ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แวว มยุรา"
หน้าใหม่: {{กล่องข้อมูล นักแสดง | bgcolour = yellow | name = แวว มยุรา | image = | imagesize = | caption = | birthname = ส... |
(ไม่แตกต่าง)
|
รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:50, 28 มีนาคม 2557
แวว มยุรา หรือ แวว อาภัสรา (พ.ศ. 2505 - 24 มกราคม พ.ศ. 2532) มีชื่อจริงว่า สมหมาย เรียงษา เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่ง มีภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี เธอมีน้ำเสียงที่ เศร้าสร้อย หวานกังวาล ใสแจ๋ว ขึ้นอยู่กับเพลงที่ร้องแต่ละเพลง
แวว มยุรา | |
---|---|
เกิด | พ.ศ. 2505 สมหมาย เวียงษา |
เสียชีวิต | 24 มกราคม พ.ศ. 2532 (27 ปี) |
คู่สมรส | สกล อลงกรณ์ |
อาชีพ | นักร้อง |
ปีที่แสดง | พ.ศ. 2518-พ.ศ. 2532 |
สังกัด | วงดนตรีสายัณห์ สัญญา |
ประวัติ[1]
ก่อนเข้าวงการ
แวว มยุรา หรือ แวว อาภัสรา เกิดเมื่อ พ.ศ.2505 ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 2 อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี ครอบครัวมีอาชีพทำนา มีพี่น้อง 8 คน เธอเป็นคนที่ 4 เธอเข้าสู่วงการลูกทุ่งด้วยการประกวดร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก จนในที่สุดประมาณปี 2518 ได้เข้าประกวดร้องเพลงที่จัดโดยสถานีวิทยุ วศป. (ลพบุรี) ที่มี “ จันทร์จ๋า “ หัวหน้าวงดนตรีวงพรนารายณ์อันโด่งดังดำเนินงานอยู่ ด้วยเพลง " เสียงครวญจากสวนแตง " ของน้ำอ้อย พรวิเชียร จันทร์จ๋ามองเห็นความสามารถของเด็กหญิงอายุแค่ 10 ขวบจึงชวนมาร่วมวง ในที่สุดเธอก็มาเป็นบุตรบุญธรรมของ พร พรนารายณ์ เจ้าของวงดนตรีพรนารายณ์ และเริ่มต้นอาชีพนักร้องมาตั้งแต่เด็กในชื่อของ แวว อาภัสรา รุ่นไล่เรี่ยกันกับน้ำอ้อย พรวิเชียร โดยมีผลงานบันทึกเสียงเพลงแรกชื่อ “แม่ค้าแผงลอย“
ชีวิตการเป็นนักร้อง
ต่อมา เมื่อวงพรนารายณ์ยุบวงไป แววที่โตเป็นสาวแล้วก็ได้ย้ายไปอยู่กับวง สายัณห์ - ครรชิต (สายัณห์ จัทรวิบูลย์ กับ ครรชิต ขวัญประชา) จากนั้นก็มาอยู่กับวง สายัณห์ สัญญา และที่นี่ได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า แวว มยุรา และมีชื่อเสียงจากการร้องเพลงแก้กับเพลงของสายัณห์ และต่อมาก็พบรักกับสกล อลงกรณ์ หนึ่งในเจ็ดทีมพลังหนุ่ม ที่มีส่วนสำคัญที่ผลักดันให้วงสายัณห์ สัญญา มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมาก
ต่อมา สกล ที่ลงทุนทำร้านอาหารได้เกิดขัดแย้งกับหุ้นส่วนจนถูกยิงตาย และเมื่อสายัณห์ยุบวง ด้วยการสนับสนุนของ อุทัย ศรีสุวรรณ และสายัณห์ สัญญา แววก็ได้ตั้งวงของตัวเองขึ้นมา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนต้องขายบ้านของตัวเองออกไปเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ และหาเลี้ยงชีพตัวเองและญาติพี่น้องโดยการร้องเพลงตามคาเฟ่
