ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดีมีตาร์ เบร์บาตอฟ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 33:
ในปี 2000-2001 สถิติทำ 9 ประตูใน 11 เกมในฤดูกาล ทำให้[[ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซิน]] ทีมดังของแห่งศึกบุนเดสลีกา ตัดสินใจคว้าตัวดาวเตะชาวบัลแกเรีย มาช่วยล่าตาข่ายในเดือนม.ค. 2001
 
อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกของเบร์บาตอฟกับ[[ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซิน]]ไม่สวยหรูอย่างที่คิด เนื่องจากเขาทำได้แค่ 16 ประตูในการลงสนาม 67 นัดแรก โดยกว่าที่จะกลายเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของเลเวอร์คูเซิน ก็ต้องรอจนกระทั่งฤดูกาล 2003-04 ที่เขากดไป 16 ประตู จากการเริ่มต้นเป็นตัวจริง 24 นัด 2 ฤดูกาลถัดมา เบร์บาตอฟเริ่มทำผลงานได้ร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยสอยไปอีก 46 ประตู ซึ่งรวมถึง 5 ประตูในศึกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2004-05 และนั่นทำให้เขาเริ่มกลายเป็นที่สนใจของหลายสโมสรดังในยุโรป แต่สุดท้ายกลายเป็น[[สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์|ทอตนัมฮอตสเปอร์]] ทีมดังจากเกาะอังกฤษ ที่คว้าตัวรองดาวซัลโวบุนเดสลีกา ฤดูกาล 2005-06 ไปครองด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโร (ราว 800 ล้านบาท) และทำสัญญาอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2006 ประตูแรกของในเกมอย่างเป็นทางการนัดแรกของเบร์บาตอฟกับสเปอส์ เกิดขึ้นในเกมพรีเมียร์ชิปที่พบกับ[[สโมสรฟุตบอลเชฟฟีลด์ยูไนเต็ด|เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด]]ที่[[ไวต์ฮาร์ตเลน]] นอกจากนั้น การประสานงานที่เข้าขากับ[[ร็อบบี คีน]] ก็ทำให้ทีม "ไก่เดือยทอง" ทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศยูฟ่าคัพ ก่อนจะพ่ายให้กับ[[สโมสรฟุตบอลเซบียา|เซบียา]]ที่กลายเป็นแชมป์ในเวลาต่อมา เบร์บาตอฟจบฤดูกาลแรกกับสเปอส์ด้วยการทำ 12 ประตูในการลงสนามในพรีเมียร์ลีก 33 นัด และช่วยผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูอีก 11 ลูก และฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นดังกล่าวก็ทำให้เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของทีมไก่เดือยทองด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ยังติดทีมยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกเมื่อวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2007 ด้วย นอกจากจะโดดเด่นในระดับสโมสรแล้ว ในทีมชาติ เบร์บาตอฟก็ถือว่าเป็นกำลังสำคัญของทีมเช่นกัน โดยหลังจากที่ติดธงครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1999 แล้วเขาก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของบัลแกเรียถึง 3 สมัย ในปี ค.ศ. 2002, 2004 และ 2005 พร้อมกับทำหน้าที่กัปตันทีมด้วย
 
ฤดูกาล 2007-08 เบร์บาตอฟต้องเผชิญหน้ากับข่าวการย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเปิดตลาดซื้อขายนักเตะรอบ 2 ในเดือนม.ค. 2008 ซึ่งแม้ว่าฆวนเด ราโมส กุนซือของทีม จะออกมายืนยันหลายครั้งว่าสเปอส์ไม่มีความคิดที่จะขายศูนย์หน้าตัวเก่งรายนี้ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถลดกระแสข่าวลงได้เลย [[เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน]] ยอดผู้จัดการทีมของ[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] ไม่เคยปิดบังว่าเขาชื่นชอบทักษะและสัญชาตญาณการทำประตูของเบร์บาตอฟมากแค่ไหน แต่ความพยายามที่จะดึงตัวดาวยิงบัลแกเรียมาร่วมทีมอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ[[สโมสรฟุตบอลเชลซี|เชลซี]] ทีมเจ้าบุญทุ่มของเมืองผู้ดีก็พร้อมที่จะประเคนเงินก้อนโตให้สเปอส์ยอมใจอ่อนเช่นกัน เรื่องราวการย้ายทีมยังมีอย่างไม่ลดละ เบร์บาตอฟก็ได้แสดงออกอย่างชัดเจนในความต้องการที่จะย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ถึงขั้นเซ็นชื่อในเสื้อของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และในที่สุดเขาก็ได้ย้ายมาร่วมทีมนี้ด้วยค่าตัว 30.75 ล้านปอนด์ (หรือประมาณ 1,968 ล้านบาท)