ฝรั่งเศส]] และในบริเวณ[[ลุ่มแม่น้ำลัวร์]]
 
 
ในปี ค.ศ. 1535 จากการสำรวจทรัพย์สินและรายได้ของโบสถ์ในอังกฤษก่อน[[พระราชกฤษฎีกาการยุบอาราม]]ทางการพบว่ารายได้ประจำปีของแอบบีเวสต์มินสเตอร์เป็นจำนวนประมาณ £2400-2800 ซี่งเป็นจำนวนที่มากเป็นที่สองรองจาก[[แอบบีกลาสตันบรี]] (Glastonbury Abbey) หลังจากนั้น[[สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 8]] ก็ทรงยึดการปกครองจากนักพรตมาทรงปกครองด้วยพระองค์เองในปี ค.ศ. 1539 และทรงยกฐานะแอบบีขึ้นเป็น[[อาสนวิหาร]]ในปี ค.ศ. 1540 และพระราชทาน[[พระราชเอกสารสิทธิ]] (letters patent) ก่อตั้งให้แอบบีเวสต์มินสเตอร์เป็น[[เขตมิสซังมุขมณฑล]]อิสระ--[[เขตมิสซังมุขมณฑลเวสต์มินสเตอร์]] การก่อตั้งแอบบีเวสต์มินสเตอร์ให้เป็นอาสนวิหารทำให้แอบบีรอดจากการถูกทำลายอย่างยับเยินเช่นแอบบีอื่นๆ เกือบทุกแอบบีในราชอาณาจักรอังกฤษในยุคเดียวกัน แต่เวสต์มินสเตอร์ก็เป็นอาสนวิหารอยู่ได้เพียงสิบปีจนถึงปี ค.ศ. 1550 วลี “โขมยจากปีเตอร์ไปจ่ายให้พอล” (robbing Peter to pay Paul) อาจจะมีรากมาจากยุคนี้คือเมื่อรายได้ที่ควรจะเป็นของแอบบีเวสต์มินสเตอร์ (ซึ่งเป็นแอบบีที่อุทิศให้แก่นักบุญปีเตอร์) ถูกโอนไปให้กับคลังของ[[มหาวิหารเซนต์พอล]]
 
[[สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1 แห่งอังกฤษ|สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1]]ผู้นับถือนิกายโรมันคาทอลิกได้พระราชทานแอบบีเวสต์มินสเตอร์คืนให้กับนักพรตเบเนดิกติน แต่ก็มาถูกยึดคืนโดย[[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ|สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1]] ในปี ค.ศ. 1559 ยี่สิบปีต่อมาในปี ค.ศ. 1579 พระองค์ก็พระราชทานฐานะแอบบีให้เป็น “[[พระอารามหลวงในอังกฤษ|พระอารามหลวง]]” ซึ่งหมายถึงการเป็นโบสถ์ที่ขึ้นตรงต่อองค์รัฏฐาธิปัตย์แทนที่จะขึ้นอยู่กับ[[มุขนายกเขตมิสซัง]] และพระราชทานชื่อใหม่ว่า “[[โบสถ์คอลเลจิเอตเซนตปีเตอร์]]”คริสตจักรเซนต์ปีเตอร์” (Collegiate Church of St Peter) ซึ่งเท่ากับเป็นการสิ้นสุดจากการเป็นแอบบีหรืออารามมาเป็นโบสถ์ที่ปกครองโดยดีน (dean) อธิการองค์สุดท้ายของแอบบีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นดีนองค์แรก
 
ในคริสต์ทศวรรษ 1640 ระหว่าง[[สงครามกลางเมืองอังกฤษ]]แอบบีได้รับความเสียหายจาก[[กลุ่มเพียวริตัน]]ที่พยายามบุกเข้ามา[[ลัทธิทำลายรูปเคารพ|ทำลายรูปเคารพ]]ต่างๆ แต่ก็ได้รับการปกป้องเพราะความที่อยู่ใกล้กับรัฐบาล[[เครือจักรภพแห่งอังกฤษ|เครือจักรภพ]] เมื่อ[[เจ้าผู้พิทักษ์]][[โอลิเวอร์ ครอมเวลล์]]ถึงแก่อสัญกรรมก็ได้รับการทำพิธีฝังศพกันอย่างอย่างใหญ่โตที่แอบบีในปี ค.ศ. 1658 แต่ร่างของครอมเวลล์ก็มาถูกขุดขึ้นมาเพียงอีกสามปีต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 1661 เพื่อนำมาแขวนคอที่ตะแลงแกงไม่ไกลจากแอบบีนัก