บั้นปลายชีวิต
ชะตาชีวิตของเธอต้องพลิกผัน เมื่อ “สกล อลงกรณ์” ผู้เป็นสามี ถูกมือปืนลอบยิงเสียชีวิต ที่ห้องอาหาร แอล.เอ.คาเฟ่ ปากซอยพาณิชยการธนบุรี เมื่อต้นปี 2531 เธอคนเดียวไม่อาจแบกภาระได้ จึงต้องล้มเลิกวงดนตรี หลังจากนั้นก็เริ่มประสบปัญหาเรื่องการเงิน จนต้องขายบ้านที่ร่วมกันสร้างไว้กับสามี เพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่าย และมาเช่าห้องเป็นบ้านพักอยู่ที่ “นครหลวงคอนโดมิเนียม” ใกล้ ๆ กับสามแยกไฟฉาย และได้นำญาติพี่น้องมาอยู่ด้วยหลายคน โดยเธอเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ต่อมาเธอไปสมัครเป็นนักร้องคาเฟ่ ที่ห้องอาหาร “นภาลัยคาเฟ่” ย่านศูนย์การค้านครหลวง การเงินช่วงนี้ยังพออยู่ได้ แต่มรสุมชีวิตก็ถาโถมเข้าหาเธออย่างหนัก เมื่อนาย “สายชล เรียงสา” ผู้เป็นน้องชาย ซึ่งทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่ “นภาลัยคาเฟ่” ร่วมกับพวกรุมทำร้ายนักศึกษาธุรกิจการบิน ที่พาเพื่อนมาเที่ยวห้องอาหาร ถึงแก่ความตาย ต่อมาตำรวจจับกุมนายสายชลดำเนินคดี และไม่ประกันในชั้นศาล แวว มยุรา พยายามหาเงินมาประกันตัวน้องชายอย่างเต็มที่ แต่ยังขาดอยู่ 2 แสนบาท ไม่สามารถกู้ยืมจากใครได้ ทำให้เธอกลุ้มหนัก แม้กระทั่งไปขอความช่วยเหลือจากคนที่เธอให้ความนับถือที่สุด ก็ได้รับการปฏิเสธ ชีวิตเธอเหมือนหมดที่พึ่ง
กระทั่งเมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ.2532 ก่อนเวลา 09.30 น. เธอตัดสินใจหนีปัญหาชีวิต ด้วยการผูกคอตายในห้องน้ำ ที่ห้องเช่าเลขที่ ๒๖๑/๓๒๙ แฟลตนครหลวงคอนโดมิเนียม ชั้น ๔ เธอเสียชีวิตด้วยวัยเพียง ๒๗ ปี เท่านั้นเอง แวว มยุรา ได้ออกเทปชุดสุดท้ายก่อนตาย ชื่อชุด “สาวเวียงพิงค์” โดย “อุทัย ศรีสุวรรณ” ที่เฝ้ามองดูความเป็นอยู่ของเธอด้วยความสงสาร จึงอยากช่วยเหลือให้เธอกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง ได้ลงทุนทำเพลงชุดนี้ให้ บันทึกเสียงเสร็จเมื่อวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2532 แต่หลังจากนั้นไม่ถึง 2 อาทิตย์
การรำลึก
หลังการเสียชีวิต
ในช่วงที่อยู่กับวงดนตรีสายัณห์ สายัณห์ได้ให้บันทึกวีดีโอการแสดงสดของทางวงเก็บเอาไว้ และมีการนำวีดีโอชุดนี้ออกมาตัดเป็นวีซีดี 3 แผ่นเพื่อนำออกจำหน่าย ทำให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสเห็นแวว มยุรา ในช่วงที่กำลังโด่งดัง ขณะกำลังโลดแล่นอยู่บนเวทีเมื่อปี 2527
นักร้องที่นำบทเพลงของเธอมาร้องใหม่
- ตัวไกลใจเหงา - ฝน ธนสุนทร
- แอบรักแอบคิดถึง - ต่าย อรทัย
- น้องไม่มีสิทธิ์ - ต่าย อรทัย
- น้ำตาชาวนา - จอมขวัญ กัลยา
ผลงานการร้องเพลง
- ตัวไกลใจเหงา
- แอบรักแอบคิดถึง
- ห้องนอนคนจน
- น้องไม่มีสิทธิ์
- แฟนเดิม
- ใครลืมใครก่อน
- น้ำตาชาวนา
- สัญญาสามข้อ
- หมอนใจคนกลางคืน
- รักหล่นเมื่อฝนซา
- ฯลฯ